โรคติดเชื้อจากอากาศ

ภายในอากาศที่อยู่รอบตัวเรานั้น นอกเหนือจากออกซิเจนที่ใช้ในการหายใจ ยังอาจแฝงมาด้วยฝุ่นละออง มลพิษ หรือแม้กระทั่งเชื้อโรคที่ก่อให้เกิด โรคติดเชื้อจากอากาศ ล่องลอยปะปนมาด้วย การเรียนรู้และทำความเข้าใจเกี่ยวกับ โรคติดเชื้อจากอากาศ เหล่านี้ อาจจะช่วยให้เราสามารถรับมือกับปัญหาสุขภาพดังกล่าวได้ดียิ่งขึ้น

เรื่องเด่นประจำหมวด

โรคติดเชื้อจากอากาศ

ไข้อีดำอีแดง (Scarlet fever)

โรคไข้อีดำอีแดง (Scarlet fever) เป็นการติดเชื้อแบคทีเรียชนิดหนึ่ง ที่เกิดขึ้นกับผู้ที่กำลังมีภาวะคออักเสบ โรคไข้อีดำอีแดงนี้จะมีลักษณะเด่นคือ มีผื่นสีแดงสดเกิดขึ้นตามลำตัว คำจำกัดความโรคไข้อีดำอีแดง คืออะไร โรคไข้อีดำอีแดง (Scarlet fever) เป็นการติดเชื้อแบคทีเรียชนิดหนึ่ง ที่เกิดขึ้นกับผู้ที่กำลังมีภาวะคออักเสบ โรคไข้อีดำอีแดงนี้จะมีลักษณะเด่นคือ มีผื่นสีแดงสดเกิดขึ้นตามลำตัว พร้อมกับอาการไข้สูง และเจ็บคอ โดยเชื้อแบคทีเรียที่ทำให้เกิดโรคไข้อีดำอีแดงนี้ จะเป็นเชื้อแบคทีเรียชนิดเดียวกัน กับที่ทำให้เกิดภาวะคออักเสบ โรคไข้อีดำอีแดงนั้นจะพบได้มากในกลุ่มเด็กอายุระหว่าง 5-15 ปี แม้ว่าโรคไข้อีดำอีแดงนี้อาจจะมีความอันตรายค่อนข้างสูง แต่ก็สามารถจัดการได้ด้วยการใช้ยาปฏิชีวนะ และการรักษาอย่างเหมาะสม แต่หากปล่อยทิ้งไว้ไม่ทำการรักษา อาจส่งผลกระทบต่อหัวใจ ไต และอวัยวะอื่นๆ ในร่างกายได้ โรคไข้อีดำอีแดง พบบ่อยแค่ไหน โรคไข้อีดำอีแดงนี้มักจะพบได้บ่อยในเด็กที่มีอายุระหว่าง 5-15 ปี และจะเกิดขึ้นกับผู้ที่มีภาวะคออักเสบอยู่ก่อนแล้ว อาการอาการของโรคไข้อีดำอีแดง สัญญาณและอาการของโรคไข้อีดำอีแดง มีดังต่อไปนี้ ผื่นแดง ผู้ป่วยจะมีผื่นสีแดงขึ้นตามตัว เกือบทั่วทั้งร่างกาย ผื่นแดงนั้นจะมีลักษณะคล้ายกับอาการแดดเผา จะพบได้มากในบริเวณใบหน้า คอ และลามลงมายังลำตัว แขน หรือขา รอยแดง นอกจากผื่นแดงแล้ว ยังอาจจะมีรอยเป็นเส้นสีแดง ขึ้นตามบริเวณข้อพับต่างๆ เช่น ขาหนีบ รักแร้ ข้อศอก หรือเข่า หน้าแดง ลิ้นจะเป็นสีแดงคล้ายสตอว์เบอร์รี เป็นตะปุ่มตะป่ำ และมักจะมีคราบสีขาวที่ลิ้น เนื่องจากภาวะคออักเสบที่เป็นอยู่ก่อนแล้ว เป็นไข้สูง 38 องศาเซลเซียสขึ้นไป มีอาการหนาวสั่น เจ็บคอ คลื่นไส้ […]

สำรวจ โรคติดเชื้อจากอากาศ

โรคติดเชื้อจากอากาศ

คุณป่วยได้หรือเปล่าถ้ามีใคร ไอจาม ใส่คุณ?

อาการ ไอจาม เกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ตั้งแต่ไอหรือจามเพื่อให้ทางเดินหายใจโล่งขึ้น ไปจนถึงไอจามเรื้อรัง เพราะป่วยเป็นวัณโรค คนเราสามารถไอหรือจามได้ตลอดเวลา และบางครั้งอาจเกิดขึ้นโดยที่คุณไม่ทันตั้งตัว จึงไม่ได้ป้องกันอย่างถูกวิธี ซึ่งนี่เอง เป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้เชื้อโรคมากมายแพร่ไปในอากาศ กระจายสู่ผู้อื่น และอาจทำให้ผู้ที่ได้รับเชื้อโรคป่วยเป็นโรคติดเชื้อทางเดินหายใจ (Respiratory tract infections) ได้ ไวรัส..ไปได้ไกลและอยู่ได้นานกว่าที่คิด ผลการศึกษาวิจัยพบว่า การไอหรือจามแต่ละครั้ง จะมีละอองน้ำลายประมาณ 3,000 หยด พร้อมกับไวรัสอีกราว 20,000 ตัว กระเซ็นออกมาด้วยความเร็วสูงสุดถึง 80 กิโลเมตร/ชั่วโมง โดยเมื่อไอ ละอองน้ำลายจะกระเซ็นไปได้ไกลถึง 6 เมตร และเมื่อจาม ละอองน้ำลายจะไปได้ไกลถึง 8 เมตร แถมละอองน้ำลายที่กระเซ็นออกมายังสามารถลอยอยู่ในอากาศได้นานถึง 10 นาทีเลยทีเดียว แม้ไวรัสที่ออกมาจะสัมผัสกับพื้นผิวแล้ว  ก็ยังสามารถอยู่รอด และกลับมาลอยในอากาศได้อีกครั้ง อนุภาคของไวรัสนั้นสามารถมีชีวิตอยู่บนเหล็กได้นานหลายชั่วโมง และมีชีวิตอยู่บนพลาสติกได้นานหลายวัน เมื่อคนอื่นหายใจเอาไวรัสเหล่านั้นเข้าไป จึงอาจทำให้ติดเชื้อและเจ็บป่วยได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง โรคไข้หวัด และไข้หวัดใหญ่ ไอจาม แบบไม่ให้แพร่เชื้อโรค การไอจามมักเกิดขึ้นโดยที่คุณไม่ทันระวังหรือไม่ทันตั้งตัว คุณจึงไม่ได้ป้องกัน และปล่อยให้เชื้อโรคจากตัวคุณ แพร่ไปสู่ผู้อื่นอีกหลายต่อหลายคน แต่คุณเองก็สามารถช่วยป้องกัน และลดการแพร่เชื้อโรคได้ง่ายๆ ด้วยการไอหรือจามอย่างถูกวิธี ดังนี้ ไอหรือจามใส่กระดาษทิชชู่ และทิ้งลงถังขยะทันที ไอหรือจามใส่ข้อพับหรือแขนเสื้อท่อนบน […]


โรคติดเชื้อจากอากาศ

เป็นหวัด มีสาเหตุจากฝนตก อากาศเย็น จริงหรือไม่

หลายคนอาจเคยได้ยินว่า อากาศเย็นหรือฝนตก จะทำให้ เป็นหวัด หรือไข้หวัดใหญ่ แต่ความจริงแล้วการเป็นหวัดนั้นเกิดจากการติดเชื้อไวรัสทางระบบทางเดินหายใจ รวมถึงยังอาจเกิดจากสาเหตุอื่น ๆ เช่น  ร่างกายอ่อนแอ ไม่ออกกำลังกาย รับประทานอาหารที่ไม่มีประโยชน์ อย่างไรก็ตาม การเป็นหวัดอาจมีความเชื่อโยงกับสภาพอากาศได้ เนื่องจากเชื้อไวรัสไข้หวัดสามารถเจริญเติบโตได้ดีในสภาพอากาศที่มีความชื้นสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงฝนตกห หรืออากาศเย็น ความเชื่อผิด ๆ เรื่องอากาศเย็นกับการ เป็นหวัด สำหรับโรคที่มีการติดต่อกันนั้น อากาศเย็นอาจไม่ใช่ปัจจัยที่ทำให้จ็บไข้ได้ป่วยแต่อย่างใด แต่เชื้อโรคต่างหากที่เป็นสาเหตุหลักของอาการเจ็บป่วยของทุกคน ทุกคนอาจเป็นหวัดได้ก็ต่อเมื่อติดเชื้อไรโนไวรัส (Rhinoviruses) ที่เป็นสาเหตุของไข้หวัดที่ส่งผลทำให้โพรงจมูกอักเสบจากการติดเชื้อ หรือการติดเชื้อไข้หวัดใหญ่จนกลายเป็นไข้หวัดใหญ่ โดยเชื้อไรโนไวรัสและเชื้อไข้หวัดใหญ่มักแพร่ระบาดในหน้าฝนและหน้าหนาว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในหน้าฝน ซึ่งทำให้มีความชื้นสูง และเชื้อโรคเจริญเติบโตได้ดี นอกจากนี้ ลมแรงในช่วงฝนตกก็อาจทำให้เชื้อโรคมีการแพร่กระจายของนี้ได้ง่ายขึ้นด้วย สาเหตุที่ทำให้หลายคนคิดว่าสภาพอากาศทำให้เป็นหวัด ในความเป็นจริงแล้ว อากาศเย็นไม่ได้ทำให้เกิดไข้หวัดได้ แต่อาจเกิดจากภาวะที่เรียกว่า ไฮโปเธอร์เมีย (Hypothermia) หรือสภาวะที่ร่างกายมีอุณหภูมิต่ำเกินไป ซึ่งภาวะที่เกิดขึ้นนี้อาจนำไปสู่การเป็นหวัดได้ เนื่องจากภาวะที่ร่างกายอุณหภูมิต่ำเกินไปอาจไปกดภูมิคุ้มกันของร่างกายที่จะต่อสู้กับไวรัสที่ทำให้เกิดไข้หวัดหรือไข้หวัดใหญ่ เมื่อร่างกายโดนฝนในหน้าฝน หรือเจอกับอากาศเย็น ๆ ในหน้าหนาว อาจส่งผลให้อุณหภูมิของพื้นผิวเยื่อบุจมูกลดต่ำลง และเกิดภาวะหลอดเลือดหดตัว (Vasoconstriction) โดยเฉพาะหลอดเลือดที่อยู่ใกล้ชิดกับผิวหนังชั้นบนมากที่สุด เช่น เส้นเลือดบริเวณจมูก ภาวะนี้ทำเกิดความแห้งที่ส่งผลกระทบต่อการทำงานของตัวกรองการติดเชื้อในจมูก ทำให้เกิดอาการคัดจมูก ส่งผลให้มักจะหายใจทางปากเวลาที่เกิดอาการคัดจมูกหนักมาก ก็เป็นโอกาสให้น้ำมูกที่มีไวรัสอยู่กระตุ้นให้เกิดหวัดขึ้นมา อย่างไรก็ตาม ฝนตกและอากาศเย็นไม่ได้เป็นเงื่อนไขที่ทำให้เกิดหวัดแต่อย่างใด แต่ใน 2 […]

advertisement iconโฆษณา
advertisement iconโฆษณา
advertisement iconโฆษณา

ทีมผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ของเรา

ทีมผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ของ Hello คุณหมอ ประกอบไปด้วยแพทย์และผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางที่มาร่วมสร้างสรรค์บทความในเว็บไซต์ของเราตามความเชี่ยวชาญในแต่ละด้าน ทีมแพทย์และผู้เชี่ยวชาญของเราจะช่วยรับรองว่าข้อมูลด้านสุขภาพของเราถูกต้อง เป็นปัจจุบัน และตรงตามหลักฐานจากงานวิจัยล่าสุด
ทีมผู้เชี่ยวชาญของเรามุ่งมั่นเต็มที่ในการช่วยให้คุณได้รับข้อมูลและความรู้ด้านสุขภาพที่น่าเชื่อถือ เข้าใจง่าย และเป็นประโยชน์ และพร้อมให้คำแนะนำในการดูแลสุขภาพกับคุณเสมอ เพื่อให้คุณได้รับทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพ และใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขมากยิ่งขึ้น

ดูผู้เชี่ยวชาญเพิ่มเติม
ดูผู้เชี่ยวชาญเพิ่มเติม