ประโยชน์ของกล้วย ที่ส่งผลดีต่อสุขภาพมีหลายประการ เพราะกล้วยอุดมไปด้วยสารอาหารสำคัญอย่างโพแทสเซียม แมกนีเซียม ไฟเบอร์ คาร์โบไฮเดรต วิตามินบี 6 วิตามินซี และวิตามินเอ ที่อาจมีส่วนช่วยส่งเสริมสุขภาพหัวใจ ลดความดันโลหิต เพิ่มความจำ นอกจากนี้ อาจช่วยลดความเสี่ยงโรคเบาหวานและมะเร็งได้
[embed-health-tool-bmi]
คุณค่าทางโภชนาการของกล้วย
กล้วยขนาดกลาง 1 ลูกน้ำหนักประมาณ 100 กรัม ประกอบไปด้วยปริมาณสารอาหาร ดังนี้
- พลังงาน 105 แคลอรี่
- คาร์โบไฮเดรต 14.4 กรัม
- ไฟเบอร์ 3.1 กรัม
- โปรตีน 1.3 กรัม
- โฟเลต 23.6 ไมโครกรัม
- แมกนีเซียม 31.9 มิลลิกรัม
- โพแทสเซียม 422 มิลลิกรัม
- วิตามินซี 10.3 มิลลิกรัม
- วิตามินเอ 3 ไมโครกรัม
- วิตามินบี 6 0.367 มิลลิกรัม
ประโยชน์ของกล้วยต่อสุขภาพ
เสริมสุขภาพทางเดินอาหาร
กล้วยอุดมไปด้วยไฟเบอร์และน้ำที่ช่วยส่งเสริมสุขภาพทางเดินอาหาร อาจช่วยป้องกันการติดเชื้อยีสต์และทางเดินปัสสาวะ รักษาโรคติดเชื้อทางเดินอาหารบางชนิด ลดการแพ้แลคโตส และยังเป็นหนึ่งในอาหาร BRAT ไดเอทที่ช่วยรักษาอาการท้องเสีย โดยประกอบด้วย (Bananas) ข้าว (Rice) ซอสแอปเปิล (Apple sauce) และขนมปังปิ้ง (Toast) นอกจากนี้ กล้วยอาจช่วยบรรเทาอาการท้องอืด ปวดท้องของผู้ป่วยโรคลำไส้อักเสบให้ดีขึ้นได้
ส่งเสริมสุขภาพหัวใจ
กล้วยมีไฟเบอร์ โพแทสเซียม โฟเลต และสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยส่งเสริมสุขภาพหัวใจ ช่วยให้เซลล์ประสาทตอบสนองได้ดี ช่วยในการหดตัวของกล้ามเนื้อ ทำให้หัวใจเต้นสม่ำเสมอ ควบคุมความดันโลหิต นอกจากนั้น การรับประทานอาหารที่มีไฟเบอร์สูงอาจช่วยเพิ่มระดับไขมันดี (LDL) และช่วยลดระดับไขมันเลว (HDL) ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดได้
งานวิจัยชิ้นหนึ่ง ศึกษาเกี่ยวกับ ประโยชน์ของการบริโภคไฟเบอร์ที่มีต่อการป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือด เผยแพร่ในวารสาร Journal of Chiropractic Medicine พ.ศ.2560 ระบุว่า การบริโภคอาหารที่อุดมไปด้วยไฟเบอร์ซึ่งเป็นสารอาหารที่มีส่วนช่วยลดปริมาณคอเลสเตอรอลชนิด LDL ซึ่งเป็นไขมันเลว อาจช่วยป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือดได้อย่างมีนัยสำคัญ
เสริมความจำและการควบคุมอารมณ์
กล้วยมี ทริปโตเฟน (Tryptophan) ซึ่งเป็นกรดอะมิโนที่อาจช่วยรักษาความจำ เพิ่มความสามารถในการเรียนรู้ และอาจช่วยควบคุมอารมณ์ให้คงที่ได้ด้วย
ลดความเสี่ยงโรคเบาหวาน
กล้วยอดุมไปด้วยไฟเบอร์ซึ่งมีส่วนช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้เป็นปกติในผู้ป่วยเบาหวาน และยังช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ได้อีกด้วย
ลดความเสี่ยงโรคมะเร็ง
โปรตีนแลคติน (Lectin) ในกล้วยทำหน้าที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่อาจช่วยป้องกันการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งเม็ดเลือดขาว นอกจากนี้ กล้วยยังมีวิตามินซี วิตามินเอ ที่ทำหน้าที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่อาจช่วยป้องกันมะเร็งได้เช่นกัน
อาจช่วยป้องกันโรคหอบหืด
เนื่องจากกล้วยมีสารต้านอนุมูลอิสระและโพแทสเซียม ที่อาจมีส่วนช่วยส่งเสริมสุขภาพทางเดินหายใจ และป้องกันโรคหอบหืดได้
ข้อควรระวังในการบริโภคกล้วย
แม้ว่ากล้วยจะมีประโยชน์ต่อสุขภาพหลายประการ แต่ควรรับประทานให้พอเหมาะ โดยมีข้อควรระวังในการบริโภค ดังนี้
- ผู้ที่ใช้ยา เบต้า บล็อกเกอร์ (Beta-Blockers) เป็นยาที่ออกฤทธิ์ลดความเสี่ยงภาวะแทรกซ้อนโรคหลอดเลือดหัวใจ ซึ่งยาชนิดนี้อาจเพิ่มระดับโพแทสเซียมในเลือด ดังนั้น ผู้ที่ต้องรับประทานยาชนิดนี้ควรจำกัดปริมาณการรับประทานกล้วย เพราะกล้วยมีระดับโพแทสเซียมสูง อาจเสี่ยงทำให้ไตทำงานไม่เต็มที่ และไม่สามารถขับโพแทสเซียมส่วนเกินได้หมดและอาจเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตได้
- โรคภูมิแพ้ กล้วยอาจทำให้เกิดอาการแพ้ โดยเฉพาะในผู้ที่แพ้พืชยางธรรมชาติ เช่น ขนุน หากรับประทานแล้วมีอาการคัน หายใจมีเสียงหวีด หายใจลำบาก ควรรีบเข้าพบคุณหมอทันที