backup og meta

กระเจี๊ยบ ประโยชน์ต่อสุขภาพ และข้อควรระวังในการบริโภค

กระเจี๊ยบ (Rosell) เป็นพืชล้มลุกที่มีต้นกำเนิดในทวีปแอฟริกา พบมากในแถบประเทศเขตร้อนและเขตอบอุ่น รวมไปถึงประเทศไทย ดอกกระเจี๊ยบมีสีแดงอมม่วง กลีบเลี้ยงให้รสเปรี้ยว นิยมนำมาทำเป็นเครื่องดื่ม สกัดเป็นผง และทำเป็นอาหารเสริม กระเจี๊ยบอุดมไปด้วยสารอาหารและแร่ธาตุต่าง ๆ ที่อาจมีสรรพคุณช่วยลดความดันโลหิต ลดระดับน้ำตาลและไขมันในเลือด และรักษาปัญหาเกี่ยวกับโรคไต เช่น ช่วยขับปัสสาวะ อย่างไรก็ตาม ควรบริโภคกระเจี๊ยบในปริมาณที่เหมาะสม เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดปัญหาสุขภาพ

กระเจี๊ยบ ประโยชน์ต่อสุขภาพ และข้อควรระวังในการบริโภค

คุณค่าทางโภชนาการของ กระเจี๊ยบ

ข้อมูลจากกระทรวงเกษตรแห่งสหรัฐอเมริกา (United States Department of Agriculture หรือ USDA) ระบุว่า กระเจี๊ยบ 100 กรัม มีน้ำเป็นส่วนประกอบ 86.6 มิลลิลิตร ให้พลังงาน 49 กิโลแคลอรี่ และมีสารอาหารต่าง ๆ ดังต่อไปนี้

  • คาร์โบไฮเดรต 11.3 กรัม
  • โปรตีน 0.96 กรัม
  • แคลเซียม 215 มิลลิกรัม
  • แมกนีเซียม 51 มิลลิกรัม
  • เหล็ก 1.48 มิลลิกรัม

นอกจากนี้ กระเจี๊ยบยังอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย เช่น โซเดียม วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 วิตามินบี 12 วิตามินซี ทั้งยังประกอบไปด้วยฟลาโวนอยด์ กรดฟีนอลิก และกรดอินทรีย์ ที่ทำหน้าที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ประโยชน์ต่อสุขภาพของ กระเจี๊ยบ

กระเจี๊ยบอุดมไปด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ โดยมีงานศึกษาวิจัยทางวิทยาศาสตร์ที่สนับสนุนคุณสมบัติในการส่งเสริมสุขภาพของกระเจี๊ยบ ดังนี้

อาจช่วยลดความดันโลหิตได้

กระเจี๊ยบมีคุณสมบัติช่วยลดความดันโลหิตได้ เหมาะสำหรับผู้ป่วยที่มีภาวะความดันโลหิตสูง เนื่องจากมีสารประกอบที่กระตุ้นการปลดปล่อยไนตริกออกไซด์จากหลอดเลือด ทำให้ไตทำหน้าที่กรองของเสียได้ดีขึ้น และช่วยขับปัสสาวะ ส่งผลให้ระดับความดันโลหิตลดลง โดยงานวิจัยชิ้นหนึ่งที่ตีพิมพ์ในวารสาร Advanced Pharmaceutical Technology & Research ฉบับเดือนกรกฎาคม-กันยายน พ.ศ. 2562 ศึกษาเกี่ยวกับประสิทธิภาพของกระเจี๊ยบที่ส่งผลต่อระดับความดันโลหิตในผู้ป่วยความดันโลหิตสูงระยะที่ 1 โดยการศึกษากลุ่มตัวอย่างอายุ 18-70 ปี จำนวน 46 คน เป็นเวลา 1 เดือน พบว่า กลุ่มตัวอย่างที่ดื่มน้ำกระเจี๊ยบ 474 มิลลิลิตรทุกวัน ร่วมกับการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิต เช่น ลดน้ำหนัก ควบคุมอาหาร มีระดับความดันโลหิตลดลงมากกว่ากลุ่มตัวอย่างที่ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพียงอย่างเดียวและไม่ดื่มน้ำกระเจี๊ยบเลย

อาจช่วยลดคอเลสเตอรอลได้

กระเจี๊ยบมีคุณสมบัติช่วยลดไขมันและน้ำตาลในเลือด ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดได้ โดยมีงานวิจัยชิ้นหนึ่ง ที่ตีพิมพ์ในวารสาร Fitoterapia ฉบับเดือนมีนาคม พ.ศ. 2557 ศึกษาเรื่อง การใช้กระเจี๊ยบรักษาโรคความดันโลหิตสูงและไขมันในเลือดสูง พบว่า กระเจี๊ยบมีสารแอนโทไซยานิน (Anthocyanins) ที่มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ สามารถยับยั้งปฏิกิริยาออกซิเดชันของไขมันเลว ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดภาวะหลอดเลือดแข็ง (Atherosclerosis) และโรคหัวใจและหลอดเลือดได้

อาจช่วยป้องกันมะเร็งได้

กระเจี๊ยบมีสารแอนโทไซยานินที่มีฤทธิ์เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ เมื่อออกฤทธิ์ร่วมกับสารอื่น ๆ ในกระเจี๊ยบอาจช่วยต้านมะเร็งได้ โดยมีงานวิจัยชิ้นหนึ่งที่ตีพิมพ์ในวารสาร Evidence-Based Complementary and Alternative Medicine ฉบับเดือนเมษายน พ.ศ. 2565 ศึกษาเรื่องประสิทธิภาพของสารสกัดจากกระเจี๊ยบในการเป็นสารต้านอนุมูลอิสระและจุลพยาธิวิทยาในเนื้องอกของเต้านมของหนูทดลอง พบว่า การบริโภคสารสกัดจากกระเจี๊ยบในปริมาณ 125 และ 500 มิลลิกรัมช่วยเพิ่มจำนวนเม็ดเลือดแดงและเกล็ดเลือดได้  อีกทั้งสารแอนโทไซยานินยังช่วยยับยั้งการแตกของเม็ดเลือดที่เกิดจากสารก่อมะเร็งในเซลล์เม็ดเลือดในหนูทดลอง ซึ่งอาจยืนยันประสิทธิภาพการยับยั้งมะเร็งของกระเจี๊ยบได้

นอกจากนี้ ยังมีงานวิจัยอีกชิ้นหนึ่งที่ตีพิมพ์ในวารสาร Molecular Carcinogenesis เมื่อเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2548 ศึกษาเรื่องสารสกัดกระเจี๊ยบซึ่งอุดมด้วยสารโพลิฟีนอล (Polyphenol) ที่กระตุ้นให้เซลล์มะเร็งกระเพาะอาหารตายลงได้ พบว่า สารโพลิฟีนอลมีกลไกการออกฤทธิ์ต้านมะเร็ง สามารถกระตุ้นให้เซลล์มะเร็งในกระเพาะอาหารของมนุษย์ตายได้ ซึ่งอาจมีประโยชน์ในการนำไปรักษาโรคมะเร็งในอนาคต

 อาจช่วยป้องกันโรคอ้วนได้

กระเจี๊ยบมีฤทธิ์ในการยับยั้งการสะสมไขมันในร่างกาย เพราะประกอบไปด้วยสารออกฤทธิ์ทางชีวภาพ เช่น สารฟลาโวนอยด์ กรดคลอโรจีนิก สารฟีนอล และสารอื่น ๆ ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพในการควบคุมโรคเบาหวาน ป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือดและโรคอ้วน โดยมีงานวิจัยชิ้นหนึ่ง ที่ตีพิมพ์ในวารสาร Molecules ฉบับเดือนเมษายน พ.ศ. 2562 ศึกษาเรื่องประโยชน์ของสารออกฤทธิ์ทางชีวภาพจากกระเจี๊ยบต่อโรคอ้วน โดยการรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลงานวิจัยในกลุ่มตัวอย่างทั้งสัตว์ทดลองและมนุษย์ในหัวข้อที่เกี่ยวข้อง พบว่า การบริโภคกระเจี๊ยบช่วยลดน้ำหนักตัว ลดการสะสมไขมัน และเพิ่มการเผาผลาญคอเลสเตอรอลได้

ข้อควรระวังในการบริโภค กระเจี๊ยบ

ข้อควรระวังในการบริโภค กระเจี๊ยบ อาจมีดังนี้

  • กระเจี๊ยบมีฤทธิ์เป็นยาระบายอ่อน ๆ หากผู้ที่ปัญหาเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหารต้องการรับประทานกระเจี๊ยบทั้งในรูปแบบยา ผง หรือเครื่องดื่ม ควรรับบริโภคในปริมาณที่เหมาะสมและมีระดับเข้มข้นไม่มาก เพื่อหลีกเลี่ยงอาการท้องเสียรุนแรง
  • กระเจี๊ยบมีฤทธิ์ช่วยลดความดันโลหิต ผู้ที่ใช้ยาลดความดันโลหิตร่วมกับการบริโภคกระเจี๊ยบควรวัดความดันโลหิตเป็นประจำ
  • ชากระเจี๊ยบอาจลดประสิทธิภาพการดูดซึมยาคลอโรควิน (Chloroquine) ของร่างกาย ผู้ที่ใช้ยาคลอโรควินเพื่อรักษาหรือป้องกันโรคมาลาเรีย จึงควรหลีกเลี่ยงการบริโภคอาหารหรือยาที่ทำจากกระเจี๊ยบ เพื่อไม่ให้ตัวยามีประสิทธิภาพลดลง

[embed-health-tool-bmr]

หมายเหตุ

Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด

Effect of hibiscus sabdariffa on blood pressure in patients with stage 1 hypertension. https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC6621350/. Accessed April 22, 2022

Hibiscus Tea: Is It Good for You?. https://www.webmd.com/diet/hibiscus-tea-is-it-good-for-you. Accessed April 22, 2022

Hibiscus Sabdariffa – Uses, Side Effects, and More. https://www.webmd.com/vitamins/ai/ingredientmono-211/hibiscus-sabdariffa. Accessed April 22, 2022

Beneficial Effects of Natural Bioactive Compounds from Hibiscus sabdariffa L. on Obesity. https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC6337177/. Accessed April 22, 2022

7 Benefits of Hibiscus Tea. https://health.clevelandclinic.org/benefits-of-hibiscus/. Accessed April 22, 2022

Roselle, raw. https://fdc.nal.usda.gov/fdc-app.html#/food-details/168170/nutrients. Accessed April 22, 2022

Hibiscus sabdariffa L. in the treatment of hypertension and hyperlipidemia: a comprehensive review of animal and human studies. https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC3593772/. Accessed April 22, 2022

Effects of Hibiscus sabdariffa Calyxes Aqueous Extract on Antioxidant Status and Histopathology in Mammary Tumor-Induced in Rats. https://www.hindawi.com/journals/ecam/2022/9872788/. Accessed April 22, 2022

Beneficial Effects of Natural Bioactive Compounds from Hibiscus sabdariffa L. on Obesity. https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC6337177/. Accessed April 22, 2022

Hibiscus polyphenol-rich extract induces apoptosis in human gastric carcinoma cells via p53 phosphorylation and p38 MAPK/FasL cascade pathway. https://pubmed.ncbi.nlm.nih.gov/15791651/.  Accessed April 22, 2022

เวอร์ชันปัจจุบัน

20/05/2022

เขียนโดย ศุภานิช สุริโย

ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย เนตรนภา ปะวะคัง

อัปเดตโดย: เนตรนภา ปะวะคัง


บทความที่เกี่ยวข้อง

กระเจี๊ยบเขียว ช่วยผู้ป่วยเบาหวานรับมือกับโรคได้อย่างไร

ประโยชน์จากน้ำกระเจี๊ยบ แก้กระหาย คลายร้อน แถมยังดีต่อสุขภาพ


ตรวจสอบข้อมูลความถูกต้อง โดย ทีม Hello คุณหมอ · เขียน โดย ศุภานิช สุริโย · แก้ไข 20/05/2022

ad iconโฆษณา

คุณได้รับประโยชน์จากบทความนี้หรือไม่?

ad iconโฆษณา
ad iconโฆษณา