backup og meta

เป็นฝีที่ก้น อาการ ปัจจัยเสี่ยงและภาวะแทรกซ้อน

ตรวจสอบข้อมูลทางการแพทย์โดย แพทย์หญิงเกศอร ป้องอาณา · โรคผิวหนัง · โรงพยาบาลสุขุมวิท


เขียนโดย ทัตพร อิสสรโชติ · แก้ไขล่าสุด 31/10/2022

    เป็นฝีที่ก้น อาการ ปัจจัยเสี่ยงและภาวะแทรกซ้อน

    เป็นฝีที่ก้น อาจมีสาเหตุมาจากการติดเชื้อในก้น หรืออาจเกิดจากแผลบริเวณเยื่อบุขอบทวารหนักติดเชื้อจนพัฒนากลายเป็นฝี ซึ่งมีลักษณะเป็นก้อนเนื้อที่เกิดขึ้นบริเวณเยื่อบุทวารหนักหรือบริเวณรอบข้างก้น ส่งผลทำให้มีอาการเจ็บปวด มีหนอง เลือดออกขณะขับถ่าย หรือไม่สามารถอั้นอุจจาระได้ สำหรับการรักษาฝีที่ก้นอาจทำได้หลายวิธี ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของคุณหมอ

    เป็นฝีที่ก้น เกิดจากอะไร

    เป็นฝีที่ก้น อาจมีสาเหตุมาจากการติดเชื้อในก้นที่ทำให้ฝีพัฒนาขึ้นเองในก้นหรือบริเวณรอบข้างก้น หรืออาจมีสาเหตุมาจากแผลบริเวณเยื่อบุขอบทวารหนักติดเชื้อ จนอาจทำให้มีอาการเจ็บปวดหรือมีเลือดออกขณะขับถ่าย นอกจากนี้ ยังอาจมีสาเหตุมาจากโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์หรือต่อมทวารหนักอุดตัน จนทำให้เกิดการติดเชื้อและพัฒนาไปเป็นฝีที่ก้นได้

    อาการเมื่อเป็นฝีที่ก้น

    เป็นฝีที่ก้นอาจทำให้เกิดอาการต่าง ๆ ดังนี้

  • เกิดโพรงที่ผิวหนังบริเวณก้น ผิวหนังบริเวณก้นเกิดการอักเสบ แดง และระคายเคือง
  • มีหนอง เลือด หรืออุจจาระไหลออกจากช่องทวารหนัก
  • มีกลิ่นเหม็นออกมาจากก้น
  • ปวดตุบ ๆ บริเวณรอบ ๆ ก้นและด้านในก้น โดยเฉพาะเวลาขยับตัว นั่ง ไอ หรือขณะถ่ายอุจจาระ
  • มีไข้ หนาวสั่น
  • มีปัญหาในการควบคุมการเคลื่อนไหวลำไส้ จนไม่สามารถกลั้นอุจจาระได้
  • ปัจจัยเสี่ยงที่อาจทำให้เป็นฝีที่ก้น

    ปัจจัยเสี่ยงที่อาจทำให้เป็นฝีที่ก้น มีดังนี้

    • ผู้ที่มีอายุประมาณ 40 ปีขึ้นไป อาจมีความเสี่ยงสูงในการเป็นฝีที่ก้น เนื่องจากความอ่อนแอของสุขภาพร่างกาย หรืออาจมีปัญหาบริเวณก้น
    • ผู้ที่เป็นโรคโครห์น (Crohn’s Disease) หรือโรคลำไส้อักเสบ
    • เคยเป็นฝีที่ก้นมาก่อนหน้านี้
    • เกิดการบาดเจ็บหรือการติดเชื้อที่บริเวณก้น
    • เคยเข้ารับการผ่าตัดหรือการฉายรังสีรักษามะเร็งทวารหนัก

    ภาวะแทรกซ้อนเมื่อเป็นฝีที่ก้น

    เป็นฝีที่ก้นอาจทำให้เกิดความเสี่ยงในการเกิดภาวะแทรกซ้อนที่ส่งผลเสียต่อสุขภาพ ดังนี้

    • การกลับมาเป็นฝีที่ก้นซ้ำอีก
    • การผ่าตัดฝีที่ก้นอาจทำให้เกิดปัญหาการควบคุมหูรูดทวารหนัก อาจทำให้มีอุจจาระไหลออกมาทางทวารหนักโดยไม่สามารถควบคุมได้
    • ติดเชื้อแบคทีเรียได้ง่ายขึ้น
    • มีรูหรือช่องทางเชื่อมต่อจากลำใส้ใหญ่บริเวณผิวหนังใกล้ ๆ ช่องทวารหนัก (Fistula Formation) โดยอาจเกิดขึ้นจากการพัฒนาของโรคหรือเกิดหลังจากผ่าตัด

    การรักษาเมื่อเป็นฝีที่ก้น

    การรักษาฝีที่ก้นอาจขึ้นอยู่กับตำแหน่งของทวารหนักที่เกิดฝี ซึ่งเป้าหมายการรักษา คือ การซ่อมแซมเนื้อเยื่อที่เสียหายและป้องกันการกลับมาเป็นซ้ำ โดยแนวทางการรักษาที่คุณหมออาจแนะนำ มีดังนี้

    การรักษาโดยไม่ผ่าตัด

    • การรักษาด้วยเชือก (Seton Placement) เป็นวิธีการใช้เชือกคล้องส่วนที่เป็นฝีเพื่อระบายหนองในฝีออก วิธีนี้อาจใช้รักษาร่วมกับการผ่าตัด
    • การรักษาด้วยไฟบริน (Fibrin) และคอลลาเจน เป็นวิธีการล้างทำความสะอาดหัวฝีและเย็บปิดรอยฝีด้วยการใช้เส้นใยโปรตีนไฟบริน โดยจะฉีดผ่านช่องว่างของฝี จากนั้นจะปิดช่องว่างของฝีด้วยโปรตีนคอลลาเจน

    การรักษาโดยการผ่าตัด

    การผ่าตัดเป็นวิธีการรักษาโดยการผ่าเปิดหัวฝีเพื่อระบายหนอง ขูด และล้างเนื้อเยื่อที่ติดเชื้อออก โดยอาจจำเป็นต้องตัดเอากล้ามเนื้อหูรูดออกบางส่วน ซึ่งคุณหมออาจแนะนำวิธีการผ่าตัดให้กับผู้ที่เป็นฝีบริเวณอวัยวะภายใน หรือฝีที่ไม่สามารถระบายหนองด้วยวิธีการอื่น

    หมายเหตุ

    Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด

    ตรวจสอบข้อมูลทางการแพทย์โดย

    แพทย์หญิงเกศอร ป้องอาณา

    โรคผิวหนัง · โรงพยาบาลสุขุมวิท


    เขียนโดย ทัตพร อิสสรโชติ · แก้ไขล่าสุด 31/10/2022

    advertisement iconโฆษณา

    คุณได้รับประโยชน์จากบทความนี้หรือไม่?

    advertisement iconโฆษณา
    advertisement iconโฆษณา