การคุมกำเนิดมีอยู่หลายวิธี แต่หนึ่งในวิธีที่ได้รับความนิยม คือ ยาคุมกำเนิด เหมาะสำหรับผู้มีเพศสัมพันธ์เป็นประจำ คู่สามีภรรยาที่มีคู่นอนเพียงคนเดียว เป็นการคุมกำเนิดแต่เพียงเท่านั้น ไม่สามารถป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้ โดยยาคุมกำเนิดมีอยู่ 2 แบบ ยาคุม 28 เม็ด กินอย่างไรให้ถูกต้องและปลอดภัย
[embed-health-tool-ovulation]
ยาคุมกำเนิด คืออะไร
ยาคุมกำเนิด เป็นการคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพ หากกินอย่างถูกวิธี ลักษณะของยาคุมกำเนิด แบ่งได้ดังนี้
- ยาคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนรวม ตัวยาจะมีฮอร์โมนเอสโตรเจนและโปรเจสเตอโรน ซึ่งเป็นยาคุมกำเนิดทั่วไปที่เภสัชกรและแพทย์แนะนำ ซึ่งลดโอกาสการตั้งครรภ์ให้เหลือเพียงร้อยละ 0.3 เท่านั้น
- ยาคุมกำเนิดชนิดเม็ดแบบฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน แบบเดี่ยว ยาคุมชนิดนี้สำหรับแม่ให้นมลูก
- ยาคุมกำเนิดชนิดเม็ดแบบฉุกเฉิน ใช้เฉพาะกรณีฉุกเฉิน เมื่อมีเพศสัมพันธ์แบบไม่ได้ป้องกัน หรือการคุมกำเนิดที่ใช้อยู่ผิดพลาด
ยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนรวมจะยับยั้งการตกไข่ ทำให้มีประสิทธิภาพในการป้องกันการตั้งครรภ์ อาจลดการสร้างเมือกและเพิ่มความหนืดของเมือกปากมดลูกด้วย ช่วยให้ตัวอสุจิไม่อาจเดินทางไปปฏิสนธิกับไข่ อีกทั้งเพิ่มการบีบตัวของท่อนำไข่และบีบตัวของมดลูก จึงทำให้ไข่ที่ปฏิสนธิแล้ว มาถึงโพรงมดลูกในเวลาที่ไม่เหมาะสมในการฝังตัว รวมถึงส่งผลให้เยื่อบุมดลูกไม่พร้อมที่จะรับการฝังตัวของตัวอ่อน
ประเภทของ ยาคุมกำเนิด
ยาคุมกำเนิด ปัจจุบันมีอยู่ 2 แบบ ได้แก่
- ยาคุม 21 เม็ด ประกอบด้วยฮอร์โมนทั้ง 21 เม็ด เมื่อกินยาหมดแผงแล้ว ให้นับต่อไปอีก 7 วัน แล้วจึงเริ่มกินแผงใหม่ หลังจากหยุดยา 1-3 วันจะเริ่มมีประจำเดือน
- ยาคุม 28 เม็ด ประกอบด้วยเม็ดยาฮอร์โมน 21 เม็ด เม็ดแป้งหรือวิตามินอีก 7 เม็ด เมื่อหมดแผงยาคุม 28 เม็ด ให้เริ่มกินแผงใหม่ต่อได้ในทันที ยาคุม 28 เม็ด จึงเหมาะสำหรับคนที่กลัวว่าจะลืมกินยาคุมกำเนิด สังเกตได้ว่าเม็ดแป้งจะมีสีและขนาดเม็ดที่แตกต่าง โดยช่วงที่รับประทานเม็ดแป้ง 1-3 เม็ด ประจำเดือนจะเริ่มมา
ยาคุมกำเนิดทั้งยาคุม 21 เม็ด และยาคุม 28 เม็ด ต้องเริ่มกินภายในวันที่ 1 – 5 ของการเริ่มมีประจำเดือน โดยนับวันที่มีประจำเดือนวันแรกเป็นวันที่ 1 และให้กินยาคุมกำเนิด ติดต่อกันตามลูกศรกำหนดบนแผง และควรกินยาคุมกำเนิดให้ตรงเวลาทุกวัน หลังจากเริ่มกินแล้วให้กินอย่างต่อเนื่อง ช่วงเวลาเดิมหรือเวลาใกล้เคียง เพื่อประสิทธิภาพสูงสุดของการคุมกำเนิด
ผลข้างเคียงของ ยาคุม 28 เม็ด
- คลื่นไส้
- อาเจียน
- น้ำหนักตัวเพิ่ม
- บวมน้ำ
- ผื่นขึ้น
ลืมทานยาคุมกำเนิดต้องทำอย่างไร
หากเป็นยาคุม 28 วัน และเป็นเม็ดแป้ง ให้ทิ้งเม็ดที่ลืมแล้วรับประทานเม็ดถัดไปในเวลาเดิม แต่หากเป็นตัวยาฮอร์โมน ให้ดูรายละเอียด ดังนี้
หากลืมกิน 1 เม็ด
ลืมรับประทานยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนรวม 1 เม็ด นึกได้ในช่วงเลย 24 ชั่วโมงแต่ยังไม่ถึง 48 ชั่วโมง นับจากเวลาปกติที่รับประทานยาคุมในทุกวัน
- กินยาคุมทันที
- จากนั้นกินยาเม็ดถัดไปตามเวลาปกติ ซึ่งจะเป็นการกินยา 2 เม็ดในวันเดียวกัน
- อาจไม่ต้องใช้วิธีคุมกำเนิดอื่น
หากลืมกิน 2 เม็ด
ลืมรับประทานยาคุมกำเนิดติดต่อกัน 2 เม็ด เกิน 48 ชั่วโมง นับจากเวลาปกติที่รับประทานยาคุมในทุกวัน
- กินยาเม็ดที่ลืมล่าสุดทันที แต่ให้ทิ้งยาเม็ดอื่นที่ลืมก่อนหน้านั้น
- จากนั้นกินยาเม็ดถัดไปตามเวลาปกติ ซึ่งจะเป็นการกินยา 2 เม็ดในวันเดียวกัน
- ใช้วิธีการคุมกำเนิดอย่างอื่นร่วมด้วย เช่น ถุงยางอนามัย หรือหลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์ จนกว่าจะกินยาเม็ดที่มีฮอร์โมนติดต่อกันเป็นเวลา 7 วัน
รับประทานยาคุมกำเนิดเกิน 1 เม็ดต่อวัน อันตรายหรือไม่
หากเป็นยาคุม 28 เม็ด ที่มีเม็ดยาฮอร์โมน 21 เม็ด อาจทำให้การกินยาคุมกำเนิดคลาดเคลื่อนได้ โดยประสิทธิภาพการคุมกำเนิดยังได้ผล แต่อาจเพิ่มผลข้างเคียงต่อร่างกายและอาจอาจส่งผลให้รอบประจำเดือนเลื่อน อย่างไรก็ตาม สามารถรับประทานยาคุม 28 เม็ด จนหมดแผง แล้วเริ่มแผงใหม่ได้
ข้อควรระวังในการใช้ยาคุมกำเนิด
ยาคุมกำเนิดโดยทั่วไปสามารถรับประทานเพื่อคุมกำเนิดได้ ยกเว้นผู้ที่มีปัญหาสุขภาพ เช่น
- มีโรคลิ่มเลือดอุดตันที่ขา ปอด หรือสมอง
- โรคหัวใจ
- โรคความดันโลหิตสูง
- โรคเบาหวานที่ควบคุมไม่ได้ดี
- โรคมะเร็งเยื่อบุมดลูกหรือมีเลือดระดูผิดปกติที่ยังไม่รู้สาเหตุ
- โรคมะเร็งเต้านมหรือ มีก้อนผิดปกติที่เต้านมที่ยังไม่รู้สาเหตุ
- ผู้มีภาวะเสี่ยงต่อการเกิดลิ่มเลือดอุดตัน
- ผู้ที่มีปัจจัยเสี่ยงอื่น ๆ เช่น อายุมาก สูบบุหรี่ และอ้วน
- ผู้ที่มีการทำงานของตับที่ผิดปกติ
- ผู้ที่ตั้งครรภ์
การรับประทานยาคุมกำเนิด ควรปรึกษาเภสัชกรหรือแพทย์ เพื่อวางแผนการกินยาคุมกำเนิดให้เหมาะสมและปลอดภัย