ชวนทุกคนร่วมกิจกรรม กับ Hello คุณหมอ Community ประจำเดือนสิงหาคม

Ruangsiri Sengkhampa จากคำถามที่ถามมาคงตอบให้ชัดเจนได้ยากค่ะ เนื่องจาก จริงๆเเล้วการบริโภคน้ำผึ้งก็ทำให้ระดับน้ำตาลในเเลือดขึ้นสูงได้เช่นกัน เเต่การที่จะเป็นเบาหวานหรือไม่น้ันคงขึ้นกับปัจจัยอื่นอีกหลายๆ ปัจจัยด้วยค่ะ อาทิเช่น พฤติกรรมการดำเนินชีวิต อาหารอื่นๆที่ทาน การออกกำลังกาย กรรมพันธ์ค่ะ

ลี ลา หากเป็นภาวะก่อนเบาหวาน การปรับพฤติกรรมสุขภาพ ได้เเก่ การควบคุมอาหาร ลดอาหารจำพวกแป้ง/น้ำตาล รวมถึงเเนะนำให้ออกกำลังกานอย่างสม่ำเสมอ ก็จะช่วยให้ร่างกายจัดการกับน้ำตาลส่วนเกินได้ดีขึ้นค่ะ เเละ ส่วนมากเเล้ว ระดับน้ำตาลสามารถลดลงกลับไปสู่เกณฑ์ปกติได้ (เเต่อย่างไรก็ตาม คงขึ้นอยู่กับเเต่ละบุคคลด้วยนะคะ)

กรรมพันธุ์เป็นปัจจัยหนึ่งของโรคเบาหวานค่ะ เเต่ก็มีอีกหลายๆปัจจัย เช่นการดูเเลสุขภาพของตัวเราเอง ช่วงวัย47ปี จัดอยู่ในช่วงวัยกลางคน ซึ่งนอกจากการปรับพฤติกรรมสุขภาพ เลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เลี่ยง หวาน มัน เค็ม และการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอเเล้ว อยากเเนะนำให้หมั่นเข้ารับการตรวจสุขภาพประจำปี เพื่อคอยเช็คภาวะสุขภาพของตัวเราเองอย่างสม่ำเสมอค่ะ

Annabelle Annabelle จริงๆเเล้ว การรับประทานอาหารจำพวกเเป้งหรือาหารหวานๆที่มีน้ำตาลมาก ไม่ว่าจะเป็นช่วงเวลาใดของวัน หากรวมๆเเล้วปริมาณมากเกินความสามารถในการจัดการของคนคนหนึ่ง ก็เพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นเบาหวานได้ค่ะ ซึ่งทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสุขภาพของเเต่ละบุคคลด้วย เช่น คนที่มีพฤติกรรมสุขภาพดี ออกกำลังกายสม่ำเสมอ เมือทานอาหารจำพวกเเป้งๆ หวานๆ ไป ก็ย่อมมีความเสี่ยงที่จะเป็นเบาหวาน หรือมีน้ำตาลเกิน น้อยกว่า ผู้ที่มี sedentary lifestyleค่ะ (ผู้ที่ชีวิตประจำวันไม่ค่อยขยับร่างกาย นั่งๆ นอนๆ เป็นส่วนใหญ่) เเต่มีรายงานทางการเเพทย์บางรายงานพบว่า ผู้ที่ทานของหวานๆตั้งเเต่ช่วงเช้า อาจจะส่งผลกระตุ้นให้ร่างกายรู้สึกอยากอาหารกลุ่มหวานๆเเป้งๆเพิ่มระหว่างวันได้มากกว่าค่ะ

เบื้องต้นหากเราไปตรวจค่าระดับน้ำตาลในเลือด หลังอดอาหารมา 8 ชั่วโมง เเล้วได้ค่าสูงตั้งเเต่ 126 ขึ้นไป จะเข้าข่ายเป็นเบาหวานค่ะ (ค่าปกติ จะไม่เกิน 100) ส่วนอาการนั้น หากมีระดับน้ำตาลสูงไม่มากนัก มักจะไม่มีอาการเเสดงชัดเจนใดๆให้เห็นค่ะ ด้านล่างหมอของเเนบเป็นบทความเกี่ยวกับอาการของโรคเบาหวาน รวมทั้งวิธีการดูเเลสุขภาพนะคะ น่าจะเป็นพอเป็นประโยชน์ค่ะ

https://hellokhunmor.com/%e0%b9%82%e0%b8%a3%e0%b8%84%e0%b9%80%e0%b8%9a%e0%b8%b2%e0%b8%ab%e0%b8%a7%e0%b8%b2%e0%b8%99/7%e0%b8%ad%e0%b8%b2%e0%b8%81%e0%b8%b2%e0%b8%a3%e0%b9%80%e0%b8%9a%e0%b8%b2%e0%b8%ab%e0%b8%a7%e0%b8%b2%e0%b8%99-%e0%b8%81%e0%b8%b2%e0%b8%a3%e0%b8%a3%e0%b8%b1%e0%b8%81%e0%b8%a9%e0%b8%b2-%e0%b8%a7%e0%b8%b4%e0%b8%98%e0%b8%b5%e0%b8%84%e0%b8%a7%e0%b8%9a%e0%b8%84%e0%b8%b8%e0%b8%a1%e0%b8%ad%e0%b8%b2%e0%b8%81%e0%b8%b2%e0%b8%a3/

เบื้องต้นหากเป็นเบาหวาน เเต่มีระดับน้ำตาลไม่สูงมาก มักจะยังไม่มีอาการเเสดงใดๆให้เห็นค่ะ ดังนั้นคงจะต้องเป็นการตรวจระดับน้ำตาลในเลือดจึงจะบอกได้ว่า เข้าข่ายเป็นเบาหวานเเล้วหรือไม่ เเต่หากปล่อยไว้จนเริ่มมีระดับน้ำตาลในเลือดสูงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ก็อาจมีอาการ อ่อนเพลีย ไม่สดชื่น ปัสสาวะบ่อย น้ำหนักลดลงได้ค่ะ

ด้านล่างเป็นบทความที่อาจจะมีข้อมูลที่เป็นประโยชน์เพิ่มเติมนะคะ

https://hellokhunmor.com/%e0%b9%82%e0%b8%a3%e0%b8%84%e0%b9%80%e0%b8%9a%e0%b8%b2%e0%b8%ab%e0%b8%a7%e0%b8%b2%e0%b8%99/%e0%b8%ad%e0%b8%b2%e0%b8%81%e0%b8%b2%e0%b8%a3%e0%b9%80%e0%b8%9a%e0%b8%b2%e0%b8%ab%e0%b8%a7%e0%b8%b2%e0%b8%99%e0%b9%80%e0%b8%a3%e0%b8%b4%e0%b9%88%e0%b8%a1%e0%b8%95%e0%b9%89%e0%b8%99-%e0%b8%81%e0%b8%b2%e0%b8%a3%e0%b8%a3%e0%b8%b1%e0%b8%81%e0%b8%a9%e0%b8%b2/

ต้องขอโทษคุณ ชุติมา ด่านวิจิตร ด้วยนะคะ เผอิญหมอตอบคำถามไปในอีกโพสหนึ่งของคุณ ชุติมา ด่านวิจิตร เเล้ว ขออนุญาติไม่ได้ตอบซ้ำในโพสนี้นะคะ ..

ต้องขอตอบว่า น้ำตาลเเม้ว่าจะมาจากผลไม้ หากมากเกินไปก็จะเป็นผลเสียต่อร่างกายค่ะ โดยเฉพาะผู้ที่เป็นเบาหวาน อย่างไรก็ตาม หากเป็นเบาหวาน เเนะนำให้เลือกทานผลไม้ที่มีค่าดัชนีน้ำตาลต่ำ (ในปริมาณที่พอเหมาะ) จะดีกว่านะคะ

ด้านล่างเป็นบทความที่อาจจะมีประโยชน์ค่ะ

https://hellokhunmor.com/%e0%b9%82%e0%b8%a3%e0%b8%84%e0%b9%80%e0%b8%9a%e0%b8%b2%e0%b8%ab%e0%b8%a7%e0%b8%b2%e0%b8%99/%e0%b8%9c%e0%b8%a5%e0%b9%84%e0%b8%a1%e0%b9%89%e0%b8%aa%e0%b9%8d%e0%b8%b2%e0%b8%ab%e0%b8%a3%e0%b8%b1%e0%b8%9a%e0%b8%84%e0%b8%99%e0%b9%80%e0%b8%9b%e0%b9%87%e0%b8%99%e0%b9%80%e0%b8%9a%e0%b8%b2%e0%b8%ab%e0%b8%a7%e0%b8%b2%e0%b8%99/