ไวรัสตับอักเสบเอ เป็นการติดเชื้อไวรัสที่ส่งผลต่อตับ โรคไวรัสตับอักเสบเอ ถูกจัดให้เป็นโรคที่เกี่ยวข้องกับการเดินทาง และสามารถกลายเป็นโรคระบาดที่รุนแรง จนทำให้เกิดความสูญเสียทางเศรษฐกิจได้ เบื้องต้นเราลองมาหาความรู้จากโรคนี้ในบทความที่ Hello คุณหมอนำมาฝากกัน
โรคไวรัสตับอักเสบเอ คืออะไร
โรคไวรัสตับอักเสบเอ หรือโรคตับอักเสบเอ เกิดจากไวรัสตับอักเสบเอ ที่สามารถอยู่รอดได้ในสิ่งแวดล้อม เช่น น้ำ อาหาร ได้เป็นเวลานานที่ระดับค่า pH ต่ำและอุณหภูมิต่ำ
โรคไวรัสตับอักเสบเอ เป็นโรคติดต่อทางอาหารและน้ำ อาการป่วยมีตั้งแต่เล็กน้อยเป็นระยะเวลาไม่กี่สัปดาห์ ไปจนถึงอาการป่วยรุนแรงนานหลายเดือน
โรคไวรัสตับอักเสบเอ จะปรากฏแบบเฉียบพลันแค่ในช่วงแรกของการติดเชื้อ คนที่เป็นโรคนี้มักจะหายได้เอง โดยไม่ต้องเข้ารับการรักษา ต่างจากโรคไวรัสตับอักเสบบี และโรคไวรัสตับอักเสบซี ที่สามารถกลายเป็นโรคตับเรื้อรังได้
การแพร่เชื้อ
การแพร่เชื้อของโรคไวรัสตับอักเสบเอ เป็นการแพร่เชื้อผ่านทางอุจจาระหรือทางปาก โดยผ่านปัจจัยเหล่านี้
- การสัมผัสจากคนสู่คน เช่น การกัด แต่ไม่สามารถถ่ายทอดผ่านทางการสัมผัสทั่วๆ ไป เช่น การกอด การจับมือ การแตะตัว
- เมื่อผู้ที่ติดเชื้อใช้มือสกปรกสัมผัสกับสิ่งของ หรือเตรียมอาหารให้ผู้อื่น
- เมื่อไม่ได้ล้างมือ หรือทำความสะอาดสิ่งของและบริเวณที่สัมผัสกับผู้ติดเชื้อ
- มีเพศสัมพันธ์กับผู้ติดเชื้อโดยไม่ป้องกัน ไม่ว่าจะทางทวารหนัก ช่องคลอด ออรัลเซ็กส์ เป็นต้น
- บริโภคอาหารหรือน้ำที่ปนเปื้อน เนื่องจากเชื้อไวรัสตับอักเสบเอ สามารถแพร่กระจายผ่านน้ำและอาหารสกปรกได้ อาหารที่มีแนวโน้มปนเปื้อนเชื้อไวรัสตับอักเสบเอได้ง่าย ได้แก่ อาหารแช่แข็ง อาหารที่มักรับประทานโดยไม่ปรุงสุก เช่น ผัก ผลไม้ น้ำ
โรคไวรัสตับอักเสบเอ สามารถแพร่กระจายผ่านทางน้ำได้ ทำให้กลายเป็นโรคระบาดในวงกว้าง และสุดท้าย ก็อาจกลายเป็นความสูญเสียทางเศรษฐกิจ
อาการของโรค ไวรัสตับอักเสบเอ
อาการจะเริ่มปรากฏหลังจากติดเชื้อประมาณ 14 ถึง 28 วัน อย่างไรก็ตาม อาการที่เกิดขึ้นอาจแตกต่างกันไปตามแต่ละบุคคล บางคนอาจเป็นไวรัสตับอักเสบเอแล้วไม่แสดงอาการใดๆ เลยก็ได้
อาการของโรคไวรัสตับอักเสบเอ มีดังนี้
- เหนื่อยอ่อน
- เป็นไข้
- ปวดกล้ามเนื้อ
- คลื่นไส้
- อาเจียน
- ปวดข้อต่อ
- ปวดท้อง
- ตาเหลือง หรือผิวเหลือง
ผู้ป่วยโรคไวรัสตับอักเสบเอ ที่เป็นเด็กอายุต่ำกว่า 6 ปี มักไม่แสดงอาการใดๆที่สังเกตได้ อย่างไรก็ตาม หากคุณมีอาการข้างต้น ควรไปพบคุณหมอเพื่อตรวจวินิจฉัยโรคเพิ่มเติม
การรักษา
คนส่วนใหญ่ที่เป็นโรคตับอักเสบเอ ไม่จำเป็นต้องเข้ารับการรักษาพยาบาลใดๆ โรคนี้มักดีขึ้นหลังจากผ่านไปไม่กี่สัปดาห์ แต่บางคนอาจมีอาการนานถึง 6 เดือน
ควรปรึกษาคุณหมอ เพื่อหาทางเลือกในการรักษาที่ดีที่สุด ในขณะเป็นโรคไวรัสตับอักเสบเอ ควรตรวจร่างกายเป็นประจำ เพื่อเฝ้าสังเกตอาการและความคืบหน้าในการฟื้นฟูร่างกาย
การป้องกันโรคไวรัสตับอักเสบเอ
คุณสามารถหลีกเลี่ยงโรคตับอักเสบเอได้ด้วยการฉีดวัคซีน โดยต้องรับวัคซีนสองครั้ง สำหรับการป้องกันอย่างเต็มที่ เด็กทุกคนและผู้ใหญ่ที่มีความเสี่ยงในการเป็นโรคนี้สูง ควรได้รับการฉีดวัคซีน
หากคุณต้องเดินทางไปยังบริเวณที่พบโรคตับอักเสบเอหรือพื้นที่ที่มีความเสี่ยง ก็ควรได้รับวัคซีนก่อนเดินทาง หรือรับวัคซีนให้เร็วที่สุดเมื่อไปถึงที่หมายแล้ว หลังจากที่คุณหายจากโรคไวรัสตับอักเสบเอแล้ว คุณก็จะมีภูมิคุ้มกันต่อไวรัสตัวนี้ อย่างไรก็ตาม คุณยังสามารถติดเชื้อไวรัสตับอักเสบชนิดอื่นได้อยู่
คุณสามารถป้องกันตัวเองจากการเป็นโรคไวรัสตับอักเสบเอ ได้ด้วยการ
- ล้างมือด้วยน้ำและสบู่ให้สะอาด ทั้งก่อนการรับประทานอาหาร และหลังจากเข้าห้องน้ำ
- ล้างผักและผลไม้ให้สะอาดก่อนรับประทาน
- ดื่มน้ำที่สะอาดปลอดภัย
โรคไวรัสตับอักเสบเอ เป็นการติดเชื้อไวรัสที่ส่งผลต่อตับ แต่ไม่กลายเป็นโรคตับเรื้อรังได้เหมือนโรคไวรัสตับอักเสบบี และโรคไวรัสตับอักเสบซี คนส่วนใหญ่ที่เป็นโรคไวรัสตับอักเสบเอสามารถฟื้นฟูอาการให้ดีขึ้นได้ โดยไม่ต้องรับการรักษาใดๆ คุณยังสามารถปกป้องตัวคุณได้ด้วยการรับวัคซีน และรับประทานอาหารที่ปลอดภัย
Hello Health Group ไม่ได้ให้คำปรึกษาด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด