แบบประเมินความเสี่ยงมะเร็งปากมดลูก อาจเป็นอีกวิธีที่จะช่วยป้องกันมะเร็งปากมดลูกในเบื้องต้นได้โดยการประเมินความเสี่ยงของแต่ละบุคคล เนื่องจากมะเร็งปากมดลูกเป็นโรคเรื้อรังที่อาจเกิดขึ้นได้จากการติดเชื้อเอชพีวี (HPV) โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ พันธุกรรม หรือความเสี่ยงในการใช้ชีวิต เช่น การสูบบุหรี่จัด ดังนั้น เพื่อลดความกังวลและป้องกันความเสี่ยง ควรทำแบบประเมินความเสี่ยงมะเร็งปากมดลูกเป็นประจำเพื่อคัดกรองเบื้องต้นด้วยตนเอง
[embed-health-tool-ovulation]
ทำไมถึงควรใช้แบบประเมินความเสี่ยงมะเร็งปากมดลูก
แบบประเมินความเสี่ยงมะเร็งปากมดลูก อาจช่วยให้ผู้หญิงค้นหาและประเมินปัจจัยเสี่ยงโรคมะเร็งปากมดลูกของตัวเองในเบื้องต้น เพื่อป้องกันหรือเข้ารับการวินิจฉัยและรักษาได้อย่างทันท่วงที ด้วยการตอบแบบประเมินที่ได้รับการยืนยันและตรวจสอบข้อมูลจากคุณหมอ
โดยสามารถเข้าทำแบบประเมินความเสี่ยงมะเร็งปากมดลูกได้ ฟรี! ทุกที่ทุกเวลาผ่านมือถือ แท็บเล็ตหรือคอมพิวเตอร์ ได้ที่เว็บไซต์ Hello คุณหมอ เพื่อสุขภาพที่ดีและห่างไกลจากโรคมะเร็งปากมดลูก
วิธีการใช้แบบประเมินความเสี่ยงมะเร็งปากมดลูก
สำหรับวิธีการใช้แบบประเมินความเสี่ยงมะเร็งปากมดลูก เพื่อค้นหาและประเมินความเสี่ยงของโรคมะเร็งปากมดลูก อาจทำได้ดังนี้
- เข้าไปที่เว็บไซต์ www.hellokhunmor.com จากนั้นเลือกเมนู เครื่องมือตรวจเช็กสุขภาพ
- เลือกเมนู ดูเครื่องมือตรวจเช็กสุขภาพทั้งหมด แบบประเมินจะอยู่ในหมวด ความเสี่ยงสุขภาพ
- จากนั้นเลือก แบบประเมินความเสี่ยงมะเร็งปากมดลูก
- คลิกเมนู เริ่ม เพื่อทำแบบประเมิน โดยคำถามจะมีทั้งหมด 12 ข้อ ซึ่งเกี่ยวข้องกับความเสี่ยงที่อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดมะเร็งปากมดลูก พร้อมทั้งข้อมูลความรู้และคำแนะนำสำหรับการป้องกันความเสี่ยงมะเร็งปากมดลูก
- เมื่อทำแบบประเมินเรียบร้อย ในตอนท้ายจะมีสรุปและคำแนะนำเพิ่มเติมเกี่ยวกับการป้องกันมะเร็งปากมดลูกเบื้องต้น
โดยแบบประเมินความเสี่ยงมะเร็งปากมดลูกนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้ข้อมูลความรู้และการป้องกันเบื้องต้นเท่านั้น ไม่สามารถใช้แทนการวินิจฉัย การรักษาและให้คำแนะนำทางการแพทย์ได้ ดังนั้น หากมีข้อสงสัยหรือพบอาการผิดปกติควรเข้าพบคุณหมอเพื่อทำการวินิจฉัยและรักษาทันที
การตรวจมะเร็งปากมดลูก
ปัจจัยเสี่ยงที่อาจทำให้เกิดมะเร็งปากมดลูกมักเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ดังนี้
- การมีเพศสัมพันธ์ตั้งแต่อายุยังน้อย อาจเสี่ยงต่อการมีคู่นอนหลายคนและมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้ป้องกัน ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงในการติดเชื้อเอชพีวี
- การเปลี่ยนคู่นอน อาจเพิ่มโอกาสในการได้รับเชื้อเอชพีวี หรือโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อื่น ๆ มากขึ้น
- การติดเชื้อเอชพีวี เป็นสาเหตุของการเกิดโรคมะเร็งปากมดลูก ซึ่งมักติดต่อผ่านการมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกัน
- การเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เช่น หนองใน หนองในเทียม ซิฟิลิส เชื้อเอชไอวี/เอดส์ ซึ่งอาจเพิ่มความเสี่ยงติดเชื้อเอชพีวีได้ง่ายขึ้น
- การมีภูมิคุ้มกันอ่อนแอ อาจเสี่ยงต่อการติดเชื้อเอชพีวีและเสี่ยงเป็นมะเร็งปากมดลูกได้ง่าย
- การสูบบุหรี่ อาจทำให้เซลล์ผิดปกติและเสี่ยงเป็นมะเร็งปากมดลูกชนิดเซลล์สความัส (Squamous Cell Cervical Cancer)
หากพบว่ามีความเสี่ยงดังที่กล่าวมาข้างต้นหรือมีอาการผิดปกติ เช่น เลือดออกทางช่องคลอดหลังมีเพศสัมพันธ์ ระหว่างรอบเดือนหรือหลังวัยหมดประจำเดือน ตกขาวมีเลือดปนและมีกลิ่นเหม็น ปวดอุ้งเชิงกรานหรือปวดขณะมีเพศสัมพันธ์ ควรรีบเข้าพบคุณหมอเพื่อตรวจหามะเร็งปากมดลูกทันที
โดยการตรวจวินิจฉัยมะเร็งปากมดลูกอาจทำได้ดังนี้
- การตรวจแปปสเมียร์ (Pap Smear หรือ Pap Test) คุณหมอจะใช้เครื่องมือถ่างช่องคลอด จากนั้นใช้แปรงขนาดเล็กขูดบริเวณปากมดลูกและบริเวณรอบ ๆ เพื่อเก็บเซลล์ จากนั้นนำไปส่องดูด้วยกล้องจุลทรรศน์เพื่อดูความผิดปกติของเซลล์
- การทดสอบการติดเชื้อเอชพีวี คุณหมอจะทดสอบหลังการตรวจแปปสเมียร์ โดยการนำเซลล์จากปากมดลูกไปตรวจสอบดีเอ็นเอหรืออาร์เอ็นเอ เพื่อตรวจหาเชื้อไวรัสเอชพีวี