- ละลายกะปิ และปลาร้าในน้ำให้พอเข้ากันดี เสร็จแล้วยกขึ้นตั้งไฟอ่อน พอเดือดใส่ตะไคร้ ใบมะกรูด หอมเล็ก ข่า
- ปรุงรสด้วยน้ำมะขาม น้ำตาลปี๊บ ชิมรสตามชอบ ก่อนปิดไฟเติมน้ำมะนาวแล้วยกลง
จัดข้าวสวยใส่จาน โรยเครื่องปรุงต่าง ๆ ให้ครบ ราดน้ำบูดูตามชอบ สูตรข้าวยำปักษ์ใต้สูตรนี้อาจดูยุ่งยาก เพราะต้องเตรียมส่วนผสมค่อนข้างเยอะ แต่รับรองเลยว่าเมื่อคุณเตรียมส่วนผสมครบแล้ว แค่ใช้เวลาทำอีกไม่นาน ก็จะได้ลิ้มรสข้าวยำปักษ์ใต้จานเด็ดอย่างแน่นอน
สำหรับผักและสมุนไพรต่าง ๆ ที่ใช้ในข้าวยำปักษ์ใต้สูตรนี้ คุณสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามใจชอบ หรือหากใครกินมังสวิรัติ ตอนทำน้ำบูดู ก็สามารถเปลี่ยนไปใช้กะปิเจและปลาร้าเจแทนได้ รับรองรสชาติอร่อยไม่แพ้สูตรต้นตำรับเลยละค่ะ
สะตอและดอกดาหลา ดาราประจำจานข้าวยำ
ข้าวยำนั้นมีผักและสมุนไพรหลากชนิดเป็นส่วนผสม แต่ที่เรียกได้ว่าเป็นดาวเด่นสุด ๆ ก็เห็นจะเป็นดอกดาหลาและสะตอ ซึ่งเป็นพืชท้องถิ่นของทางภาคใต้
ดอกดาหลา (Torch Ginger หรือ Ginger flower) เป็นพืชในวงศ์เดียวกับขิงและข่า มีลำต้นอยู่ใต้ดิน ดอกมีลักษณะเป็นดอกช่อ ประกอบด้วยกลีบเรียงซ้อนกันและบานออกประมาณ 25-30 กลีบ คนท้องถิ่นนิยมนำหน่อและดอกมาประกอบอาหาร ส่วนดอกนั้นมีรสชาติเปรี้ยว นอกจากจะเพิ่มรสชาติให้กับข้าวยำปักษ์ใต้ได้เป็นอย่างดีแล้ว ดอกดาหลายังมีสารประกอบฟีนอล โพลิฟีนอล (Polyphenol) ฟลาโวนอยด์ (Flavonoid) และเทอร์ปีนอยด์หลายชนิด ซึ่งมีฤทธิ์เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ต้านแบคทีเรีย ทั้งยังช่วยต้านมะเร็งได้ด้วย
ส่วนสะตอ (Parkia หรือ Petai หรือ Stink Bean) ก็เป็นไม้ยืนต้นในวงศ์ถั่วที่คนนิยมนำฝักหรือเมล็ดมากินเป็นอาหาร ถึงแม้เมล็ดสะตอจะมีลักษณะเฉพาะตัวคือกลิ่นแรงมาก แต่ก็เป็นที่โปรดปรานของใครหลาย ๆ คน นอกจากรสและกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์แล้ว สะตอยังอุดมไปด้วยสารอาหารนานาชนิด เช่น ธาตุเหล็ก ไฟเบอร์ โปรตีน คาร์โบไฮเดรต แคลเซียม วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 วิตามินบี 3 วิตามินซี กินแล้วช่วยให้เจริญอาหาร ช่วยให้ระบบขับถ่ายดีขึ้น ช่วยลดน้ำตาลในเลือด เป็นต้น
หลังกินข้าวยำปักษ์ใต้แล้ว อาจทำให้คุณมีกลิ่นปากไม่พึงประสงค์ ฉะนั้น อย่าลืมแปรงฟัน บ้วนปาก และใช้ไหมขัดฟันด้วย เพื่อสุขภาพช่องปากและฟันที่ดี และจะได้ช่วยลดกลิ่นปากด้วย
ความคิดเห็นทั้งหมด
แบ่งปันความคิดเห็นของคุณ
ร่วมแสดงความคิดเห็นของคุณกับ Hello คุณหมอ
สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ เพื่อร่วมการพูดคุย