เบต้าบล็อกเกอร์ (Beta Blockers) คือ ยาลดความดัน ที่ใช้ในการรักษาโรคความดันโลหิตสูง ซึ่งถ้าคุณเป็นโรคนี้อยู่ก็อาจจะคุ้นกับชื่อยานี้ก็ได้ แต่หลายคนอาจจะยังไม่ทราบว่าทำไมคุณถึงต้องรับประทาน แล้วยานี้จะช่วยลดความดันลงได้อย่างไร หาคำตอบได้ในบทความเรื่องนี้ จาก Hello คุณหมอ ค่ะ
ตัวอย่างของ ยาลดความดัน เบต้าบล็อกเกอร์
มี ยาเบต้าบล็อกเกอร์ หลายประเภท ที่สามารถรับประทานได้ บางชนิดก็จะมีผลทั้งกับหัวใจของคุณ และหลอดเลือดของคุณ ขณะที่บางชนิดจะมีผลแค่เฉพาะหัวใจ อย่างไรก็ตาม ส่วนใหญ่แล้วคุณจะไม่ใช้ยาเบต้าบล็อกเกอร์ทั้งหมด แพทย์ของคุณจะเป็นคนจ่ายยาที่เหมาะสมที่สุดให้กับคุณ
ตัวอย่างของ ยาเบต้าบล็อกเกอร์
- ยาอะซีบูโทลอล (Acebutolol) อย่างเช่น เซคทราล (Sectral)
- ยาอะทีโนลอล (Atenolol) อย่างเช่น เทนอร์มิน (Tenormin)
- ยาเบตาโซลอล (Betaxolol) อย่างเช่น เคอร์โลน (Kerlone)
- ยาบิโซโพรลอล(Bisoprolol) อย่างเช่น ซีเบต้า (Zebeta) หรือ ซีแอค (Ziac)
- ยาคาร์ทีโอลอล ไฮโดรคลอไรด์ (Carteolol hydrochloride) อย่างเช่น คาร์ทรอล (Cartrol)
- ยาคาร์วีดิลอล (Carvedilol) อย่างเช่น คอเร็ก (Coreg)
- ยาเมโทโพรลอล ทาร์เทรต (Metoprolol tartrate) อย่างเช่น โลเพรสโซ (Lopressor)
- ยาเมโทโพรลอล ซัคซิเนส (Metoprolol succinate) อย่างเช่น โทรโพรล-เอ็กซ์แอล (Toprol-XL)
- ยานาโดลอล (Nadolol) อย่างเช่น คอร์การ์ด (Corgard)
- ยาเนบิโวโลล (Nebivolol) อย่างเช่น บิสโทลิก (Bystolic)
- ยาเพนบูโทลอล ซัลเฟต (Penbutolol sulfate) อย่างเช่น เลวาทอล (Levatol)
- ยาพินโดลอล (Pindolol) อย่างเช่น วิสเคน (Visken)
- ยาโพรพราโนลอล (Propranolol) อย่างเช่น อินดีรัล แอลเอ (Inderal LA) หรือ อินโนพราน เอ็กซ์แล(InnoPran XL)
- ยาโซโลทอล ไฮโดรคลอไรด์ (Solotol hydrochloride) อย่างเช่น เบต้าเพซ (Betapace)
- ยาทิโมลอล มาลีเอท (Timolol maleate) อย่างเช่น โบลคาเดรน (Blocadren)
ทำไมถึงต้องใช้เบต้าบล็อกเกอร์
เราสามารถใช้ ยาเบต้าบล็อกเกอร์ เพื่อรักษา ป้องกัน และควบคุมอาการต่างๆ เช่น
- ความดันโลหิตสูง
- หัวใจเต้นผิดปกติ
- หัวใจล้มเหลว
- หัวใจวาย
- เจ็บหน้าอก
- ไมเกรน (ประเภทของการปวดหัวที่สามารถพัฒนาไปเป็นการปวดที่รุนแรงได้)
- อาการสั่นบางประเภท
แพทย์อาจสั่งยาตัวอื่นให้ก่อน เช่น ยาขับปัสสาวะ แต่ถ้ายานั้นใช้ไม่ได้ผล คุณก็อาจขอให้แพทย์จ่ายยาเบต้าบล็อกเกอร์ให้แทน โดยอาจใช้ ยาเบต้าบล็อกเกอร์ ร่วมกับยารักษาโรคความดันโลหิตสูงตัวอื่น ๆ ได้ เช่น ACE inhibitors ยาขับปัสสาวะ และ Calcium Channel Blockers เพราะในบางครั้งเบต้าบล็อกเกอร์ก็ไม่สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ถ้าไม่ได้ใช้ร่วมกับยารักษาโรคความดันโลหิตสูงตัวอื่น ๆ
ยาเบต้าบล็อกเกอร์ทำงานอย่างไร
ยาเบต้าบล็อกเกอร์ อาจช่วยหยุดยั้งผลกระทบของอะดรีนาลีน การเต้นของหัวใจ และเลือดที่ถูกส่งออกมาจากหัวใจก็จะลดลงด้วย ส่งผลให้หลอดเลือดมีขนาดกว้างขึ้น จนสามารถลดความดันโลหิตให้คุณได้
ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้
ผลข้างเคียงของ ยาเบต้าบล็อกเกอร์ มีอยู่หลายประการ ซึ่งบางคนอาจจะไม่พบผลข้างเคียงอะไรเลย แต่บางคนอาจมีอาการ เช่น อ่อนเพลีย มือเท้าเย็น น้ำหนักเพิ่มขึ้น
ส่วนอาการที่พบได้ไม่บ่อยก็คือ อาการนอนไม่หลับ ซึมเศร้า หัวใจเต้นช้าลง อาการคล้ายโรคหอบหืด (ไอ หายใจหอบหืด หายใจสั้นลง เจ็บหน้าอก แน่นหน้าอก)
ยาเบต้าบล็อกเกอร์ อาจกระตุ้นอาการหอบในผู้ที่มีอาการหอบหืดได้ และอาจหยุดยั้งสัญญานของภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำของผู้ที่เป็นโรคเบาหวานได้ นอกจากนี้ยาเบต้าบล็อกเกอร์ ยังอาจทำให้มีระดับไตรกลีเซอไรด์เพิ่มขึ้นเล็กน้อยด้วย การหยุดรับประทานยาเบต้าบล็อกเกอร์โดยทันที ทำให้เกิดความเสี่ยงต่ออาการหัวใจวายได้
ใครบ้างที่ไม่ควรรับประทาน ยาเบต้าบล็อกเกอร์
ยาเบต้าบล็อกเกอร์ อาจจะทำงานได้ไม่ดีกับผู้สูงอายุและคนผิวสี คนที่เป็นโรคหอบหืด โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับการหายใจ ความดันโลหิตต่ำขั้นรุนแรง หัวใจเต้นช้า ผู้หญิงมีครรภ์ ผู้หญิงที่ให้นมบุตรเอง หรือผู้หญิงที่พยายามตั้งครรภ์
ยาเบต้าบล็อกเกอร์ สามารถปิดกั้นสัญญาณอาการน้ำตาลในเลือดตกได้ ฉะนั้นจึงควรทำการตรวจสอบน้ำตาลในเลือดเป็นประจำ
ข้อควรกังวลอื่น ๆ
มีข้อควรระวังบางประการในการใช้ ยาเบต้าบล็อกเกอร์ ดังนี้
- น้ำเกรปฟรุตเป็นน้ำผลไม้ที่ส่งผลกระทบต่อการทำงานของยาเบต้าบล็อกเกอร์ได้
- แสงแดดและอากาศเย็น ยาเบต้าบล็อกเกอร์อาจทำให้คุณไวต่อแสงแดด และอากาศเย็นๆได้ จึงควรป้องกันตัวเองไม่ให้มีอาการผื่นแดง อาการไหม้แดด และโรคหวัด
เราสามารถใช้ ยาเบต้าบล็อกเกอร์ สำหรับโรคความดันโลหิตสูงได้ ซึ่งจะช่วยลดความดันโลหิตลง ด้วยการทำให้หัวใจเต้นช้า และบีบหัวใจของคุณเอาไว้ อย่างไรก็ตามยานี้อาจมีผลข้างเคียงได้เหมือนกัน ฉะนั้นถ้ามีอาการรุนแรงใดๆ เกิดขึ้น ควรปรึกษาแพทย์ทันที
[embed-health-tool-heart-rate]