เห็ดหลินจือ หรือเห็ดหมื่นปี หรือ เห็ดจวักงู เป็นเห็ดชนิดหนึ่งที่ชาวจีนนิยมบริโภคเพื่อใช้บรรเทาอาการป่วย หรือใช้เป็นยาอายุวัฒนะมานานกว่า 4,000 ปี เติบโตได้ดีในประเทศที่มีสภาพอากาศร้อนชื้น เห็ดหลินจือประกอบไปด้วยสารอาหาร วิตามิน และแร่ธาตุนานาชนิด เช่น โปรตีน วิตามินบีรวม วิตามินดี กรดอะมิโน สารต้านอนุมูลอิสระ ในปัจจุบัน มีงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์หลายชิ้นสนับสนุนว่า เห็ดหลินจือ อาจมีประโยชน์ต่อสุขภาพหลายประการ เช่น ช่วยต้านมะเร็ง ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด ช่วยส่งเสริมการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน อย่างไรก็ตาม การบริโภคเห็ดหลินจือในปริมาณมาก อาจทำให้เกิดผลข้างเคียงได้ เช่น มึนงง ปากแห้ง ปวดท้อง คลื่นไส้
[embed-health-tool-bmi]
คุณค่าทางโภชนาการของ เห็ดหลินจือ
เห็ดหลินจือ 100 กรัม ให้พลังงานประมาณ 35 กิโลแคลอรี่ และประกอบไปด้วยสารอาหารต่าง ๆ ที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ดังนี้
- ใยอาหาร 3 กรัม
- โปรตีน 3 กรัม
- โพแทสเซียม 432 มิลลิกรัม
- ฟอสฟอรัส 225 มิลลิกรัม
- ทองแดง 26 มิลลิกรัม
- แมงกานีส 22 มิลลิกรัม
- แมกนีเซียม 7.95 มิลลิกรัม
นอกจากนี้ ในเห็ดหลินจือยังประกอบด้วยวิตามินบีรวม วิตามินดี สังกะสี โซเดียม แคลเซียม ซัลเฟอร์ (Sulphur)
ประโยชน์ต่อสุขภาพของ เห็ดหลินจือ
เห็ดหลินจือ ประกอบไปด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ โดยมีงานศึกษาวิจัยทางวิทยาศาสตร์ที่สนับสนุนคุณสมบัติในการส่งเสริมสุขภาพของเห็ดหลินจือ ดังนี้
-
อาจช่วยต้านมะเร็งได้
เห็ดหลินจือมีสารนิวคลีโอไซด์ (Nucleoside) และสเตอรอล (Sterol) ซึ่งอาจมีคุณสมบัติในการต้านมะเร็ง
งานวิจัยชิ้นหนึ่ง ว่าด้วยคุณสมบัติและกลไกต้านมะเร็งของเห็ดตระกูลหลินจือ 2 ชนิด ตีพิมพ์ในวารสาร Journal of Agricultural and Food Chemistry ปี พ.ศ. 2552 นักวิจัยได้ทดสอบคุณสมบัติของสารสกัดจากเห็ดหลินจือแดงและเห็ดหลินจือม่วงต่อเซลล์มะเร็งเต้านม มะเร็งตับ และมะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิดมัยอิลอยด์ (Myeloid leukemia) ในหลอดทดลอง พบว่า สารสกัดจากเห็ดหลินจือทั้ง 2 ชนิด อาจมีคุณสมบัติในการช่วยป้องกันเซลล์มะเร็งเพิ่มจำนวน ยับยั้งวัฏจักรของเซลล์ รวมถึงเหนี่ยวนำให้เซลล์ทำลายตัวเอง นอกจากนี้ นักวิจัยเสริมว่า คุณสมบัติต้านมะเร็งต่าง ๆ ของเห็ดตระกูลหลินจือ อาจเป็นเพราะสารสเตอรอลและนิวคลีโอไซด์ที่อยู่ในเห็ดหลินจือ
อย่างไรก็ตาม ยังคงเป็นการทดลองในห้องปฏิบัติการ ควรมีการทดลองในสัตว์และมนุษย์เพิ่มเติม เพื่อยืนยันคุณสมบัติของเห็ดหลินจือในการต้านเซลล์มะเร็ง
-
อาจช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด
เห็ดหลินจือมีสารพอลิแซ็กคาไรด์ (Polysaccharide) ซึ่งมีคุณสมบัติกระตุ้นการหลั่งอินซูลินและการทำงานของเอนไซม์ต่าง ๆ ที่ส่งผลต่อการเผาผลาญน้ำตาลกลูโคสในร่างกาย การบริโภคเห็ดหลินจือ จึงอาจช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดได้
งานวิจัยชิ้นหนึ่ง เกี่ยวกับคุณสมบัติของสารพอลิแซ็กคาไรด์ในเห็ดหลินจือ ต่อหนูที่เป็นโรคเบาหวานชนิดที่ 2 เผยแพร่ในวารสาร Archives of Pharmacal Research ปี พ.ศ. 2555 นักวิจัยแบ่งหนูทดลองที่เป็นโรคเบาหวานออกเป็นกลุ่ม ๆ โดยกลุ่มหนึ่งให้บริโภคสารพอลิแซ็กคาไรด์ 50 กรัม/วัน ส่วนอีกกลุ่มให้บริโภค 100 กรัม/วัน และอีกกลุ่มไม่บริโภคสารใด ๆ เพิ่มเติม แล้วเปรียบเทียบการเปลี่ยนแปลงหลังทดลองครบ 7 วัน
พบว่า หนูทดลองทั้ง 2 กลุ่มที่บริโภคพอลิแซ็กคาไรด์ มีระดับน้ำตาลในเลือดที่ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ เมื่อเปรียบเทียบกับหนูกลุ่มที่ไม่ได้บริโภคสารใด ๆ เพิ่มเติม โดยหนูทดลองกลุ่มที่บริโภคพอลิแซ็กคาไรด์ 100 กรัม/วัน มีระดับน้ำตาลในเลือดลดลงมากกว่ากลุ่มที่บริโภคสารพอลิแซ็กคาไรด์ 50 กรัม/วัน
ทั้งนี้ ยังเป็นการทดลองในสัตว์ ควรมีการทดลองในมนุษย์เพิ่มเติม เพื่อยืนยันคุณสมบัติของเห็ดหลินจือในการช่วยลดน้ำตาลในเลือด
-
อาจช่วยบรรเทาความอ่อนล้าได้
สปอร์ของเห็ดหลินจืออาจมีคุณสมบัติต้านการอักเสบ มีส่วนในการสร้างมวลกล้ามเนื้อ และเสริมสร้างพลังงาน การบริโภคเห็ดหลินจือจึงอาจช่วยลดความรุนแรงของอาการอ่อนล้าเรื้อรังได้
การศึกษานำร่องชิ้นหนึ่ง ว่าด้วยคุณสมบัติของผงสปอร์เห็ดหลินจือในการช่วยบรรเทาอาการอ่อนล้าจากโรคมะเร็งในผู้ป่วยมะเร็งเต้านมที่รับการรักษาด้วยฮอร์โมน ตีพิมพ์ในวารสาร Evidence-Based Complementary and Alternative Medicine ปี พ.ศ. 2555 นักวิจัยสุ่มให้อาสาสมัครบางรายจากจำนวนผู้เข้าร่วมการทดลองทั้งหมดจำนวน 48 รายซึ่งป่วยเป็นมะเร็งเต้านม บริโภคผงสปอร์เห็ดหลินจือเป็นเวลา 48 สัปดาห์ แล้วเปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างผู้ที่บริโภคผงสปอร์เห็ดหลินจือและผู้ที่ไม่ได้บริโภคผ่านการทำแบบสอบถาม
ผลปรากฏว่า ผู้ป่วยมะเร็งเต้านมที่บริโภคเห็ดหลินจือ มีอาการดีขึ้นจากภาวะอ่อนล้า ภาวะซึมเศร้า และคุณภาพชีวิตดีขึ้น นักวิจัยจึงสรุปว่า ผงสปอร์เห็ดหลินจือ อาจมีประโยชน์ในการช่วยบรรเทาอาการอ่อนล้าจากโรคมะเร็งในผู้ป่วยมะเร็งเต้านมที่รักษาด้วยฮอร์โมนโดยไม่ก่อให้เกิดผลกระทบที่ไม่พึงประสงค์
-
อาจช่วยส่งเสริมการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน
เห็ดหลินจือประกอบด้วยสารพอลิแซ็กคาไรด์ ซึ่งมีประสิทธิภาพในการช่วยส่งเสริมระบบภูมิคุ้มกัน โดยกระตุ้นการทำงานของเซลล์ต่าง ๆ ในร่างกาย การบริโภคเห็ดหลินจือ จึงอาจช่วยเสริมสร้างให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายให้แข็งแรงขึ้น
งานวิจัยชิ้นหนึ่ง เกี่ยวกับการตอบสนองของภูมิคุ้มกันในร่างกาย จากการบริโภคสมุนไพรที่มีคุณสมบัติในการช่วยปรับสมดุลของระบบภูมิคุ้มกันในผู้ป่วยมะเร็งลำไส้ใหญ่ระยะลุกลาม เผยแพร่ในวารสาร International Immunopharmacology ปี พ.ศ. 2549 นักวิจัยทดลองให้อาสาสมัครที่เป็นผู้ป่วยมะเร็งลำไส้จำนวน 41 ราย บริโภคเห็ดหลินจือ เป็นเวลา 12 สัปดาห์ พบว่า ตัวชี้วัดต่าง ๆ ภายในระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย เช่น จำนวนเซลล์เม็ดเลือดขาวลิมโฟไซต์ (Lymphocyte) หลาย ๆ ชนิดและการทำงานของสารไฟโตฮีแมกกลูตินิน (Phytohemagglutinin) ซึ่งเกี่ยวข้องกับการตอบสนองของระบบภูมิคุ้มกัน เปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ดีขึ้น จึงอาจสรุปได้ว่า เห็ดหลินจือ อาจมีประสิทธิภาพในการช่วยส่งเสริมการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันของผู้ป่วยมะเร็งลำไส้ระยะลุกลาม
ทั้งนี้ ควรมีการทดลองเพิ่มเติมเพื่อศึกษาถึงประโยชน์และความปลอดภัยในการบริโภคเห็ดหลินจือของผู้ป่วยมะเร็งต่อไป
ข้อควรระวังในบริโภค เห็ดหลินจือ
แม้ว่าเห็ดหลินจืออาจมีสรรพคุณทางยาต่อร่างกาย แต่มีข้อควรระวังในการบริโภคเห็ดหลินจือ ดังนี้
- การบริโภคเห็ดหลินจือในปริมาณมาก อาจทำให้พบผลข้างเคียง เช่น มึนงง ปากแห้ง ปวดท้อง คลื่นไส้
- เห็ดหลินจือสกัดอาจสามารถบริโภคต่อเนื่องได้อย่างปลอดภัยในระยะเวลาไม่เกิน 1 ปี และสำหรับการบริโภคเห็ดหลินจือแบบผงได้อย่างปลอดภัยอาจไม่ควรเกิน 16 สัปดาห์ติดต่อกัน
- ปัจจุบัน ยังไม่มีข้อมูลที่น่าเชื่อถือในการสนับสนุนว่าหญิงตั้งครรภ์และหญิงให้นมบุตร สามารถบริโภคเห็ดหลินจือเพื่อบำรุงครรภ์ได้อย่างปลอดภัย จึงควรปรึกษาคุณหมอก่อนบริโภค