ข้อมูลในที่นี้ไม่มีเจตนาให้ใช้ทดแทนคำแนะนำทางการแพทย์ ควรปรึกษาคุณหมอทุกครั้งเพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
การวินิจฉัยโรคผิวหนังอักเสบจากเชื้อรา
คุณหมออาจวินิจฉัยโรคผิวหนังอักเสบจากเชื้อราด้วยการนำตัวอย่างเศษผิวหนังบริเวณที่ติดเชื้อไปตรวจในห้องปฏิบัติการเพื่อหาดูว่าเป็นเชื้อชนิดใด
การรักษาโรคผิวหนังอักเสบจากเชื้อรา
การรักษาโรคผิวหนังอักเสบจากเชื้อรา อาจรักษาได้ด้วยการทายาต้านเชื้อในรูปแบบครีม โลชั่น หรือขี้ผึ้ง บริเวณที่มีอาการเป็นเวลา 1-2 สัปดาห์ โดยยาต้านเชื้อราที่คุณหมอแนะนำ มีดังนี้
- โคลไตรมาโซล (Clotrimazole) คือยาที่ใช้รักษาโรคผิวหนังที่เกิดจากเชื้อรา ใช้ทาบริเวณผิวหนังที่ได้รับผลกระทบ อย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง เพื่อป้องกันการเจริญเติบโตของเชื้อรา
- คีโตโคนาโซล (Ketoconazole) เป็นยาต้านเชื้อรามีในรูปแบบครีมและแชมพู ใช้สำหรับต้านเชื้อราที่ผิวหนังและหนังศีรษะ ช่วยป้องกันการเกิดเชื้อราซ้ำ สำหรับการใช้ทาบนผิวหนัง ควรทายาก่อนลงโลชั่นหรือครีมอื่น ๆ เป็นเวลา 30 นาที วันละ 1 ครั้ง ทาต่อเนื่อง 2-4 สัปดาห์ สำหรับยาแบบแชมพู ควรใช้สระผมสัปดาห์ละ 2 ครั้ง ต่อเนื่องกัน 2-4 สัปดาห์ และควรใช้จนกว่าอาการจะดีขึ้น หรือจนกว่าคุณหมอจะอนุญาตให้หยุดใช้
- ไอทราโคนาโซล (Itraconazole) เป็นยาที่ช่วยรักษาการติดเชื้อราที่รุนแรง ใช้เพื่อป้องกันการเจริญเติบโตของเชื้อรา มีในรูปแบบสารละลาย และแคปซูล ควรรับประทานวันละ 1-2 ครั้ง สำหรับผู้ที่มีกรดในกระเพาะอาหารมาก ควรรับประทานยานี้ก่อนหรือหลังจากยาลดกรด 1-2 ชั่วโมง
- ฟลูโคนาโซล (Fluconazole) คือยายับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อราบางชนิด เป็นยาในรูปแบบรับประทานวันละ 1 ครั้ง
- ซีลีเนียม ซัลไฟด์ (Selenium sulfide) เป็นยาในรูปแบบโลชั่นและแชมพู เหมาะสำหรับผู้ที่เป็นโรคกลาก เกลื้อน และการติดเชื้อราอื่น ๆ โดยใช้ทาบนผิวหนังวันละ 1 ครั้ง เป็นเวลา 7 วัน แต่สำหรับผู้ที่เป็นโรคผิวหนังอักเสบจากเชื้อราบนหนังศีรษะ ควรใช้สัปดาห์ละ 2 ครั้ง เป็นเวลา 2 สัปดาห์ จากนั้นลดลงเหลือสัปดาห์ละ 1 ครั้งใน สัปดาห์ถัดไป
การปรับไลฟ์สไตล์และการดูแลตัวเอง
ความคิดเห็นทั้งหมด
แบ่งปันความคิดเห็นของคุณ
ร่วมแสดงความคิดเห็นของคุณกับ Hello คุณหมอ
สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ เพื่อร่วมการพูดคุย