ฉีดอินซูลินตอนไหน อาจเป็นคำถามที่ผู้ป่วยเบาหวานหลายคนสงสัย ซึ่งผู้ป่วยเบาหวานบางรายจำเป็นต้องยาฉีดอินซูลินทดแทน เพื่อช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดไม่ให้สูงเกินไป เนื่องจากตับอ่อนผลิตอินซูลินได้น้อยกว่าปกติหรืออาจไม่ได้เลย จึงจำเป็นต้องฉีดอินซูลินทดแทนให้ทำหน้าที่เสมือนฮอร์โมนอินซูลินที่ร่างกายผลิตเอง สำหรับช่วงเวลาที่เหมาะสมในการฉีดอินซูลินขึ้นอยู่กับชนิดของอินซูลินที่ใช้ ซึ่งคุณหมอจะกำหนดให้ตามอาการและภาวะสุขภาพของแต่ละบุคคล หากใช้อินซูลินชนิดออกฤทธิ์เร็ว ควรฉีดก่อนมื้ออาหาร 5-15 นาที เพราะอินซูลินชนิดนี้จะออกฤทธิ์ภายใน 15 นาที หากใช้อินซูลินชนิดออกฤทธิ์สั้น ควรฉีดก่อนมื้ออาหารราว ๆ 30 นาที เพราะอินซูลินชนิดนี้จะเริ่มออกฤทธิ์ภายใน 30 นาที
[embed-health-tool-bmi]
อินซูลินคืออะไร ทำไมต้องฉีดอินซูลิน
อินซูลิน เป็นฮอร์โมนชนิดหนึ่ง ซี่งผลิดจากตับอ่อน มีหน้าที่ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้เป็นปกติ โดยจะช่วยให้เซลล์ต่าง ๆ นำน้ำตาลในกระเเสเลือดเข้าสู่ภายในเซลล์ เเละเผาผลาญเป็นพลังงาน รวมถึงนำน้ำตาลส่วนเกินไปสะสมไว้ที่ตับในรูปแบบของไกลโคเจน (Glycogen) เพื่อเป็นเเหล่งพลังงานสำรอง
ในผู้ป่วยเบาหวาน ตับอ่อนสามารถผลิตอินซูลินได้ลดลง ส่งผลให้การควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดบกพร่อง ร่างกายจึงมีระดับน้ำตาลในเลือดที่สูงกว่าปกติ ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการแทรกซ้อนต่าง ๆ ที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพได้
ดังนั้น ในผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 ที่ใช้ยารับประทานเเล้วยังควบคุมเบาหวานไม่ได้ หรือ ในผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 1 คุณหมอจะให้ใช้ยาฉีดอินซูลินทดแทน เพื่อทำหน้าที่เสมือนฮอร์โมนอินซูลินที่ผลิตจากตับอ่อน เพื่อควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด
นอกจากนี้ การใช้ยาฉีดอินซูลินในผู้ป่วยเแต่ละรายจะแตกต่างกัน ทั้งในแง่ของปริมาณอินซูลินและชนิดของอินซูลิน โดยขึ้นอยู่กับระดับน้ำตาลในเลือด โรคร่วมของผู้ป่วย รวมถึงแผนการรักษาของคุณหมอ เพื่อให้การฉีดอินซูลินมีประสิทธิภาพและปลอดภัย ผู้ป่วยควรปฏิบัติตามคำแนะนำของคุณหมออย่างเคร่งครัด
อุปกรณ์ที่ใช้ในการ ฉีดอินซูลิน
ในการฉีดอินซูลินจะเป็นการฉีดยาเข้าที่ชั้นไขมันใต้ผิวหนัง ผู้ป่วยเบาหวานจึงควรฉีดอินซูลินบริเวณหน้าท้อง สะโพก หรือก้น เพื่อให้อินซูลินค่อย ๆ ถูกดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือด และออกฤทธิ์ลดระดับน้ำตาล โดยอุปกรณ์ที่ใช้ในการฉีดอินซูลินมีหลายรูปเเบบ ได้แก่
- เข็มฉีดยา/ไซริงค์ (Syringe) โดยผู้ป่วยเบาหวานจะใช้ไซริงค์ดูดอินซูลินจากขวดเข้าสู่ไซริงค์ ในปริมาณที่คุณหมอกำหนด แล้วค่อย ๆ ฉีดอินซูลินเข้าสู่ร่างกาย
- ปากกา เป็นชุดอุปกรณ์รูปร่างคล้ายด้ามปากกา ภายในมีหลอดแก้วที่บรรจุอินซูลินไว้สำหรับฉีด ตรงปลายด้านหนึ่งของปากกาจะไว้ประกอบกับชุดหัวเข็ม ส่วนอีกด้านจะไว้สำหรับปรับเลือกปริมาณอินซูลินที่ต้องการด้าน
- อินซูลิน ปั๊ม (Insulin Pump) เป็นเครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์ทางการแพทย์จะมีส่วนปลายเข็มเล็ก ๆ ฝังติดตัวผู้ป่วยเบาหวานไว้ตลอดเวลา มีลักษณะเป็นกล่องสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาดเล็กภายในบรรจุอินซูลินไว้ โดยอินซูลิน ปั๊มจะถูกตั้งโปรแกรมให้จ่ายอินซูลินเข้าสู่ร่างกายผู้ป่วยทีละน้อยตลอดเวลา และเพิ่มมากขึ้นเมื่อถึงมื้ออาหารเพื่อควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้ได้ตามเป้าหมายตลอดเวลา
ฉีดอินซูลินตอนไหน ให้ผลดีต่อผู้ป่วยเบาหวาน
โดยทั่วไปยาฉีดอินซูลินมักใช้ฉีดตอนก่อนมื้ออาหาร เพื่อช่วยควบคุมระดับน้ำในเลือดที่สูงขึ้นหลังจากรับประทานอาหาร โดยช่วงเวลาฉีดอินซูลินของผู้ป่วยเบาหวานแต่ละราย อาจแตกต่างกันไปตามระยะเวลาในการออกฤทธิ์ของอินซูลินแต่ละชนิดตามคุณหมอแนะนำ โดยชนิดของอินซูลินแบ่งได้ ดังนี้
- อินซูลินชนิดออกฤทธิ์เร็ว (Rapid-acting Insulin) เริ่มออกฤทธิ์ภายในไม่กี่นาที หลังจากฉีด และออกฤทธิ์นาน 3-5 ชั่วโมง ควรฉีดยาก่อนมื้ออาหาร 5-15 นาที มักใช้ร่วมกับอินซูลินที่ออกฤทธิ์นาน
- อินซูลินชนิดออกฤทธิ์สั้นหรือปกติ (Regular or Short-acting Insulin) ออกฤทธิ์เต็มที่หลังฉีดประมาณ 30 นาที และออกฤทธิ์นาน 5-8 ชั่วโมง ควรฉีดยาก่อนมื้ออาหาร 30 นาที
- อินซูลินชนิดออกฤทธิ์ปานกลาง (Intermediate-acting Insulin) ออกฤทธิ์ภายใน 2-4 ชั่วโมงหลังฉีด และออกฤทธิ์นาน 10-18 ชั่วโมง อาจใช้วันละ 1-2 ครั้ง ขึ้นกับผู้ป่วยเเต่ละราย เเละ มักใช้ร่วมกับอินซูลินที่ออกฤทธิ์สั้น
- อินซูลินชนิดออกฤทธิ์นาน (Long-acting Insulin) เริ่มออกฤทธิ์ภายใน 1-2 ชั่วโมงหลังฉีด และออกฤทธิ์ต่อเนื่องยาวนาน 24 ชั่วโมง จึงใช้วันละครั้ง มักใช้ร่วมกับอินซูลินที่ออกฤทธิ์เร็วหรือสั้น
ฉีดอินซูลิน มีผลข้างเคียงอย่างไร
การฉีดอินซูลิน อาจทำให้เกิดผลข้างเคียงในผู้ป่วยเบาหวาน ดังต่อไปนี้
- เกิดอาการคัน บวม แดง หรือรอยช้ำ ที่ผิวหนังตำเเหน่งที่ฉีดอินซูลิน
- ผิวหนังบริเวณที่ฉีดหนาตัวขึ้นเป็นไต ซึ่งอาจพบได้หากฉีดยาที่ตำเเหน่งเดิมซ้ำ ๆ
- น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น
- อาการแพ้อินซูลิน อาจเกิดผื่นคันตามร่างกาย หายใจลำบาก หัวใจเต้นเร็ว
- น้ำตาลในเลือดต่ำ จากการฉีดยาอินซูลินมากเกินไป ทำให้มีอาการ มือสั่น เวียนศีรษะ สับสน สายตาพร่าเบลอ หรืออยากอาหารมากเป็นพิเศษ