สอบถามค่ะ
ตั้งครรภ์ได้ 10 วีค ตรวจคัดกรองเบาหวาน งดนำ้้อาหาร 8 ชั่วโมงเจาะเลือด คา่ FBS = 75,แต่ค่า นำ้ตาลสะสมในเลือดสูงถึง 7.1 อันตรายมากใช่
... ดูเพิ่ิ่มเติม🔥 หัวข้อเด่น
พึ่งเห็นวันนี้ครับ ไม่ทราบว่าเป็นอะไรครับ
วิธีการรักษาด้วยครับ พอมีวิธีแก้ไหมครับ
มีใครรูช่วยบอกผมหน่อยครับ
2 ความเห็น
ล่าสุด
คุณสามารถมีส่วนร่วมโดยการโพสต์ แสดงความเห็น และโหวตขึ้น
รับคำแนะนำจากคุณหมอ ผู้เชี่ยวชาญ และตัวแทนประจำชุมชน
แบ่งปันประสบการณ์ของคุณกับผู้อื่นที่อาจต้องการคำแนะนำจากคุณ
ร่วมกิจกรรมและร่วมเป็นตัวแทนประจำชุมชนด้วยการสะสมแต้ม
ยังมี ซิฟิลิส, โรคแผลริมอ่อน, แผลกามโรคเรื้อรังที่ขาหนีบ, ฝีมะม่วง
ทั้งนี้ต้องให้แพทย์ตรวจสอบอาการที่เกิดขึ้นโดยละเอียดpaat1908254326-bct พบคุณหมอแล้วหรือยังคะ
เกิดจากหลายสาเหตุได้ค่ะเช่น
การบาดเจ็บที่อวัยวะเพศอาจเกิดขึ้นจากสาเหตุต่าง ๆ เช่น การหกล้ม อุบัติเหตุจากการเล่นกีฬาหรือกิจกรรมผาดโผน การบาดเจ็บจากการมีเพศสัมพันธ์ อุบัติเหตุจากการทำงาน ทำให้อาจเกิดบาดแผลในบริเวณอวัยวะเพศชาย รวมถึงอาการอื่น ๆ เช่น อาการอักเสบ บวม รอยช้ำ มีเลือดออก นอกจากนี้ ยังอาจนำไปสู่การติดเชื้อได้
การรักษาอาการบาดเจ็บที่อวัยวะเพศที่ไม่รุนแรง อาจเพียงแค่ทำความสะอาดบาดแผลด้วยน้ำสะอาดหรือน้ำเกลือ แล้วปิดแผลด้วยผ้าก็อซหรือผ้าพันแผลเพื่อป้องกันไม่ให้เชื้อโรคเข้าทางบาดแผล แต่หากเป็นบาดแผลที่รุนแรง ควรเข้ารับการรักษาจากคุณหมออย่างเร่งด่วน
เริม เกิดจากการติดเชื้อไวรัสเฮอร์พีส์ ซิมเพล็กซ์ (Herpes Simplex Virus) ที่อาจแพร่กระจายสู่ผู้อื่นผ่านทางการมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกัน อาการทั่วไปของเริมที่อวัยวะเพศคือ ตุ่มเล็ก ๆ สีขาวหรือสีแดง แผลเปิด มีหนองหรือเลือดไหล อาการปวดหรือคันในบริเวณที่มีอาการ ผิวหนังตกสะเก็ด
เริมไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่คุณหมออาจให้รับประทานยาต้านไวรัส เช่น อะไซโคลเวียร์ (Acyclovir) วาลาไซโคลเวียร์ (Valacyclovir) เพื่อช่วยลดความรุนแรงของอาการ ช่วยให้แผลหายไวขึ้น และอาจช่วยลดโอกาสการกลับมาเป็นซ้ำ
หูดหงอนไก่เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสฮิวแมนแพพพิลโลมา หรือไวรัสเอชพีวี (Human Papilloma Virus หรือ HPV) ทำให้มีติ่งเนื้องอกเกิดขึ้นในบริเวณที่ติดเชื้อ ผิวย่นคล้ายหงอนไก่ นอกจากนี้ บางรายก็อาจมีแผล อาการปวด อาการคัน หรือมีเลือดออกร่วมด้วย
โรคหูดหงอนไก่ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ โดยปกติคุณหมออาจทำการรักษาโดยการใช้ยาทาเฉพาะที่ เช่น ยาอิมิควิโมด (Imiquimod) เพื่อช่วยเสริมการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันในการต่อสู้กับเชื้อไวรัส ยาโพโดฟิลลิน (Podophyllin) เพื่อทำลายเนื้อเยื่อของหูด หรืออาจทำการผ่าตัดเอาติ่งเนื้อหูดออก ใช้เลเซอร์หรือไฟฟ้าความแรงสูงจี้กำจัดติ่งเนื้อ หรือแช่แข็งติ่งเนื้อด้วยไนโตรเจนเหลว