โรคหัวใจ เป็นโรคที่ส่งผลต่อระบบการทำงานของหัวใจโดยตรง ซึ่งแบ่งออกได้หลายประเภทด้วยกัน แต่โรคที่พบได้บ่อยที่สุดคือ โรคหลอดเลือดหัวใจ ดังนั้น หากสังเกตว่าตัวเองมีอาการผิดปกติ เช่น เจ็บหน้าอก หัวใจเต้นเร็ว หัวใจเต้นช้า วิงเวียนศีรษะบ่อยครั้ง ควรเข้าพบคุณหมอเพื่อรับการวินิจฉัยและรักษาทันที เพื่อลดความเสี่ยงการเกิดภาวะแทรกซ้อนรุนแรง
[embed-health-tool-heart-rate]
โรค หัวใจ คืออะไร
โรคหัวใจ คือโรคที่ส่งผลกระทบต่อการทำงานของหัวใจโดยตรง ซึ่งอาจมีปัจจัยเสี่ยงมาจากอายุที่มากขึ้น พันธุกรรม การสูบบุหรี่ การไม่ออกกำลังกาย คอเลสเตอรอลในเลือดสูง ความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน โรคอ้วน รวมไปถึงการรับประทานอาหารที่มีไขมัน เกลือและน้ำตาลสูง
โรคหัวใจแบ่งออกแบ่งออกได้หลายประเภท ดังนี้
- โรคหลอดเลือดหัวใจ
- โรคหัวใจเต้นผิดปกติ
- โรคหัวใจพิการแต่กำเนิด
- โรคกล้ามเนื้อหัวใจพิการ
- โรคลิ้นหัวใจ
อาการของโรค หัวใจ
อาการของโรคหัวใจ อาจแบ่งออกตามประเภทของโรคหัวใจที่เป็น ดังนี้
โรคหลอดเลือดหัวใจ
- เจ็บหน้าอก แน่นหน้าอก
- หายใจถี่
- กล้ามเนื้ออ่อนแรง
- ปวดกล้ามเนื้อ
- เหนื่อยง่ายกว่าปกติ
โรคหัวใจเต้นผิดปกติ
- หัวใจเต้นเร็วเกินไปหรือช้าเกินไป
- เจ็บหน้าอก
- หายใจถี่
- วิงเวียนศีรษะ มึนหัว
- เป็นลมหมดสติ
- ใจสั่น
- อัมพฤกษ์หรืออัมพาต
หัวใจพิการแต่กำเนิด
- ผิวซีด
- อาการบวมที่ขา หน้าท้อง และบริเวณรอบดวงตา
- หายใจถี่
- น้ำหนักต่ำกว่าเกณฑ์ โดยสามารถสังเกตได้ตั้งแต่ช่วงวัยทารก
- หายในลำบาก หรือหายใจหอบขณะทำกิจกรรมต่าง ๆ หรือออกกำลังกาย
- อาการบวมที่มือ ข้อมือ และเท้า
- เล็บมือ เล็บเท้าปุ้มหรือเขียว
โรคกล้ามเนื้อหัวใจเสื่อม
- รู้สึกหายใจไม่อิ่มในระหว่างทำกิจกรรม หรือขณะพักผ่อน
- มือ แขน ขา ข้อเท้าและเท้าบวม
- รู้สึกเหนื่อยล้าง่าย
- วิงเวียนศีรษะ หน้ามืด เป็นลม
- หัวใจเต้นผิดปกติ เช่น หัวใจเต้นเร็ว หัวใจเต้นช้า ใจสั่น
- นอนราบไม่ได้
โรคลิ้นหัวใจ
- เหนื่อยล้า
- หายใจถี่
- หัวใจเต้นผิดจังหวะ
- เจ็บหน้าอก
- เป็นลม หมดสติ
อาการของโรคหัวใจที่ควรพบคุณหมอ
ควรพบคุณหมอทันทีที่สังเกตว่ามีอาการเจ็บหน้าอก หายใจถี่ และเป็นลมบ่อยครั้ง เพื่อรับการวินิจฉัยและรักษาได้อย่างทันท่วงที และอาจช่วยลดความเสี่ยงการเกิดหัวใจวาย และหัวใจหยุดเต้นกะทันหัน
สาเหตุของโรคหัวใจ
สาเหตุของโรคหัวใจอาจแตกต่างกันตามประเภทของโรคหัวใจที่เกิดขึ้น ดังนี้
โรคหลอดเลือดหัวใจ อาจมีสาเหตุมาจากการสะสมของไขมันในหลอดเลือด เนื่องจากพฤติกรรมการรับประทานอาหารที่มีไขมัน เกลือ และน้ำตาลในปริมาณมาก และขาดการออกกำลังกาย ทำให้ไขมันเกาะตามผนังหลอดเลือด และส่งผลให้หลอดเลือดอุดตัน นอกจากนี้ การสูบบุหรี่เป็นเวลานานก็อาจส่งผลให้หลอดเลือดหัวใจตีบตัน และอาจทำให้หัวใจขาดเลือดได้
โรคหัวใจเต้นผิดปกติ อาจมีสาเหตุหลายประการ เช่น โรคเบาหวาน โรคหลอดเลือดหัวใจ ภาวะความดันโลหิตสูง โรคลิ้นหัวใจ ความเครียด ยาบางชนิด การสูบบุหรี่ การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนมากเกินไป
หัวใจพิการแต่กำเนิด มักเกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงตั้งครรภ์ ยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด แต่อาจเกิดจากความผิดปกติของพันธุกรรม การติดเชื้อระหว่างตั้งครรภ์ การรับประทานยากลุ่มสแตติน (Statin) การสูบบุหรี่และการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ระหว่างตั้งครรภ์โรคกล้ามเนื้อหัวใจเสื่อม สามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุที่ส่งผลกระทบต่อการหดและขยายตัวของกล้ามเนื้อหัวใจ ได้แก่
- หัวใจติดเชื้อ
- ความดันโลหิตสูงและหัวใจเต้นเร็วอย่างต่อเนื่อง
- ปัญหาลิ้นหัวใจ
- เยื่อบุหัวใจอักเสบ
- โรคโควิด-19
- ร่างกายขาดวิตามินและแร่ธาตุสำคัญ เช่น วิตามินบี วิตามินดี แมกนีเซียม
- โรคเรื้อรัง เช่น โรคอ้วน โรคเบาหวาน ภาวะต่อมไทรอยด์บกพร่อง
- ความผิดปกติของเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน
- การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณมาก ต่อเนื่องเป็นเวลานาน
- การฉายรังสี และเคมีบำบัดในการรักษามะเร็ง
โรคลิ้นหัวใจ สามารถเกิดขึ้นตั้งแต่กำเนิด ยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด แต่อาจเกิดจากโรคหัวใจพิการแต่กำเนิด เยื่อบุหัวใจอักเสบ ไข้รูมาติก (Rheumatic Fever) ความผิดปกติของเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน การติดเชื้อ และโรคลิ้นหัวใจเอออร์ติกผิดปกติ (Aortic Valvular Stenosis)
วิธีดูแลสุขภาพหัวใจเพื่อป้องกันโรคหัวใจ
วิธีดูแลสุขภาพหัวใจเพื่อป้องกันโรคหัวใจ อาจทำได้ดังนี้
- รับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพหัวใจ เน้นการรับประทานผัก ผลไม้ ธัญพืชไม่ขัดสี พืชตระกูลถั่ว และหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่มีไขมัน เกลือ และน้ำตาลสูง เช่น เนื้อสัตว์ติดมัน อาหารแปรรูป ขนมหวาน น้ำอัดลม
- ควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ เพราะหากมีดัชนีมวลกายเกินกว่า 25 ขึ้นไป อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด
- ออกกำลังกาย ควรออกกำลังกายอย่างน้อย 150 นาที/สัปดาห์ เช่น เดินเร็ว วิ่ง กระโดดเชือก เต้น เพราะการออกกำลังกายอาจช่วยลดคอเลสเตอรอลในเลือด และช่วยควบคุมระดับความดันโลหิตให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม
- หยุดสูบบุหรี่ เพราะบุหรี่มีสารพิษที่อาจทำลายหลอดเลือดหัวใจและทำให้หลอดเลือดตีบตัน
- ลดการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพราะเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อาจเพิ่มระดับความดันโลหิต เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจ
- ตรวจสุขภาพประจำปี เพื่อคัดกรองโรคและอาการผิดปกติที่อาจเป็นสัญญาณเตือนของโรคหัวใจ