backup og meta

วิธีป้องกันอาการตาล้าจากสื่อดิจิทัล (Digital Eye Strain) ที่คนยุคดิจิทัลอย่างเราๆ ควรรู้

ปัญหาหนึ่งของผู้ที่ใช้งานอุปกรณ์ดิจิทัลทั้งคอมพิวเตอร์และสมาร์ทโฟนเป็นเวลานานหรือตลอดทั้งวัน นั่นก็คืออาจส่งผลให้เกิด  อาการตาล้าจากสื่อดิจิทัล แต่อาการตาล้าประเภทนี้เป็นอย่างไร และจะมี วิธีป้องกันอาการตาล้าจากสื่อดิจิทัล ได้อย่างไรบ้าง มาติดตามเคล็ดลับสุขภาพดีๆ กันได้ กับบทความนี้จาก Hello คุณหมอ

วิธีป้องกันอาการตาล้าจากสื่อดิจิทัล (Digital Eye Strain) ที่คนยุคดิจิทัลอย่างเราๆ ควรรู้

อาการตาล้าโดยทั่วไปกับอาการตาล้าจากสื่อดิจิทัล แตกต่างกันอย่างไร

อาการตาล้า และ อาการตาล้าจากสื่อดิจิทัล นั้น มีความเหมือนกันในเรื่องของลักษณะอาการ ทั้งความรู้สึกเมื่อยล้าที่ดวงตา มองเห็นภาพเบลอหรือภาพซ้อน มีอาการตาแห้ง ไปจนถึงอาการปวดศีรษะ เป็นต้น แต่จะมีความแตกต่างกันเพียงเล็กน้อยตรงที่สาเหตุที่ทำให้เกิดอาการตาล้านั้นเกิดจากปัจจัยที่แตกต่างกัน

อาการตาล้าโดยทั่วไป สามารถเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็น

  • การจ้องอยู่ที่หน้าจอคอมพิวเตอร์และสื่อดิจิทัลเป็นเวลานานๆ ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดอาการตาล้า และ อาการตาล้าจากสื่อดิจิทัล
  • การอ่านหนังสือโดยที่ไม่มีการหยุดพักสายตา
  • การเพ่งใช้สายตากับสิ่งใดสิ่งหนึ่งมากจนเกินไป
  • การขับรถในระยะทางที่ไกลและมีระยะเวลาที่ยาวนาน เนื่องจากต้องเพ่งสายตาไปที่ข้างหน้าตลอดการขับรถ
  • ดวงตาสัมผัสกับแสงสว่างที่มากจนเกินไป
  • การอ่านหนังสือ หรือมองจอคอมพิวเตอร์และสื่อดิจิทัลในที่มืดหรือที่มีแสงสว่างน้อย
  • มีปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพดวงตาอยู่แต่เดิมแล้ว เช่น ปัญหาตาแห้ง
  • การที่ดวงตาสัมผัสกับลักษณะอากาศแห้ง ทั้งที่มาจากพัดลมหรือเครื่องปรับอากาศ
  • เกิดความเครียด
  • เกิดความรู้สึกอ่อนเพลีย เมื่อยล้า

แต่สำหรับ อาการตาล้าจากสื่อดิจิทัล (Digital Eye Strain) นั้น มีสาเหตุหลักเพียงอย่างเดียวนั่นก็คือ การใช้สายตาอยู่กับหน้าจอคอมพิวเตอร์และสื่อดิจิทัลเช่น สมาร์ทโฟน มากจนเกินไป หรือใช้สายตาอยู่ที่หน้าจอของอุปกรณ์ดิจิทัลเหล่านั้นเป็นระยะเวลานานๆ หรือทั้งวันโดยที่ไม่ได้หยุดพักการใช้สายตา

วิธีป้องกันอาการตาล้าจากสื่อดิจิทัล มีอะไรบ้าง

  • สวมแว่นตาที่มีคุณสมบัติป้องกันแสง

ไม่ว่าคุณจะสวมใส่แว่นตามานานเท่าไหร่แล้ว หรือไม่เคยต้องสวมแว่นตาเลยเนื่องจากไม่มีปัญหาด้านสุขภาพดวงตา อย่างไรก็ตาม หากต้องทำงานอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ หรือใช้สื่อดิจิทัลเป็นประจำหรือทั้งวัน ควรพิจารณาการสวมแว่นที่มีคุณสมบัติช่วยในการกรองแสง เพื่อลดการสะท้อนของแสงจากหน้าจอของอุปกรณ์ดิจิทัล ก็จะช่วยป้องกัน อาการตาล้าจากสื่อดิจิทัล ไม่ให้ดวงตารู้สึกเมื่อยล้า หรือรู้สึกปวดที่ดวงตาเมื่อต้องเพ่งมองจอเป็นเวลานานๆ

  • จัดระยะห่างระหว่างอุปกรณ์ดิจิทัลและดวงตาให้เหมาะสม

หลายคนเวลาที่ใช้งานอุปกรณ์ดิจิทัลทั้ง คอมพิวเตอร์หรือสมาร์ทโฟน และมักจะใช้งานในลักษณะที่ใบหน้าอยู่ใกล้กับหน้าจอของอุปกรณ์มากจนเกินไป ซึ่งนั่นถือว่าเป็นช่วงระยะที่ไม่ดีต่อสุขภาพของดวงตา ดังนั้นเพื่อป้องกัน อาการตาล้าจากสื่อดิจิทัล ในเวลาใช้งานควรจะต้องให้อุปกรณ์ดิจิทัลอยู่ห่างจากใบหน้าอย่างน้อย 25 นิ้ว หรือมีระยะห่างเท่ากับช่วงแขน และหน้าจอควรอยู่ต่ำกว่าระดับสายตาเล็กน้อย ประมาณ 10-15 องศา

  • ปรับความสว่างของหน้าจออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์

แสงสว่างจากหน้าจอก็เป็นเรื่องสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นหน้าจอโทรศัพท์มือถือ หรือคอมพิวเตอร์ คุณควรปรับความสว่างให้มีความพอดี ไม่ให้แสงสว่างจ้าจนเกินไปเพราะจะทำให้แสบตา และก็ไม่ควรมืดจนเกินไป เพราะจะทำให้ต้องเพ่งสายตามากขึ้นกว่าเดิม

  • พกยาหยอดตาหรือน้ำตาเทียมไว้บ้าง

การใช้งานที่หน้าจอคอมพิวเตอร์ หรืออยู่กับหน้าจอสมาร์ทโฟนตลอดทั้งวัน นอกจากจะทำให้เกิด อาการตาล้าจากสื่อดิจิทัล แล้ว ก็อาจมีผลทำให้เกิดอาการตาแห้ง สามารถบรรเทาอาการตาแห้งได้ด้วยการใช้น้ำยาหยอดตาหรือน้ำตาเทียมที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ดวงตา

  • กะพริบตาบ่อยๆ

ดังที่ได้กล่าวไว้แล้วว่า การใช้งานที่หน้าจอคอมพิวเตอร์ หรืออยู่กับหน้าจอสมาร์ทโฟนตลอดทั้งวัน อาจมีผลทำให้เกิดอาการตาแห้ง การกะพริบตาเป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยรักษาความชุ่มชื้นให้แก่ดวงตา โดยใน 1 นาที ควรจะกะพริบตาให้ได้อย่างน้อย 7-15 ครั้ง หรือถ้าหากลืม ก็สามารถแปะโน้ตไว้ที่คอมพิวเตอร์เพื่อเตือนตัวเองไม่ให้ลืมกะพริบตา

  • พักสายตาจากการใช้งานอุปกรณ์ดิจิทัล

การใช้สายตาอยู่กับอุปกรณ์ดิจิทัลตลอดทั้งวัน มีผลให้เกิดปัญหาสุขภาพดวงตาหลายอย่าง ทั้งปัญหาตาแห้ง อาการตาล้า และ อาการตาล้าจากสื่อดิจิทัล การพักสายตาจากการใช้งานอุปกรณ์เหล่านี้ก็จะช่วยให้ดวงตาได้พักผ่อน ไม่ต้องเพ่งอยู่ที่หน้าจอตลอดทั้งวัน รวมถึงยังได้เป็นการพักผ่อนเพื่อร่างกายให้สดชื่น กระปรี้กระเปร่า และผ่อนคลายความเมื่อยล้าจากการทำงานด้วย

  • ใช้สูตร 20-20-20

อีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยป้องกัน อาการตาล้าจากสื่อดิจิทัล สูตร 20-20-20 ก็คือ พักสายตาทุกๆ 20 นาที เพื่อมองวัตถุอื่นที่อยู่ไกลออกไป 20 ฟุต เป็นเวลาอย่างน้อย 20 วินาที

เมื่อไหร่ควรไปพบคุณหมอ

หากรู้สึกว่าอาการตาล้าและ อาการตาล้าจากสื่อดิจิทัล ที่เป็นอยู่ไม่มีทีท่าว่าจะดีขึ้น ควรหาโอกาสไปพบกับคุณหมอที่เชี่ยวชาญเฉพาะทาง หรือจักษุแพทย์ เพื่อทำการตรวจวัดสายตาหรือทำการวินิจฉัยเพื่อทพการรักษาอย่างถูกต้องและเหมาะสมต่อไป

หมายเหตุ

Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด

Computers, Digital Devices and Eye Strain. https://www.aao.org/eye-health/tips-prevention/computer-usage. Accessed on June 11, 2020.

Prevent Eyestrain From Digital Devices. https://www.webmd.com/eye-health/prevent-digital-eyestrain. Accessed on June 11, 2020.

Steps for Computer Eyestrain Relief for People with Chronic Dry Eye. https://www.healthline.com/health/shut-the-lid-on-chronic-dry-eye/computer-use. Accessed on June 11, 2020.

Eyestrain. https://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/eyestrain/symptoms-causes/syc-20372397. Accessed on June 11, 2020.

เวอร์ชันปัจจุบัน

26/08/2020

เขียนโดย Khongrit Somchai

ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย ทีม Hello คุณหมอ

อัปเดตโดย: Pattarapong Khuaphu


บทความที่เกี่ยวข้อง

สายตาเอียง สาเหตุ อาการ และวิธีการรักษา

ใช้สายตามากเกินจนเกิด อาการตาล้า จัดการอย่างไรดี?


ตรวจสอบข้อมูลความถูกต้อง โดย ทีม Hello คุณหมอ · เขียน โดย Khongrit Somchai · แก้ไข 26/08/2020

ad iconโฆษณา

คุณได้รับประโยชน์จากบทความนี้หรือไม่?

ad iconโฆษณา
ad iconโฆษณา