หากมีอาการไอเรื้อรัง บางครั้งอาจทำให้เกิด เสมหะปนเลือด ได้ด้วย การทำความเข้าใจเกี่ยวกับสาเหตุที่อาจทำให้เสมหะปนเลือด และวิธีป้องกันที่เหมาะสม อาจช่วยให้รับมือกับอาการที่เกิดขึ้นได้ดีขึ้น และรักษาได้อย่างทันท่วงที
[embed-health-tool-bmr]
เสมหะปนเลือด เกิดจากอะไรได้บ้าง
อาการมีเสมหะปนเลือดเมื่อไอ หรือที่เรียกว่า ไอเป็นเลือด สามารถพบได้บ่อย มักเกิดจากปัญหาในระบบทางเดินหายใจที่ไม่รุนแรง เช่น การติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนบน หลอดลมอักเสบ โรคหอบหืด แต่หากเสมหะมีเลือดปนเป็นจำนวนมาก หรือเห็นเลือดในเสมหะบ่อยครั้ง ในกรณีที่ไม่รุนแรงอาจเกิดจากปัญหาที่ปอดหรือกระเพาะอาหาร แต่หากเสมหะปนเลือดสีเข้ม และมีเศษอาหาร หรือสิ่งที่ดูเหมือนกากกาแฟปนออกมาด้วย อาจเป็นสัญญาณของปัญหาในระบบการย่อยอาหารที่รุนแรง ซึ่งควรเข้าพบคุณหมอทันที
สาเหตุที่พบบ่อยของเสมหะปนเลือด
สาเหตุที่พบได้บ่อย เมื่อมีเสมหะปนเลือด เช่น
- อาการไอรุนแรงและเรื้อรัง ส่งผลทำให้ระบบทางเดินหายใจส่วนบนระคายเคืองและเส้นเลือดฉีกขาด
- โรคหลอดลมอักเสบ อาจเกี่ยวข้องกับการอักเสบที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องของทางเดินหายใจ
- เลือดกำเดาไหล
- การบาดเจ็บสาหัส โดยเฉพาะที่บริเวณทรวงอก อาจทำให้มีเสมหะปนเลือดได้
- โรคมะเร็งปอด สามารถทำให้เกิดอาการไอเรื้อรัง หายใจถี่ เจ็บหน้าอก และบางครั้งอาจจะปวดกระดูกหรือปวดศีรษะด้วย
- โรคมะเร็งลำคอ มักเริ่มจากในลำคอ กล่องเสียง หรือหลอดลม และอาจทำให้เกิดอาการบวม หรือมีอาการเจ็บคอที่ไม่สามารถรักษาให้หายถาวรได้ นอกจากนั้น ยังอาจทำให้เกิดรอยสีแดงหรือสีขาวในปากด้วย
- โรคปอดบวม มักเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียที่ส่งผลให้เนื้อเยื่อปอดอักเสบ และอาจทำให้ไอเป็นเลือด หรือมีเสมหะปนเลือดได้ นอกจากนี้ ผู้ที่เป็นโรคปอดบวม มักมีอาการเจ็บหน้าอกเมื่อหายใจหรือไอ อ่อนเพลีย มีไข้ เหงื่อออก และหนาวสั่น หากเป็นผู้สูงอายุอาจมีอาการสับสนร่วมด้วย
- ปัญหาที่ปอด เช่น เส้นเลือดอุดตันที่ปอด มีลิ่มเลือดในปอด อาการบวมน้ำที่ปอด มีของเหลวในปอด รวมดึงการหายใจเอาสิ่งแปลกปลอมเข้าไปในปอด
- โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง ทำให้เกิดการกีดขวางการไหลเวียนของอากาศจากปอดอย่างถาวร จนส่งผลให้หายใจลำบาก ไอ ผลิตเสมหะ และหายใจเสียงดังฮืด ๆ
- การติดเชื้อ เช่น วัณโรค ซึ่งวัณโรคนั้นเกิดจากแบคทีเรีย ทำให้เกิดการติดเชื้อในปอดอย่างรุนแรง ซึ่งอาจนำไปสู่ไข้ เหงื่อออก เจ็บหน้าอก เจ็บขณะหายใจ ไอ หรือไอถาวร
- การใช้ยาต้านการแข็งตัวของเลือด เวลาไออาจทำให้มีเลือดบาง ๆ ปนออกมากับเสมหะ
- อาการบาดเจ็บและการติดเชื้อที่ระบบทางเดินหายใจ
- การสูดดมสิ่งแปลกปลอมเข้าไป ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดเสมหะปนเลือดในเด็ก
- การใช้ยาเสพติด เช่น โคเคน ที่สูดดมผ่านรูจมูก สามารถทำให้ระบทางเดินหายใจส่วนบนระคายเคืองได้
- ลิ้นหัวใจแคบ อาจทำให้หายใจถี่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อออกแรงหรือนอน นอกจากนี้ อาจมีอาการอื่น ๆ ร่วมด้วย ได้แก่ เท้าหรือขาบวม ใจสั่น เหนื่อยล้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อต้องออกกำลังกายหนัก ๆ
วิธีรับมือเมื่อเสมหะปนเลือด
หากมีเสมหะปนเลือดออกมามาก ควรเข้าพบคุณหมอในทันที โดยเฉพาะเมื่อมีเสมหะปนเลือดสีเข้ม และมีเศษอาหารปนออกมาด้วย เพราะอาจเป็นสัญญาณว่ามีปัญหาสุขภาพร้ายแรงในระบบทางเดินอาหาร นอกจากนี้ หากมีเสมหะปนเลือดร่วมกับมีอาการดังต่อนี้ไป ก็ควรรีบเข้าพบคุณหมอเช่นกัน
- วิงเวียนศีรษะ
- มีไข้
- ปวดศีรษะ
- เจ็บหน้าอก
- หายใจถี่ หรือหายใจลำบากขึ้นเรื่อย ๆ
- มีเลือดปนในปัสสาวะหรืออุจจาระ
- ไม่อยากอาหาร
- น้ำหนักลดโดยไม่ทราบสาเหตุ
การป้องกันไม่ให้เกิดเสมหะปนเลือด
วิธีเหล่านี้อาจช่วยป้องกันการเกิดเสมหะปนเลือดได้
- หยุดสูบบุหรี่ เนื่องจากการสูบบุหรี่ทำให้เกิดการระคายเคืองและการอักเสบ ทั้งยังเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดปัญหาสุขภาพอื่น ๆ เช่น โรคมะเร็งปอด
- ดื่มน้ำให้มากขึ้น หากรู้สึกว่ากำลังติดเชื้อในทางเดินหายใจให้ดื่มน้ำให้มากขึ้น เพราะน้ำดื่มสามารถทำให้เสมหะจางลงและช่วยขับเสมหะได้
- รักษาบ้านให้สะอาดอยู่เสมอ หากเป็นโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง โรคหอบหืด หรือปอดอักเสบ ฝุ่นละอองอาจทำให้ปอดระคายเคือง และทำให้อาการแย่ลง นอกจากนี้ เชื้อราและโรคราน้ำค้าง (Mildew) ก็อาจทำให้ติดเชื้อและระคายเคืองในทางเดินหายใจ จนทำให้เกิดเสมหะปนเลือดได้
- เมื่อพบความผิดปกติ ควรปรึกษาคุณหมอ อาการไอที่มีเสมหะสีเหลืองและสีเขียว อาจเป็นสัญญาณเตือนของการติดเชื้อทางเดินหายใจ ดังนั้น การปรึกษาคุณหมอหรือผู้เชี่ยวชาญตั้งแต่เนิ่น ๆ อาจช่วยให้รักษาโรคได้ทันท่วงที และช่วยป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นได้