backup og meta

ภาวะปลายเล็บร่น วิธีดูแลและรักษาด้วยตัวเองในเบื้องต้น

ภาวะปลายเล็บร่น วิธีดูแลและรักษาด้วยตัวเองในเบื้องต้น

ภาวะปลายเล็บร่น เป็นอาการที่เล็บแยกออกจากผิวหนังซึ่งไม่ได้ทำให้รู้สึกเจ็บปวดแต่อย่างใด แต่มักเป็นสัญญาณของโรคผิวหนัง หรือการติดเชื้อที่ควรจะต้องได้รับการรักษาอย่างถูกวิธี เพราะไม่เช่นนั้นอาจจะทำให้เกิดการติดเชื้อที่ร้ายแรง หรือทำให้เกิดอาการแทรกซ้อนต่าง ๆ ตามมาได้

[embed-health-tool-bmr]

ภาวะปลายเล็บร่น คืออะไร

ภาวะปลายเล็บร่น (Onycholysis) คือ อาการของโรคผิวหนังอย่างหนึ่ง โดยมีลักษณะของเล็บที่แยกออกจากผิวหนังที่อยู่ข้างใต้ ซึ่งเป็นปัญหาที่พบได้บ่อย และอาจเป็นสัญญาณของโรคผิวหนัง การติดเชื้อ หรือการบาดเจ็บ มักพบในผู้หญิงที่มีเล็บยาว และพบได้ทั้งเล็บมือและเล็บเท้า

ภาวะปลายเล็บร่นนั้นเมื่อเกิดขึ้นแล้วจะเป็นอยู่นานหลายเดือน เนื่องจากเล็บมือหรือเล็บเท้าจะไม่ติดกลับไปที่ผิวหนังใต้เล็บ ต้องรอให้เล็บใหม่งอกขึ้นมาทดแทนเล็บเก่าก่อน โดยปกติแล้วเล็บมือจะใช้เวลา 4-6 เดือนในการงอกใหม่อย่างเต็มที่ ส่วนเล็บเท้าอาจจะใช้เวลา 8-12 เดือน

สาเหตุที่ทำให้เกิดภาวะปลายเล็บร่น

สาเหตุที่ทำให้เกิดภาวะปลายเล็บร่นนั้น หากเป็นเล็บเท้า มักเกิดจากการสวมรองเท้าที่คับจนเกินไป จนมีอาการบาดเจ็บได้ นอกจากนั้นอาจเป็นผลจากการแพ้ผลิตภัณฑ์บางอย่าง เช่น น้ำยาล้างเล็บ เล็บเคมี เล็บปลอม รวมไปถึงอาจจะเป็นอาการของเชื้อราที่เล็บ หรือโรคสะเก็ดเงิน ส่วนสาเหตุนอกเหนือจากนี้ที่อาจเกิดขึ้น ได้แก่  การบาดเจ็บ การเคาะเล็บซ้ำ ๆ การตีกลอง

นอกจากนั้น ภาวะปลายเล็บร่นเป็นสัญญาณแรกที่ที่อาจบ่งบอกถึงการติดเชื้อรา หรือโรคต่อมไทรอยด์ รวมทั้งการที่ร่างกายได้รับวิตามินหรือแร่ธาตุที่จำเป็นไม่เพียงพออีกด้วย

วิธีการรักษาภาวะปลายเล็บร่นด้วยตัวเอง

เมื่อเกิดภาวะปลายเล็บร่น อาจดูแลตัวเองในเบื้องต้นดังนี้

  • ควรหมั่นตัดเล็บให้สั้นอยู่เสมอ
  • พยายามหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่จำเป็นต้องใช้เล็บหรือปลายนิ้วมือ
  • หลีกเลี่ยงการให้เล็บโดนสารเคมีหรือสารที่ก่อการระคายเคือง เช่น น้ำยาล้างจาน น้ำยาซักผ้า ควรสวมถุงมือหากต้องสัมผัสกับน้ำยาเหล่านั้น
  • หลีกเลี่ยงการใช้วัตถุแหย่เข้าไปเพื่อทำความสะอาดใต้เล็บ เพราะอาจทำให้ภาวะปลายเล็บร่นนั้นแย่ลงได้ เนื่องจากการผลักแบคทีเรียให้ลึกลงไปใต้เล็บ
  • ใช้ ทีทรีออยล์สามารถช่วยรักษาเชื้อราและการติดเชื้อยีสต์ที่เกิดขึ้นใต้เล็บได้ โดยผสมทีทรีออยล์ให้เจือจางด้วยน้ำมันตัวพา เช่น โจโจ้บาออยล์ หรือ น้ำมันมะพร้าว อาจช่วยกำจัดเชื้อราได้ แต่เล็บควรต้องแห้งสนิทเมื่อใช้นัำมันเข้าไปรักษาภาวะปลายเล็บร่น

อย่างไรก็ตาม หากพยายามรักษาภาวะปลายเล็บร่นด้วยตนเองแล้วพบว่าอาการไม่ทุเลาลง หรืออาการแย่ลง ควรเข้าพบคุณหมอ เพื่อเข้ารับการวินิจฉัย และการรักษาอย่างถูกต้องและเหมาะสมต่อไป

หมายเหตุ

Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด

Why Do My Nails Look Weird?. https://www.webmd.com/skin-problems-and-treatments/nails-look-weird. Accessed February 25, 2022.

ONYCHOLYSIS. https://www.aocd.org/page/onycholysis. Accessed February 25, 2022.

Onycholysis. https://www.dermatologyadvisor.com/home/decision-support-in-medicine/dermatology/onycholysis/. Accessed February 25, 2022.

Onycholysis. https://www.sciencedirect.com/topics/pharmacology-toxicology-and-pharmaceutical-science/onycholysis. Accessed February 25, 2022.

Nail Abnormalities: Clues to Systemic Disease. https://www.aafp.org/afp/2004/0315/p1417.html. Accessed February 25, 2022.

เวอร์ชันปัจจุบัน

31/08/2024

เขียนโดย สิฏฐิณิศา รัชตวโรทัย

ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย เนตรนภา ปะวะคัง

อัปเดตโดย: พลอย วงษ์วิไล


บทความที่เกี่ยวข้อง

ขอบเล็บอักเสบ ประเภท อาการ และการรักษา

กาวต่อเล็บ ทิ้งคราบไว้ ควรกำจัดอย่างไรดี


ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย

เนตรนภา ปะวะคัง


เขียนโดย สิฏฐิณิศา รัชตวโรทัย · แก้ไขล่าสุด 31/08/2024

ad iconโฆษณา

คุณได้รับประโยชน์จากบทความนี้หรือไม่?

ad iconโฆษณา
ad iconโฆษณา