ทั้งนี้ เชื้อ HIV เป็นเชื้อที่สามารถปรับตัวได้รวดเร็วและอาจดื้อยาได้ง่าย จึงจำเป็นต้องรับประทานยาหลายชนิดเพื่อให้ยาสามารถต้านไวรัสได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่วนใหญ่แล้วผู้ที่เข้ารับการรักษาการติดเชื้อ HIV และรับประทานยาอย่างต่อเนื่องจะมีปริมาณไวรัสน้อยลงจนตรวจไม่พบ (Undetectable HIV viral load) แต่ไม่ได้หมายความว่าไวรัสหายไปแล้วอย่างถาวร เพราะไวรัสอาจไปหลบซ่อนอยู่ในเซลล์ตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย เช่น สมอง ต่อมน้ำเหลือง หากหยุดรักษา เชื้อ HIV จะออกมาจากที่ซ่อนและไหลกลับเข้าสู่กระแสเลือด ผู้ติดเชื้อ HIV จึงต้องรับประทานยาไม่ให้ขาดเพื่อกดไวรัสไม่ให้เพิ่มจำนวนขึ้นมาอีก
โดยทั่วไป ผู้ติดเชื้อ HIV ในระยะที่ 2 ที่รับประทานยาต้านไวรัสทุกวันอาจอยู่ในระยะนี้ไปตลอดชีวิตโดยไม่เข้าสู่ระยะโรคเอดส์เลย และอาจมีชีวิตยืนนานใกล้เคียงกับผู้ไม่ติดเชื้อ แต่หากไม่ได้รับการรักษาอย่างเหมาะสม และเข้าสู่ระยะโรคเอดส์แล้ว ผู้ที่ติดเชื้อจำเป็นต้องได้รับการรักษาทางการแพทย์อย่างใกล้ชิด เพราะจะเสี่ยงเกิดโรคแทรกซ้อนหรือโรคติดเชื้อฉวยโอกาสได้ง่าย หากไม่ได้รับการรักษาทางการแพทย์ ผู้ติดเชื้อ HIV ในระยะโรคเอดส์อาจมีชีวิตอยู่ได้ไม่กี่ปีเท่านั้น
วิธีดูแลตัวเองเมื่อเป็นโรคเอดส์ระยะที่2
วิธีดูแลตัวเองเมื่อติดเชื้อ HIV ไม่ว่าจะเป็นการติดเชื้อ HIV ในระยะที่ 2 ที่มักเรียกกันว่า โรคเอดส์ระยะที่2 หรือในระยะอื่น ๆ อาจทำได้ดังต่อไปนี้
- รับประทานยาต้านไวรัสเป็นประจำทุกวัน และปฏิบัติตัวตามคำแนะนำของบุคลากรทางการแพทย์อย่างเคร่งครัด
- รักษาน้ำหนักตัวให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม
- นอนหลับให้เพียงพอ อย่างน้อย 8-10 ชั่วโมง/วัน
- รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เช่น ผักใบเขียว พืชตระกูลถั่ว ผลไม้ตระกูลส้ม ที่มีสารอนุมูลอิสระซึ่งดีต่อระบบภูมิคุ้มกัน อาหารโปรตีนสูง เช่น เนื้อไก่ไม่ติดมันและหนัง ไข่ไก่ โยเกิร์ต ชีส ที่ช่วยสร้างกล้ามเนื้อและช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันทำงานได้ดีขึ้น
- รับประทานอาหารมื้อเล็ก ๆ หลายมื้อ แทนการรับประทานอาหารมื้อใหญ่เพียง 2-3 มื้อ ในแต่ละวัน อาจช่วยลดอาการคลื่นไส้ที่เป็นผลข้างเคียงของยาต้านไวรัสได้
- ออกกำลังกายสม่ำเสมอเพื่อเสริมสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ ช่วยลดความเสี่ยงของการเป็นโรคซึมเศร้า ทั้งยังช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันสามารถต่อสู้กับเชื้อโรคต่าง ๆ ได้ดีขึ้นด้วย
- หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่เนื่องจากทำให้ร่างกายตอบสนองต่อยาต้านไวรัสได้น้อยลง และส่งผลเสียต่อระบบภูมิคุ้มกัน อาจทำให้เกิดโรคแทรกซ้อนอย่างมะเร็ง วัณโรคปอด ซึ่งเป็นสัญญาณว่าการติดเชื้อเข้าสู่ระยะโรคเอดส์
ความคิดเห็นทั้งหมด
แบ่งปันความคิดเห็นของคุณ
ร่วมแสดงความคิดเห็นของคุณกับ Hello คุณหมอ
สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ เพื่อร่วมการพูดคุย