backup og meta

สมุนไพรลดเบาหวาน มีอะไรบ้าง และควรดูแลตัวเองอย่างไร

ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย พลอย วงษ์วิไล


เขียนโดย สิฏฐิณิศา รัชตวโรทัย · แก้ไขล่าสุด 12/05/2023

    สมุนไพรลดเบาหวาน มีอะไรบ้าง และควรดูแลตัวเองอย่างไร

    โดยปกติแล้ว การรักษาเบาหวานทำได้ด้วยการรับประทานยาตามคำสั่งของคุณหมออย่างเคร่งครัด และดูแลตัวเองอย่างสม่ำเสมอ นอกจากการใช้ยารักษาแล้ว ผู้ป่วยเบาหวานบางคนอาจใช้ สมุนไพรลดเบาหวาน เป็นอาหารเสริม เพื่อช่วยลดระกับน้ำตาลในเลือด รวมถึงช่วยควบคุมภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆ เช่น โรคไต ระบบประสาทเสื่อม โรคหลอดเลือดสมอง อย่างไรก็ตาม ก่อนรับประทานสมุนไพรลดเบาหวานทุกชนิด ควรปรึกษาคุณหมอก่อนเสมอ เนื่องจากสมุนไพรบางชนิดอาจส่งผลกระทบต่อฤทธิ์ของยาเบาหวานได้

    เบาหวาน เกิดจากอะไร

    เบาหวาน คือ โรคเรื้อรังที่จะวินิจฉัยเมื่อระดับน้ำตาลในเลือดสูงตั้งแต่ 126 มิลลิกรัม/เดซิลิตรขึ้นไป ซึ่งเป็นผลจากตับอ่อนไม่สามารถผลิตฮอร์โมนอินซูลินได้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย หากปล่อยไว้นานอาจเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆ ได้ เช่น โรคไต ระบบประสาทเสื่อม โรคหลอดเลือดสมอง

    สำหรับชนิดของเบาหวาน อาจแบ่งได้ ดังนี้

  • เบาหวานชนิดที่ 1 เกิดจากระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายบกพร่อง ทำให้ตับอ่อนที่ทำหน้าที่ผลิตอินซูลินไม่สามารถผลิตอินซูลินได้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย นำไปสู่ภาวะน้ำตาลสะสมในเลือดสูงขึ้น อาจส่งผลให้ผู้ป่วยมีอาการเหนื่อยล้า อ่อนเพลีย ปัสสาวะบ่อย
  • เบาหวานชนิดที่ 2 เกิดจากตับอ่อนไม่สามารถผลิตฮอร์โมนอินซูลินได้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย หรือเซลล์ในร่างกายไม่ตอบสนองต่ออินซูลิน ส่งผลให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงกว่าปกติ หากปล่อยไว้นานอาจส่งผลให้ผู้ป่วยมีอาการหิวน้ำบ่อย ปัสสาวะบ่อย และน้ำหนักลดได้
  • เบาหวานขณะตั้งครรภ์ เกิดขึ้นในขณะตั้งครรภส่งผลให้ร่างกายมีปัญหาเกี่ยวกับระดับน้ำตาลในเลือดสูง ซึ่งไม่เพียงแต่จะส่งผลต่อสุขภาพของคุณแม่เท่านั้น แต่ยังมีผลข้างเคียงต่อสุขภาพของทารกในครรภ์ด้วย อย่างไรก็ตาม ภาวะเบาหวานขณะตั้งครรภ์มักหายไปเองหลังจากคลอดลูก แต่คุณแม่หลังคลอดบางรายก็อาจมีความเสี่ยงที่จะเป็นเบาหวานชนิดที่ 2 ตามมาในภายหลัง
  • สมุนไพรลดเบาหวาน มีอะไรบ้าง

    สำหรับ สมุนไพรลดเบาหวาน อาจมีดังนี้

    ขิง

    เป็นสมุนไพรที่มักนิยมนำมาใช้เป็นเครื่องเทศและสารแต่งกลิ่นในอาหาร มีสรรพคุณในการรักษาอาการป่วยต่าง ๆ เช่น อาหารไม่ย่อย คลื่นไส้ นอกจากนี้ ขิงยังอาจมีสรรพคุณช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ จากงานวิจัยชิ้นหนึ่งที่ตีพิมพ์ในวารสาร Medicine (Baltimore) เมื่อ พ.ศ. 2562 ศึกษาเกี่ยวกับขิงเป็นอาหารสำหรับการรักษาแบบดั้งเดิมในการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดในผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 พบว่า ขิงมีประโยชน์ต่อผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 เพราะช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดของผู้ป่วยโดยเฉพาะในระยะยาวได้ ทั้งยังช่วยปรับปรุงค่าฮีโมโกลบิน เอ วัน ซี (Hemoglobin A1C หรือ HbA1c) นอกจากนี้ ขิงยังมีฤทธิ์ในการป้องกันหรือลดภาวะแทรกซ้อนจากเบาหวาน เช่น จอประสาทตาขนาดเล็ก ทั้งยังช่วยป้องกันตับ ไต และภาวะแทรกซ้อนของระบบประสาทในผู้ป่วยเบาหวานที่ 2 ได้อีกด้วย

    อบเชย

    เป็นเครื่องเทศที่อาจช่วยเพิ่มความไวของอินซูลิน ลดระดับน้ำตาลในเลือด และลดระดับคอเลสเตอรอลในผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 ได้ จากงานวิจัยชิ้นหนึ่งที่ตีพิมพ์ในวารสาร Nutrients เมื่อ พ.ศ. 2555 ศึกษาเกี่ยวกับอบเชยเป็นแนวทางการรักษาเสริมสำหรับภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำและการควบคุมภาวะไขมันในเลือดผิดปกติในผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 และกลไกการออกฤทธิ์ระดับโมเลกุล พบว่า อบเชยอาจมีประโยชน์ต่อเบาหวานชนิดที่ 2 ในการช่วยปรับปรุงตัวบ่งชี้ระดับน้ำตาลในเลือดและไขมันในเลือด ช่วยกระตุ้นการควบคุมการเผาผลาญกลูโคสในเนื้อเยื่อ ทั้งยังช่วยลดคอเลสเตอรอลและการดูดซึมกรดไขมันในลำไส้ได้อีกด้วย

    กระเทียม

    เป็นหนุ่งในสมุนไพรที่มีประโยชน์หลากหลาย และมักใช้เป็นยาต้านลิ่มเลือด ลดความดันโลหิต ลดคอเลสเตอรอล และสารต้านอนุมูลอิสระ โดยมีงานวิจัยชิ้นหนึ่งที่ตีพิมพ์ในวารสาร Food & Nutrition Research เมื่อ พ.ศ. 2560 ศึกษาเกี่ยวกับผลของการเสริมกระเทียมในการจัดการเบาหวานชนิดที่ 2 พบว่า กระเทียมช่วยปรับปรุงการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดอย่างมีนัยสำคัญ ทั้งยังมีส่วนช่วยให้ภาวะดื้ออินซูลินลดลง นอกจากนี้ กระเทียมยังมีผลต่อการปรับปรุงคอลเลสเตอรอลรวม ทั้งยังช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหลอดเลือดและหัวใจในผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 นอกจากนี้ กระเทียมยังช่วยป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่เกี่ยวข้องกับเบาหวานชนิดที่ 2 ได้อีกด้วย

    แปะก๊วย

    เป็นสมุนไพรที่ได้รับความนิยมมาอย่างยาวนาน มีส่วนช่วยปรับปรุงการไหลเวียนโลหิต และอาจช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดได้ด้วย จากงานวิจัยชิ้นหนึ่งที่ตีพิมพ์ในวารสาร University of Cincinnati เมื่อ พ.ศ. 2562 ศึกษาเกี่ยวกับแปะก๊วยอาจช่วยในการรักษาเบาหวานชนิดที่ 2 พบว่า สารสกัดจากใบแปะก๊วยมีผลดีต่อเบต้าเซลล์ของแลงเกอร์ฮานส์ (Langerhans)  ซึ่งเป็นเซลล์ในตับอ่อนที่มีหน้าที่ในการหลั่งอินซูลิน ทั้งยังช่วยลดระกับน้ำตาลในเลือดได้อีกด้วย ทั้งนี้ เป็นเพียงการทดลองในสัตว์ ยังต้องมีการศึกษาเพิ่มเติม

    ว่านหางจระเข้

    เป็นพืชที่มีสรรพคุณช่วยลดการอักเสบในร่างกายที่มีส่วนทำให้เกิดโรคเรื้อรังต่าง ๆ เช่น เบาหวาน และยังอาจช่วยรักษาอาการอาหารไม่ย่อยได้อีกด้วย จากงานวิจัยชิ้นหนึ่งที่ตีพิมพ์ใน Journal of Food Science and Technology เมื่อ พ.ศ. 2557 ศึกษาเกี่ยวกับฤทธิ์ลดน้ำตาลในเลือดและฤทธิ์ลดไขมันของว่านหางจระเข้ในผู้ป่วยเบาหวานชนิดไม่พึ่งอินซูลิน พบว่า ระดับน้ำตาลในเลือดและระดับคอเลสเตอรอลรวมลดลงอย่างมีนัยสำคัญ รวมถึงยังช่วยปรับปรุงระดับไขมันในผู้ป่วยเบาหวานที่ไม่พึ่งอินซูลินอีกด้วย

    อย่างไรก็ตาม การรับประทานสมุนไพรลดเบาหวาน ควรได้รับคำแนะนำจากคุณหมอผู้เชี่ยวชาญ เพื่อจะได้รับประทานในปริมาณที่เหมาะสม และป้องกันความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นในแต่ละคน

    การดูแลตัวเองเมื่อเป็นเบาหวาน

    การดูแลตัวเองอย่างสม่ำเสมออาจช่วยควบคุมเบาหวานได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ ยังอาจช่วยป้องกันการเกิดภาวะแทรกซ้อนได้อีกด้วย ซึ่งวิธีการดูแลตัวเองเมื่อเป็นเบาหวานอาจทำได้ ดังนี้

    • การควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด โดยตรวจวัดระดับน้ำตาลในเลือดอย่างสม่ำเสมอ และปรับระบบอาหารให้เหมาะสมด้วยการลดปริมาณอาหารหวาน และเพิ่มปริมาณผักและผลไม้ในอาหาร
    • การออกกำลังกาย เป็นสิ่งสำคัญในการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด และช่วยลดน้ำหนัก ทำให้ร่างกายสมบูรณ์แข็งแรง และลดความเสี่ยงในการภาวะแทรกซ้อนที่เกี่ยวกับเบาหวาน เช่น โรคไต ระบบประสาทเสื่อม โรคหลอดเลือดสมอง
    • การดูแลร่างกายอย่างเหมาะสม เพื่อควบคุมโเบาหวาน รวมถึงการทำความสะอาดเล็บและตัดเล็บให้สั้น การรักษาผิวหนังให้สะอาดและป้องกันการแตกหรือติดเชื้อ การใส่รองเท้าที่เหมาะสม รวมถึงการตรวจสุขภาพตาเป็นประจำ
    • การลดความเครียด เนื่องจากความเครียดอาจทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้น ควรลดความเครียดด้วยกิจกรรมที่ชอบ เช่น การฝึกโยคะ การอ่านหนังสือ การนอนหลับพักผ่อน
    • การตรวจสุขภาพอย่างสม่ำเสมอ เพื่อตรวจสอบระดับน้ำตาลในเลือด ความดันโลหิต ระดับไขมันในเลือด และการทำงานของไต ในกรณีที่มีภาวะแทรกซ้อนอาจต้องพบคุณหมอเพื่อให้การรักษาเพิ่มเติม
    • การติดตามการรักษา เพื่อตรวจสอบผลการรักษา และปรับปรุงการดูแลตัวเอง ในกรณีที่ได้รับยาเบาหวาน ควรรับประทานยาตามที่คุณหมอสั่งอย่างเคร่งครัด และปรึกษาคุณหมอหากมีปัญหาหรืออาการไม่ดีขึ้น

    หมายเหตุ

    Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด

    ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย

    พลอย วงษ์วิไล


    เขียนโดย สิฏฐิณิศา รัชตวโรทัย · แก้ไขล่าสุด 12/05/2023

    advertisement iconโฆษณา

    คุณได้รับประโยชน์จากบทความนี้หรือไม่?

    advertisement iconโฆษณา
    advertisement iconโฆษณา