ปัญหา ผิวแห้ง คัน ตกสะเก็ด อาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น อายุที่เพิ่มขึ้น การสัมผัสสารก่อภูมิแพ้ การสัมผัสสารเคมี สภาวะทางสุขภาพ โรคผิวหนัง การรักษาอาจทำได้ด้วยการทายาบรรเทาอาการคัน ใช้มอยส์เจอร์ไรเซอร์ที่เพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิว และดูแลผิวอย่างเหมาะสม ไม่แกะเกาเพราะอาจทำให้เกิดการติดเชื้อได้ หากดูแลเบื้องต้นแล้วอาการไม่ดีขึ้น ควรไปพบหมอผิวหนัง เพื่อให้คุณหมอวินิจฉัยและวางแผนรักษาอย่างเหมาะสม
ผิวแห้ง คัน ตกสะเก็ด เกิดจากสาเหตุใด
สาเหตุที่ทำให้ผิวแห้ง คัน ตกสะเก็ด อาจมีดังนี้
- อายุ เมื่ออายุมากขึ้น โดยเฉพาะผู้ที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไป ผิวหนังมักบางลงและไม่สามารถกักเก็บความชุ่มชื้นไว้ได้เหมือนเดิม อาจมีอาการผิวแห้ง คัน และตกสะเก็ดเป็นขุยได้
- สารเคมีในผลิตภัณฑ์ เช่น สบู่ ผงซักฟอก น้ำยาล้างจาน น้ำยาล้างห้องน้ำ อาจมีฤทธิ์กัดกร่อนที่ทำให้บางคนมีอาการผิวแห้งลอก หรือเกิดอาการคันได้
- อาการแพ้ เช่น แพ้เครื่องสำอาง แพ้เกสรดอกไม้ แพ้เหงื่อตัวเอง แพ้ฝุ่น เมื่อผิวสัมผัสกับสารก่อภูมิแพ้ก็อาจทำให้เกิดผื่นแดง คัน ตกสะเก็ด และอาจมีอาการนานหลายวัน
- สภาวะทางสุขภาพ เช่น โรคเบาหวาน โรคผิวหนังอย่างโรคเซ็บเดิร์ม (Seborrheic Dermatitis) โรคผิวหนังอักเสบ (Eczema) โรคน้ำกัดเท้า โรคกลาก โรคเกลื้อน โรคสะเก็ดเงิน อาจทำให้ผิวแห้งลอก ตกสะเก็ด มีผื่นคัน ไปจนถึงแสบร้อนบริเวณผิวหนังที่ติดเชื้อ
อาการของปัญหาผิวแห้ง คัน ตกสะเก็ด
อาการของปัญหาผิวแห้งลอก คัน และตกสะเก็ด ที่พบได้บ่อย อาจมีดังนี้
- รู้สึกว่าผิวตึงผิดปกติ
- ผิวแห้ง ผิวไม่ชุ่มชื้น
- ผิวแตก อาจแตกรุนแรงจนเป็นร่อง
- ผิวมีผื่นคัน
- ผิวหนังเป็นขุย หลุดลอกเป็นแผ่น หรือตกสะเก็ด
เมื่อมีปัญหาผิวแห้ง คัน ตกสะเก็ด เป็นเวลานาน อาจส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวัน เช่น รบกวนการนอนหลับ กระทบต่อสุขภาพจิต นอกจากนี้ หากดูแลผิวหนังที่แห้ง คัน ตกสะเก็ดได้ไม่ดี และแกะเกาแผลเป็นประจำ อาจทำให้ผิวอ่อนแอ ระคายเคือง เพิ่มความเสี่ยงในการเกิดแผลเป็นและการติดเชื้อผ่านผิวหนังบริเวณที่มีปัญหาได้ง่ายขึ้น
วิธีรักษาเมื่อผิวแห้ง คัน ตกสะเก็ด
วิธีรักษาเมื่อผิวแห้ง คัน ตกสะเก็ด อาจทำได้ดังนี้
- ใช้ครีม โลชั่น หรือมอยส์เจอร์ไรเซอร์ที่ให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวเพื่อลดอาการผิวแห้ง หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของน้ำหอมและแอลกอฮอล์ เพราะอาจทำให้ผิวระคายเคือง แห้ง และคันมากขึ้น
- ทาครีมหรือยาขี้ผึ้งที่มีไฮโดรคอร์ติโซน 1% ซึ่งเป็นสเตียรอยด์ที่ช่วยลดอาการคัน แดง บวม และทำให้อาการหายได้เร็วขึ้น
- ทายาปฏิชีวนะ เช่น แบคซิทราซิน (Bacitracin) ฟูซิดิน (Fucidin) เพื่อป้องกันการติดเชื้อ
- หลีกเลี่ยงการแกะเกาผิวหนังบริเวณที่แห้ง คัน ตกสะเก็ด เพราะอาจทำให้ระคายเคืองและเลือดออก จนเกิดการติดเชื้อได้
การดูแลผิวอย่างถูกวิธีเพื่อป้องกัน ผิวแห้ง คัน ตกสะเก็ด
การดูแลผิวอย่างถูกวิธีเพื่อป้องกันผิวแห้ง คัน ตกสะเก็ด อาจทำได้ดังนี้
- รักษาสุขอนามัยให้ดีอยู่เสมอ การรักษาสุขอนามัยให้ดีด้วยการอาบน้ำทุกวัน อย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง ไม่ใส่เสื้อผ้าซ้ำ ไม่ใช้ของใช้ส่วนตัวร่วมกับผู้อื่น ซักเสื้อผ้า ชุดเครื่องนอนและผ้าเช็ดตัวเป็นประจำ อาจช่วยป้องกันโรคผิวหนังบางชนิด เช่น โรคกลาก โรคเกลื้อน โรคน้ำกัดเท้า ที่ทำให้เกิดอาการผิวแห้ง คัน ตกสะเก็ดได้
- ทาครีมให้ความชุ่มชื้น ใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวเพื่อให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวทุกวัน เช่น มอยส์เจอร์ไรเซอร์ทาหน้า โลชั่นทาตัว ครีมทามือ หรือทาปิโตรเลียมเจลเพราะช่วยป้องกันผิวไม่ให้สูญเสียน้ำ และแห้งมากจนตกสะเก็ด ควรทาครีมหลังอาบน้ำและตัวเปียกหมาด เพราะเป็นช่วงที่ผิวยังชื้นอยู่ อาจช่วยให้ครีมอาจซึมเข้าสู่ผิวได้ดีขึ้น
- ลดการใช้สบู่ระงับกลิ่นกาย สบู่ระงับกลิ่นกายอาจมีส่วนผสมที่ดึงความชุ่มชื้นออกจากผิว ทำให้ผิวแห้งกร้าน ก่อให้เกิดอาการคันและระคายเคืองได้ ควรใช้สบู่ชนิดนี้แค่ในบริเวณที่จำกัด เช่น ใต้วงแขน บริเวณขาหนีบ เท้า
- หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีแอลกอฮอล์ ควรเลือกผลิตภัณฑ์บำรุงผิว เช่น คลีนซิ่ง โทนเนอร์ โคโลญจ์ สเปรย์ฉีดผิวกาย โลชั่นหลังโกนหนวด ที่ไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ เพราะแอลกอฮอล์อาจระคายเคืองผิว ทำให้ผิวแห้งและคันได้
- ไม่อาบน้ำนานเกินไป การอาบน้ำบ่อยและนานเกินไป โดยเฉพาะการอาบหรือแช่น้ำอุ่นหรือน้ำร้อนจะทำให้ผิวสูญเสียน้ำมันธรรมชาติบนผิวหนัง ส่งผลให้ผิวแห้งกร้าน เกิดอาการคัน ผิวอ่อนแอ และเสี่ยงติดเชื้อได้ง่าย ควรอาบน้ำไม่เกิน 10 นาที ซับตัวเบา ๆ ให้ผิวเปียกหมาด จากนั้นทาครีมบำรุงผิว หลีกเลี่ยงการถูผิวแรง ๆ เพราะอาจทำให้ผิวระคายเคือง
- ใช้เครื่องเพิ่มความชื้นในอากาศ หากอากาศแห้งและมีความชื้นในอากาศต่ำอาจทำให้ผิวแห้งลอกได้ การใช้เครื่องทำความชื้นในอากาศภายในบริเวณบ้านจึงอาจช่วยความชื้น และป้องกันอาการผิวแห้งได้
- ใช้สบู่สำหรับคนผิวแห้ง หรือ สบู่ที่เหมาะสมกับสภาพผิว
- หลีกเลี่ยงการขัดผิว
[embed-health-tool-heart-rate]