backup og meta

กลิ่นตัว เกิดจากการกินอาหารชนิดใดบ้าง

ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย พลอย วงษ์วิไล


เขียนโดย ออมสิน แสนล้อม · แก้ไขล่าสุด 31/01/2023

    กลิ่นตัว เกิดจากการกินอาหารชนิดใดบ้าง

    อาหารบางอย่างนอกจากจะทำให้เกิดกลิ่นปากแล้ว ถ้ากินเข้าไปในปริมาณมาก ๆ ก็อาจทำให้เกิด กลิ่นตัว ได้ โดยกลิ่นที่เกิดขึ้นเกิดจากการกินสารประกอบอินทรีย์ระเหยง่าย (Volatile Organic Compounds หรือ VOCs) เข้าไป ซึ่งส่งผลทำให้เหงื่อมีกลิ่นฉุน รวมถึงยังอาจทำให้เกิดแก๊สที่มีกลิ่นเหม็นในกระเพาะอาหารได้ด้วย ดังนั้น การรู้ว่าอาหารชนิดใดที่ทำให้เกิดปัญหากลิ่นตัว อาจช่วยให้หลีกเลี่ยงการกินอาหารเหล่า รวมถึงอาจช่วยลดปัญหากลิ่นตัวได้ด้วย

    อาหารที่อาจทำให้เกิด กลิ่นตัว

    ปัญหากลิ่นตัวอาจเกิดจากอาหารต่าง ๆ เหล่านี้

    เครื่องดื่มแอลกอฮอล์

    เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ไม่ว่าจะเป็นวิสกี้ เบียร์ หรือไวน์ อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดกลิ่นตัว เนื่องจากเมื่อร่างกายดูดซึมแอลกอฮอล์เข้าไป แอลกอฮอล์จะเกิดการเผาผลาญจนกลายเป็นสารละลายในน้ำที่เรียกว่า กรดแอซีติก (Acetic Acid) และเข้าไปผสมกับเหงื่อและเชื้อแบคทีเรีย จึงทำให้เกิดเป็นกลิ่นตัว

    1. ผักตระกูลกะหล่ำ

    ผักตระกูลกะหล่ำ เช่น กะหล่ำดอก กะหล่ำปลี คะน้า บร็อคโคลี่ อาจทำให้เกิดกลิ่นตัว ได้ เพราะผักพวกนี้มีกำมะถัน ซึ่งเป็นสารประกอบที่มีกลิ่นเหม็นคล้ายกลิ่นไข่เน่า เมื่อกินผักเหล่านี้เข้าไปก็จะยิ่งเป็นการเพิ่มกำมะถันให้กับร่างกาย ส่งผลให้ร่างกายผลิตสารประกอบที่มีกำมะถันออกมามากขึ้น ซึ่งจะทำให้กลิ่นตัวมีกลิ่นคล้ายกับกลิ่นไข่เน่า

    นอกจากนี้ ผักตระกูลกะหล่ำยังอาจทำให้เกิดกลิ่นคาวปลาในคนที่เป็นโรคกลิ่นตัวเหม็น (Trimethylaminuria)  ซึ่งเป็นโรคที่ถ่ายทอดทางพันธุกรรม ทำให้ร่างกายไม่สามารถทำลายสารประกอบที่มีกลิ่นเหม็นในผักตระกูลกะหล่ำ รวมถึงอาหารบางชนิด เช่น ถั่ว ไข่ นม เมื่อร่างกายมีสารประกอบชนิดนี้ในปริมาณมากก็จะขับออกมาทางต่อมเหงื่อ ส่งผลให้เกิดกลิ่นตัวมีกลิ่นคล้ายกับกลิ่นคาวปลา

  • เนื้อแดง

  • เนื้อสัตว์ที่เป็นเนื้อแดง เช่น เนื้อวัว เนื้อหมู ก็มีกำมะถันที่ทำให้เกิดกลิ่นตัวได้เช่นกัน โดยเฉพาะเนื้อที่ผ่านการแปรรูปอย่างแฮม เบคอน รวมถึงอาจทำให้เกิดแก๊สในกระเพาะอาหาร หรืออุจจาระที่มีกลิ่นเหมือนไข่เน่า นอกจากนี้ จากงานศึกษาวิจัยที่ตีพิมพ์ใน The Journal Chemical Senses ศึกษาเกี่ยวกับการบริโภคเนื้อแดงอาจส่งผลต่อกลิ่นเหงื่อ โดยให้ผู้ชาย 17 คน ที่กินเนื้อและไม่กินเนื้อเป็นเวลา 2 สัปดาห์ แล้วเก็บตัวอย่างเหงื่อใต้วงแขนไปตรวจสอบ พบว่า เหงื่อของผู้ที่กินอาหารมังสวิรัติจะมีกลิ่นฉุนน้อยกว่าผู้ที่กินเนื้อ นอกจากนี้ กรดไขมันที่อยู่ในเนื้อสัตว์อาจเข้าไปอยู่ในต่อมเหงื่อ จนเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดกลิ่นตัวขึ้นมาได้

    1. อาหารรสจัด

    อาหารรสจัดที่มีกลิ่นฉุน เช่น กระเทียม หัวหอม กุยช่าย อาจทำให้เหงื่อมีกลิ่นเหม็นเหมือนกลิ่นกระเทียม เนื่องจากอาหารเหล่านี้มีสารประกอบอินทรีย์ระเหยง่ายอยู่ในปริมาณสูงเช่นเดียวกับผักตระกูลกะหล่ำ และมีกำมะถันผสมอยู่ด้วย เวลาที่กินอาหารรสจัดหรือมีกลิ่นฉุนเหล่านี้เข้าไป นอกจากจะทำให้มีกลิ่นปากแล้ว ยังอาจทำให้เหงื่อมีกลิ่นฉุน ซึ่งเป็นสาเหตุของกลิ่นตัว

    1. หน่อไม้ฝรั่ง

    หน่อไม้ฝรั่ง หรือ แอสพารากัส มีสารประกอบชนิดหนึ่งที่เรียกว่า เมทิลเมอร์แคปแทน (Methyl Mercaptan) ซึ่งมีคุณสมบัติละลายในน้ำได้ง่าย เมื่อกินผักชนิดเข้าไป สารประกอบชนิดนี้จึงผ่านเข้าสู่ระบบต่าง ๆ ในร่างกายทันที ทำให้เมื่อปัสสาวะมีกลิ่นคล้ายหน่อไม้ฝรั่ง

    หมายเหตุ

    Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด

    ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย

    พลอย วงษ์วิไล


    เขียนโดย ออมสิน แสนล้อม · แก้ไขล่าสุด 31/01/2023

    advertisement iconโฆษณา

    คุณได้รับประโยชน์จากบทความนี้หรือไม่?

    advertisement iconโฆษณา
    advertisement iconโฆษณา