backup og meta

อินทผาลัม ประโยชน์ และข้อควรระวังในการรับประทาน

อินทผาลัม ประโยชน์ และข้อควรระวังในการรับประทาน

อินทผาลัม เป็นคำที่นิยมใข้เรียก อินทผลัม ซึ่งเป็นพืชตระกูลปาล์ม ผลของอินทผาลัมสดมีขนาดค่อนข้างเล็ก มีสีเหลืองไปจนถึงสีแดงสด ขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ และมีรสหวานจัด สามารถรับประทานได้ทั้งแบบสด อบแห้ง และน้ำเชื่อม อีกทั้งยังอุดมไปด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย อย่างไรก็ตาม หากรับประทานอินทผาลัมแล้วมีอาการแพ้ ควรหยุดรับประทานทันทีเพื่อหลีกเลี่ยงอาการไม่พึงประสงค์ เช่น ผื่นคัน ตาแดง น้ำตาไหล

[embed-health-tool-bmi]

คุณค่าทางโภชนาการของ อินทผาลัม

อินทผาลัม 100 กรัม ให้พลังงานประมาณ 282 กิโลแคลอรี่ มีน้ำเป็นส่วนประกอบ 20.8 กรัม และอุดมไปด้วยสารอาหาร วิตามินและแร่ธาตุ เช่น

  • คาร์โบไฮเดรต 75 กรัม
  • น้ำตาล 63.4 กรัม
  • ไฟเบอร์ 8 กรัม
  • โปรตีน 2.45 กรัม
  • ไขมัน 0.39 กรัม

นอกจากนี้ อินทผาลัมยังมีสารอาหารที่จำเป็นและมีประโยชน์ต่อร่างกายอื่น ๆ เช่น โพแทสเซียม แมกนีเซียม ธาตุเหล็ก แมงกานีส รวมถึงสารโพลีฟีนอล (Polyphenols) ซึ่งเป็นสารประกอบที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย เช่น ช่วยในการย่อยอาหาร การควบคุมโรคเบาหวาน

ประโยชน์ต่อสุขภาพของ อินทผาลัม

อินทผาลัมมีสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย โดยมีการศึกษาวิจัยทางวิทยาศาสตร์สนับสนุนสรรพคุณของอินทผาลัมต่อการส่งเสริมสุขภาพ ดังนี้

อาจช่วยเรื่องระบบขับถ่ายได้และป้องกันมะเร็งลำไส้ได้

อินทผาลัมอุดมไปด้วยไฟเบอร์หรือใยอาหารที่ช่วยกระตุ้นระบบขับถ่ายได้ดี และยังประกอบไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระหลายชนิด เช่น สารโพลีฟีนอล สารฟลาโวนอยด์ไกลโคไซด์ (Flavonoid glycosides) และสารแอนโทไซยานิน (Anthocyanins) ที่อาจช่วยเพิ่มจำนวนแบคทีเรียที่ดีในลำไส้ และยังมีฤทธิ์ยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งในเยื่อบุลำไส้อีกด้วย

จากงานวิจัยชิ้นหนึ่งที่ตีพิมพ์ในวารสาร Journal of nutritional science เมื่อเดือนตุลาคม พ.ศ. 2557 ศึกษาเรื่อง ผลกระทบของผลอินทาผลัมและส่วนประกอบโพลีฟีนอลต่อระบบนิเวศของจุลินทรีย์ในลำไส้ สารในกระบวนการสร้างและสลายแบคทีเรีย และการเพิ่มจำนวนเซลล์มะเร็งลำไส้ พบว่า เมแทบอลิซึมของแบคทีเรียในผลอินทผาลัมทำให้เกิดการผลิตแบคทีเรียในลำไส้ที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย เมื่อใช้ในรูปแบบของสารสกัดอินทผาลัมซึ่งมีปริมาณไฟเบอร์ชนิดไม่ละลายน้ำจะช่วยเพิ่มจำนวนแบคทีเรียในลำไส้

นอกจากนี้ยังพบว่า สารประกอบที่ไม่ละลายน้ำและสารโพลีฟีนอลที่สกัดจากผลอินทผาลัม สามารถยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งเยื่อบุลำไส้ (Caco-2 Cell) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงอาจสรุปได้ว่า การบริโภคผลอินทผาลัมอาจช่วยเสริมสร้างสุขภาพของลำไส้โดยการเพิ่มการเจริญเติบโตของแบคทีเรียที่เป็นประโยชน์ และยับยั้งการแพร่กระจายของเซลล์มะเร็งลำไส้ใหญ่

อาจช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดได้

อินทผาลัมเป็นผลไม้ที่มีดัชนีน้ำตาลต่ำ (Glycemic Index หรือ GI) ช่วยให้รู้สึกอิ่มเร็วและร่างกายดูดซึมน้ำตาลได้ช้า เหมาะกับผู้ที่ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด เช่น ผู้ป่วยโรคเบาหวาน โดยควรรับประทานควบคู่กับอาหารที่มีประโยชน์อื่น ๆ เช่น ถั่วที่เป็นแหล่งโปรตีนซึ่งจะช่วยให้ย่อยคาร์โบไฮเดรตให้ช้าลง และลดความเสี่ยงในการเกิดภาวะน้ำตาลในเลือดสูง

จากงานวิจัยชิ้นหนึ่งที่ตีพิมพ์ในวารสาร Pakistan Journal of Medical Sciences ฉบับเดือนกรกฎาคม-สิงหาคม พ.ศ. 2564 ศึกษาเรื่อง ผลกระทบของผลอินทผาลัมต่อระดับน้ำตาลในเลือดในผู้ป่วยเบาหวาน พบว่า ผลอินทผาลัมมีค่าดัชนีน้ำตาลต่ำกว่าอาหารบางประเภท ทั้งยังสามารถลดระดับน้ำตาลในเลือดได้ จากการวัดระดับน้ำตาลในพลาสมาของหลอดเลือดดำ (Fasting plasma glucose) และจากการวัดระดับน้ำตาลจากการเจาะเลือดหลังรับประทานอาหาร (Two – hour postprandial plasma glucose)

อาจออกฤทธิ์ต้านจุลชีพได้

อินทผาลัมอุดมไปด้วยสารประกอบฟีนอล เช่น สารโพลีฟีนอล สารฟลาโวนอยด์ ที่มีฤทธิ์ต้านแบคทีเรียและอนุมูลอิสระ โดยสารโพลีฟีนอลเป็นองค์ประกอบหลักที่ทำให้อินทผาลัมมีคุณสมบัติในการยับยั้งจุลินทรีย์และฤทธิ์ต้านจุลชีพ ต้านอาการอักเสบของเนื้อเยื่อ และลดความเสี่ยงในการติดเชื้อแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดโรคผิวหนังและโรคทางลำไส้ได้

จากงานวิจัยชิ้นหนึ่ง ที่ตีพิมพ์ใน Frontiers in microbiology เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559 ศึกษาเรื่อง ฤทธิ์ต้านแบคทีเรียสแตฟิโลค็อกคัสออเรียส (S. aureus) และแบคทีเรียเอสเชอริเดียโคไล (E. coli) ของน้ำเชื่อมอินทผาลัม พบว่า น้ำเชื่อมอินทผาลัมมีสารโพลีฟีนอลซึ่งมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ และยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรียสแตฟิโลค็อกคัสออเรียส (S. aureus) ที่เป็นต้นเหตุของโรคอักเสบทางผิวหนัง และแบคทีเรียเอสเชอริเดียโคไล (E. coli) ที่เป็นต้นเหตุของโรคติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะและโรคท้องเดิน จึงอาจนำไปใช้ในการรักษาการติดเชื้อแบคทีเรียได้ในอนาคต

เป็นสารให้ความหวานตามธรรมชาติที่ดีต่อสุขภาพ

ข้อมูลจากกระทรวงเกษตรแห่งสหรัฐอเมริกา (United States Department of Agriculture หรือ USDA) ระบุว่า อินทผาลัมจำนวน 1 ผล  มีปริมาณน้ำตาลทั้งหมด 8 กรัม และคาร์โบไฮเดรตประมาณ 6 กรัม อินทผาลัมเป็นแหล่งอาหารที่อุดมไปด้วยน้ำตาลฟรุกโตส ที่เป็นน้ำตาลธรรมชาติพบได้ในผลไม้ทั่วไป

โดยน้ำตาลจากอินทผาลัมถือว่าเป็นแหล่งน้ำตาลที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ด้วยเหตุนี้จึงสามารถใช้ทำเป็นน้ำเชื่อมทดแทนน้ำตาลทรายขาวทั่วไป โดยน้ำตาลที่ทำมาจากอินทผาลัม มีสารประกอบฟีนอลิก (Phenolic compounds) ซึ่งออกฤทธิ์กำจัดสารอนุมูลอิสระได้อย่างมีประสิทธิภาพ

จากงานวิจัยชิ้นหนึ่งที่ตีพิมพ์ใน Journal of Agricultural and Food Chemistry เมื่อเดือนมกราคม พ.ศ. 2545 ศึกษาเรื่อง ฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระและต้านการกลายพันธุ์ของสารสกัดผลอินทผาลัม พบว่า สารสกัดน้ำของอินทผาลัมสามารถยับยั้งการเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชันของไขมันและโปรตีน ส่งผลให้อนุมูลอิสระลดลงได้ จึงอาจสรุปได้ว่า ผลอินทผาลัมมีประสิทธิภาพในการต้านอนุมูลอิสระและต้านการกลายพันธุ์ สามารถใช้เป็นสารให้ความหวานที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพได้

ข้อควรระวังในการรับประทาน อินทผาลัม

แม้อินทผาลัมจะมีประโยชน์ต่อสุขภาพในหลาย ๆ ด้าน แต่ก็ไม่ควรรับประทานในปริมาณมากเกินไป ควรรับประทานผลไม้และอาหารประเภทอื่น ๆ ให้หลากหลาย เพื่อให้ได้รับสารอาหารอย่างครบถ้วน และลดความเสี่ยงในการได้รับสารอาหารชนิดใดชนิดหนึ่งเกินความต้องการของร่างกาย อินทผาลัมจัดเป็นผลไม้ที่น้ำตาลสูงแต่ค่าดัชนีน้ำตาลต่ำ (Low glycemic index food) หากรับประทานในปริมาณที่เหมาะสมมักไม่ส่งผลให้ระดับน้ำตาลในเลือดแปรปรวนหรือพุ่งสูง ผู้ที่เป็นโรคเบาหวานจึงสามารถรับประทานอินทผาลัมได้ แต่ควรกำจัดปริมาณให้เหมาะสม

นอกจากนี้ อินทผาลัมแห้งยังมีสารซัลไฟต์ (Sulfites) สูง ซึ่งอาจเป็นสารก่อภูมิแพ้ได้ ผู้ที่แพ้สารซัลไฟต์จึงไม่ควรบริโภคอินทผาลัม และควรหยุดรับประทานอินทผาลัมทันทีที่เกิดอาการแพ้ เพื่อหลีกเลี่ยงอาการไม่พึงประสงค์ต่าง ๆ เช่น อาการคัน น้ำตาไหล ตาแดง น้ำมูกไหล

หมายเหตุ

Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด

The impact of date palm fruits and their component polyphenols, on gut microbial ecology, bacterial metabolites and colon cancer cell proliferation. https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC4473134/. Accessed May 5, 2022

Antioxidant and antimutagenic properties of aqueous extract of date fruit (Phoenix dactylifera L. Arecaceae). https://pubmed.ncbi.nlm.nih.gov/11804538/. Accessed May 5, 2022

The Antibacterial Activity of Date Syrup Polyphenols against S. aureus and E. coli. https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC4768629/. Accessed May 5, 2022

Dates fruits effects on blood glucose among patients with diabetes mellitus: A review and meta-analysis. https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC8281151/. Accessed May 5, 2022

Dried Dates: Are They Good for You?. https://www.webmd.com/diet/dried-dates-are-they-good-for-you. Accessed May 5, 2022

เวอร์ชันปัจจุบัน

30/10/2023

เขียนโดย ศุภานิช สุริโย

ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย เนตรนภา ปะวะคัง

อัปเดตโดย: พลอย วงษ์วิไล


บทความที่เกี่ยวข้อง

ผลไม้ ที่มีน้ำตาลน้อย เหมาะสำหรับคนเป็น เบาหวาน

ประโยชน์อินทผาลัม ข้อควรระวังในการรับประทาน


ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย

เนตรนภา ปะวะคัง


เขียนโดย ศุภานิช สุริโย · แก้ไขล่าสุด 30/10/2023

ad iconโฆษณา

คุณได้รับประโยชน์จากบทความนี้หรือไม่?

ad iconโฆษณา
ad iconโฆษณา