backup og meta

มาจัดการปัญหาตัวบวม ด้วย อาหารที่ช่วยลดอาการบวมน้ำ เหล่านี้กันดีกว่า

มาจัดการปัญหาตัวบวม ด้วย อาหารที่ช่วยลดอาการบวมน้ำ เหล่านี้กันดีกว่า

อาการบวมน้ำ (Edema) คือภาวะที่มีของเหลวสะสมอยู่ในเซลล์ร่างกายมากเกินไป เกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น การนั่งหรือยืนนาน ๆ โดยเฉพาะในช่วงอากาศร้อน การตั้งครรภ์ การมีประจำเดือน ปัญหาสุขภาพเรื้อรัง (เช่น โรคปอด โรคไต) อาการบวมน้ำนี้สังเกตได้ด้วยการใช้นิ้วกดบริเวณที่บวมค้างไว้ 10-15 วินาที หากบุ๋มเป็นรอยนิ้วแปลว่าบวมน้ำ คนที่มีภาวะบวมน้ำมักตัวบวม อึดอัด ไม่สบายตัว ทำกิจกรรมอะไรก็ไม่สะดวก แถมยังทำให้รู้สึกว่าน้ำหนักขึ้นจนเครียดได้ด้วย วันนี้เราเลยมี อาหารที่ช่วยลดอาการบวมน้ำ มาแนะนำ รับรองกินตามนี้ อาการตัวบวมน้ำของคุณจะดีขึ้นแน่นอน

อาหารที่ช่วยลดอาการบวมน้ำ

หน่อไม้ฝรั่ง

หน่อไม้ฝรั่งหรือแอสพารากัส (Asparagus) คืออาหารที่ช่วยลดอาการบวมน้ำซึ่งคุณไม่ควรพลาด โดยศูนย์การแพทย์มหาวิทยาลัยแมรีแลนด์ (University of Maryland Medical Center) ประเทศสหรัฐอเมริกาเผยว่า หน่อไม้ฝรั่งมีฤทธิ์เป็นยาขับปัสสาวะตามธรรมชาติ กินแล้วช่วยขจัดของเหลวส่วนเกินออกจากร่างกายได้ แถมหน่อไม้ฝรั่งยังมีโซเดียม (Sodium)ต่ำด้วย จึงยิ่งเหมาะกับคนที่มีปัญหาตัวบวมน้ำ เพราะโซเดียมถือเป็นตัวการสำคัญอย่างหนึ่งที่ทำให้เกิดภาวะบวมน้ำนี้

แดนดิไลออน

แดนดิไลออน (Dandelion) หรือชื่อวิทยาศาสตร์คือ Taraxacum officinale เป็นพืชสมุนไพรที่นิยมนำมาใช้เป็นยาขับปัสสาวะมาช้านาน กินแล้วจะช่วยให้ปัสสาวะบ่อยขึ้น จึงทำให้มีของเหลวสะสมอยู่ในร่างกายน้อยลง

โดยผลงานศึกษาวิจัยชิ้นหนึ่งที่ให้กลุ่มตัวอย่าง 17 คนกินสารสกัดจากใบแดนดิไลออนปริมาณ 3 โดส จากนั้นให้กลุ่มตัวอย่างสังเกตปริมาณของเหลวที่บริโภคเข้าไปและที่ปัสสาวะออกมา เป็นเวลา 24 ชั่วโมง พบว่า ร่างกายของกลุ่มตัวอย่างผลิตปัสสาวะได้มากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

แนะนำว่าใครที่สนใจกินแดนดิไลออนหรือสารสกัดจากแดนดิไลออนเพื่อลดอาการบวมน้ำ ควรปรึกษาแพทย์ ผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพร หรือเภสัชกรให้ดีก่อน เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดปัญหาสุขภาพที่อาจตามมาได้

น้ำเปล่า

หลายคนอาจเข้าใจผิดว่า ตัวบวมน้ำอยู่แล้ว หากดื่มน้ำเข้าไปอีก ก็จะยิ่งทำให้บวมน้ำเข้าไปใหญ่ แต่ความจริงแล้ว การดื่มน้ำให้เพียงพอ หรือดื่มน้ำให้มากขึ้น จะช่วยขับโซเดียมออกจากร่างกาย เมื่อโซเดียมส่วนเกินลดลง อาการบวมน้ำก็จะดีขึ้น โดยปริมาณน้ำที่แนะนำต่อวันคือ ประมาณวันละ 1.5-2 ลิตร หรือ 6-8 แก้ว แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายหรือกิจกรรมที่คุณทำด้วย หากคุณกำลังตั้งครรภ์ หรือออกกำลังกาย อาจต้องดื่มน้ำให้เพิ่มขึ้นอีก

คารโบไฮเดรตหรือแป้งไม่ขัดสี

การกินคาร์โบไฮเดรตหรือแป้งขัดสี เช่น ขนมปังขาว ข้าวขาว น้ำตาลทรายขาว จะทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดและระดับอินซูลิน (Insulin)พุ่งสูงขึ้นในเวลาอันรวดเร็ว ทำให้ร่างกายดูดซึมโซเดียมในไตซ้ำอีกรอบ จนระดับโซเดียมในร่างกายสูงผิดปกติ ผลก็คือ มีของเหลวสะสมอยู่ในร่างกายมากขึ้น

หากอยากลดและป้องกันอาการบวมน้ำ คุณจึงควรเลือกกินคาร์โบไฮเดรตหรือแป้งไม่ขัดสีแทน เช่น ขนมปังโฮลวีต เส้นพาสต้าโฮลวีต ข้าวกล้อง ข้าวไรซ์เบอร์รี่ น้ำตาลทรายแดง

อาหารที่อุดมไปด้วยวิตามินบี 6

ผลการศึกษาวิจัยพบว่า วิตามินบี 6 อาจช่วยลดการสะสมของของเหลวในร่างกายได้ โดยเฉพาะในผู้หญิงที่มีกลุ่มอาการก่อนมีประจำเดือน หรือพีเอ็มเอส (Premenstrual Syndrome หรือ PMS) โดยคุณสามารถเพิ่มวิตามินบี 6 ให้กับร่างกายเพื่อต่อสู้กับอาการบวมน้ำได้ ด้วยการกินอาหารที่มีวิตามินบี 6 สูง เช่น กล้วย อะโวคาโด เนื้อวัว วอลนัต ปลาแซลมอน ปลาทูน่า แครอท ผักปวยเล้ง มันฝรั่ง

อาหารโพแทสเซียมสูง

โพแทสเซียม (Potassium) ช่วยลดปริมาณโซเดียมในร่างกาย และช่วยเพิ่มการผลิตปัสสาวะ เมื่อโซเดียมลดลง ของเหลวที่คั่งอยู่ในร่างกายก็จะน้อยตามไปด้วย แถมพอเราขับถ่ายปัสสาวะได้มากขึ้น ของเหลวส่วนเกินในร่างกายก็จะน้อยลงไปอีก โดยคุณสามารถหาโพแทสเซียมได้จากอาหารโพแทสเซียมสูง เช่น มันเทศ แตงโม น้ำมะพร้าว ถั่วขาว ถั่วดำ ทับทิม

วิธีอื่น ๆ ที่ช่วย ลดอาการบวมน้ำ

นอกจากการกินอาหารที่ช่วยลดอาการบวมน้ำที่เราแนะนำไปข้างต้นแล้ว วิธีเหล่านี้ก็สามารถช่วยลดอาการบวมน้ำของคุณได้เช่นกัน

ขยับร่างกายให้มากขึ้น

การขยับร่างกายให้มากขึ้น หรือออกกำลังกายเป็นประจำ สามารถช่วยลดการสะสมของของเหลวในร่างกายได้ ฉะนั้น แทนที่จะนั่งทำงานทั้งวัน จนของเหลวส่วนเกินคั่งในอวัยวะท่อนล่าง คุณก็ควรลุกจากที่บ่อย ๆ จะเดินเล่น หรือบริหารร่างกายเบา ๆ ก็ได้ นอกจากจะช่วยลดอาการบวมน้ำแล้ว ยังช่วยแก้อาการปวดเมื่อยได้ด้วย

รักษาสภาวะสุขภาพที่ทำให้ ตัวบวมน้ำ

หากอาการบวมน้ำของคุณเกิดจากปัญหาสุขภาพ เช่น โรคปอด ภาวะหัวใจล้มเหลว คุณก็ควรรักษาหรือควบคุมภาวะเหล่านั้นให้ได้ อย่างคนเป็นโรคปอดก็ควรงดสูบบุหรี่ หรือหากคนที่มีภาวะหัวใจล้มเหลวก็ควรลดการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และควบคุมระดับความดันโลหิตให้ดี เมื่อคุณทำได้ การไหลเวียนเลือดก็จะดีขึ้น ส่งผลให้ปัญหาบวมน้ำลดลง

Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำทางการแพทย์ การวินิจฉัยโรคหรือการรักษาโรคแต่อย่างใด

[embed-health-tool-bmi]

หมายเหตุ

Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด

6 Simple Ways to Reduce Water Retention. https://www.healthline.com/nutrition/6-ways-to-reduce-water-retention. Accessed May 29, 2020

Edema. https://www.health.harvard.edu/a_to_z/edema-a-to-z. Accessed May 29, 2020

15 Foods That Pack More Potassium Than a Banana. https://www.healthline.com/nutrition/foods-loaded-with-potassium. Accessed May 29, 2020

Diet to Reduce Edema. https://www.livestrong.com/article/473362-diet-to-reduce-edema/. Accessed May 29, 2020

15 Vitamin B-6 Rich Foods. https://www.healthline.com/health/vitamin-b6-foods. Accessed May 29, 2020

How to lose water weight naturally. https://www.medicalnewstoday.com/articles/320603#ways-to-lose-water-weight. Accessed May 29, 2020

เวอร์ชันปัจจุบัน

05/06/2020

เขียนโดย เนตรนภา ปะวะคัง

ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย ทีม Hello คุณหมอ

อัปเดตโดย: Pattarapong Khuaphu


บทความที่เกี่ยวข้อง

ดูทีวีเพลิน ๆ ก็ฟิตแอนด์เฟิร์มได้ กับ ท่าออกกำลังกายตอนดูทีวี ง่าย ๆ

พฤติกรรมที่ดีต่อระบบย่อยอาหาร ทำง่าย สบายท้อง


ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย

ทีม Hello คุณหมอ


เขียนโดย เนตรนภา ปะวะคัง · แก้ไขล่าสุด 05/06/2020

ad iconโฆษณา

คุณได้รับประโยชน์จากบทความนี้หรือไม่?

ad iconโฆษณา
ad iconโฆษณา