มะเดื่อฝรั่ง หรือลูกฟิก (Fig) เป็นผลไม้ยืนต้นที่มีผลเป็นทรงกลมหรือทรงคล้ายระฆังคว่ำ ผลอ่อนเปลือกสีเขียวแต่เมื่อแก่จัดจะเปลี่ยนเป็นสีม่วงเข้ม เนื้อสีแดงเข้มมีเมล็ดเล็ก ๆ สีขาวปนอยู่กับเนื้อ ให้รสหวานอมเปรี้ยว มะเดื่อฝรั่งมีต้นกำเนิดอยู่ที่ภูมิภาคเอเชียตะวันตก หรือจากตุรกีไปจนถึงตอนเหนือของประเทศอินเดีย มะเดื่อฝรั่งอุดมไปด้วยสารอาหารต่าง ๆ ที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ เช่น คาร์โบไฮเดรต โพแทสเซียม แคลเซียม เบตา-แคโรทีน (β-Carotene)
[embed-health-tool-bmi]
คุณค่าทางโภชนาการของ มะเดื่อฝรั่ง
มะเดื่อฝรั่งสด 100 กรัม ให้พลังงานประมาณ 74 กิโลแคลอรี่ และประกอบไปด้วยสารอาหารต่าง ๆ ที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ดังนี้
- คาร์โบไฮเดรต 19.2 กรัม
- โปรตีน 0.75 กรัม
- โพแทสเซียม 166 มิลลิกรัม
- แคลเซียม 35 มิลลิกรัม
- วิตามินซี 26.7 มิลลิกรัม
- แมกนีเซียม 17 มิลลิกรัม
- ฟอสฟอรัส 14 มิลลิกรัม
- โคลีน (Choline) 4.7 มิลลิกรัม
- เบตา-แคโรทีน 85 ไมโครกรัม
นอกจากนี้ มะเดื่อฝรั่งยังมีสารอาหารอื่น ๆ เช่น โซเดียม เหล็ก สังกะสี ทองแดง แมงกานีส วิตามินเอ วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 วิตามินบี 3 วิตามินบี 6 วิตามินเค โฟเลต (Folate)
ประโยชน์ของ มะเดื่อฝรั่ง ต่อสุขภาพ
อาจช่วยแก้ท้องผูกได้
มะเดื่อฝรั่งอุดมไปด้วยใยอาหาร การบริโภคมะเดื่อฝรั่งจึงอาจช่วยกระตุ้นการขับถ่าย เสริมสร้างการทำงานของลำไส้ และบรรเทาอาการท้องผูกได้ ทั้งนี้
ในงานวิจัยว่าด้วยประสิทธิภาพของมะเดื่อฝรั่งบดในการช่วยลดอาการท้องผูกในสุนัขบีเกิล เผยแพร่ในวารสาร Lab Animal ปี พ.ศ. 2554 นักวิจัยทำการวิจัยกับสุนัขบีเกิลจำนวน 15 ตัวรวมทั้งสิ้นเป็นเวลา 9 สัปดาห์ แบ่งการทดลองออกเป็น 3 ครั้ง ครั้งละ 3 สัปดาห์ โดย 3 สัปดาห์แรกเป็นการทดลองโดยไม่ได้ให้สุนัขบีเกิลบริโภคอาหารเพิ่มเติมจากเดิม 3 สัปดาห์ต่อมา สุนัขบีเกิลทั้งหมดถูกทำให้ท้องผูก และ 3 สัปดาห์สุดท้าย ให้สุนัขบีเกิลทั้ง 15 ตัว บริโภคมะเดื่อฝรั่งบดจำนวน 12 กรัม/น้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม/วัน เป็นประจำทุกวันตลอด 3 สัปดาห์ เมื่อสิ้นสุดการทดลอง นักวิจัยพบว่า มะเดื่อฝรั่งช่วยเพิ่มปริมาณอุจจาระในสุนัขท้องผูกได้อย่างมีนัยสำคัญ และสรุปเพิ่มเติมว่ามะเดื่อฝรั่งอาจมีส่วนช่วยรักษาผู้ป่วยท้องผูกเรื้อรังได้
อย่างไรก็ตาม ยังคงเป็นการทดลองในสัตว์ ควรมีการทดสอบในมนุษย์เพิ่มเติม เพื่อยืนยันถึงประสิทธิภาพของมะเดื่อฝรั่งสำหรับแก้ท้องผูก
ข้อควรระวังในการบริโภค มะเดื่อฝรั่ง
การบริโภคมะเดื่อฝรั่ง มีข้อควรระวังดังต่อไปนี้
- น้ำยางของมะเดื่อฝรั่งอาจก่อให้เกิดอาการภูมิแพ้ได้ ขณะเดียวกัน ผู้แพ้ผลหม่อนและแพ้ยาง อาจมีอาการแพ้มะเดื่อฝรั่งร่วมด้วย
- หากรับประทานมะเดื่อฝรั่งมากเกินไปอาจทำให้เกิดอาการท้องเสียหรือปัญหาทางเดินอาหารอื่น ๆ ได้ จึงควรรับประทานในปริมาณที่พอดีไม่ควรเกินวันละ 2-3 ผล
- มะเดื่อฝรั่งมีปริมาณน้ำตาลสูง
- หญิงมีครรภ์และหญิงระยะให้นมบุตรสามารถบริโภคมะเดื่อฝรั่งได้ อย่างไรก็ตาม ควรบริโภคในปริมาณจำกัดและควรบริโภคอาหารต่าง ๆ ให้หลากหลาย