สำหรับคุณแม่ที่เพิ่งผ่านการผ่าคลอด อาจต้องเผชิญกับปัญหา แผลผ่าคลอดอักเสบข้างใน ซึ่งอาจเกิดจากการติดเชื้อ แผลได้รับการกระทบกระเทือน พฤติกรรมเสี่ยงและปัญหาสุขภาพที่อาจก่อให้เกิดการอักเสบของแผลบริเวณด้านในมดลูก ซึ่งอาจส่งผลทำให้มีอาการปวดท้อง มีเลือดออกจากช่องคลอด มีไข้ ความดันโลหิตต่ำและวิงเวียนศีรษะ หากคุณแม่มีอาการผิดปกติ และคาดว่าแผลผ่าคลอดอักเสบ ควรรีบดูแลตนเองเบื้องต้นและเข้าพบคุณหมอเพื่อทำการรักษาทันที
สาเหตุของแผลผ่าคลอดอักเสบข้างใน
แผลผ่าคลอดอักเสบข้างใน อาจเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุและอาจคล้ายกับการเกิดแผลอักเสบภายนอก ดังนี้
อาจเกิดการติดเชื้อที่แผลจากภายใน
การติดเชื้อแบคทีเรียบริเวณบาดแผลผ่าคลอดอาจทำให้เกิดการอักเสบภายในได้ โดยแบคทีเรียที่อาจพบได้บ่อย คือ สแตฟิโลคอกคัส ออเรียส (Staphylococcus Aureus) เชื้อเอนเทอโรคอคคัส (Enterococcus) เชื้ออีโคไล (Escherichia Coli หรือ E. Coli) โดยแผลผ่าคลอดภายในสามารถติดเชื้อได้จากการสัมผัสกับเชื้อโดยตรง เช่น การติดเชื้อที่เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ การติดเชื้อจากกระเพาะปัสสาวะและทางเดินปัสสาวะ นอกจากนี้ ยังอาจมีปัจจัยอื่น ๆ ที่อาจเพิ่มความเสี่ยงในการติดเชื้อภายในได้ ดังนี้
- น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น หรือโรคอ้วน
- โรคเบาหวาน
- โรคความดันโลหิตสูง
- โรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง
- ภาวะถุงน้ำคร่ำอักเสบ (Chorioamnionitis) เนื่องจากการติดเชื้อของน้ำคร่ำและรกในระหว่างรอคลอด
- การใช้สเตียรอยด์เป็นเวลานาน
- เคยผ่านการผ่าตัดคลอดมาก่อน
- การสูญเสียเลือดมากเกินไประหว่างคลอดหรือการผ่าตัด
แผลอาจได้รับการกระทบกระเทือน
แผลผ่าคลอดอาจได้รับการกระทบกระเทือนจากการกดทับและเกิดแรงดันในมดลูก นอกจากนี้ ยังอาจเกิดจากการใส่เสื้อผ้าคับแน่น การยกของหนัก การออกกำลังกายอย่างหนัก ซึ่งอาจส่งผลทำให้แผลผ่าคลอดอักเสบข้างใน และเกิดการฉีกขาดได้
อาจเกิดจากพฤติกรรมและภาวะสุขภาพที่ทำให้รักษาแผลได้ไม่ดี
บางคนอาจมีปัญหาสุขภาพบางประการ เช่น โรคเบาหวาน โรคอ้วน การติดเชื้อเอชไอวี การสูบบุหรี่ ซึ่งอาจส่งผลต่อเนื้อเยื่อและเซลล์ผิวหนังบริเวณแผล ทำให้แผลสมานตัวช้าและแผลหายได้ช้า
อาการเมื่อแผลผ่าคลอดอักเสบข้างใน
การอักเสบของแผลผ่าคลอดที่เกิดขึ้นภายในไม่สามารถมองเห็นได้จึงอาจสังเกตจากอาการต่าง ๆ เหล่านี้
- มีไข้ ความดันโลหิตต่ำ อาการวิงเวียนศีรษะ
- ปวดท้องรุนแรง
- น้ำคาวปลาผิดปกติ มีกลิ่นเหม็นและมีเลือดออกทางช่องคลอด
- เจ็บปวดเมื่อปัสสาวะหรืออุจจาระ
- อาการท้องผูกรุนแรง
- แผลนูนออกหรือเป็นก้อนที่ท้องส่วนล่าง
การดูแลแผลผ่าคลอด
เพื่อป้องกันแผลผ่าคลอดอักเสบข้างใน อาจทำได้ดังนี้
- หลังการผ่าตัดคลอดควรรักษาแผลให้สะอาดอยู่เสมอ
- หลังการผ่าตัดคลอดควรงดการยกของหนัก การออกกำลังกาย การมีเพศสัมพันธ์หรือการทำกิจกรรมที่อาจทำให้เกิดแรงกดและแรงดันในมดลูก ซึ่งอาจทำให้แผลภายในมดลูกอักเสบได้ นอกจากนี้ ควรพักฟื้นเป็นเวลาอย่างน้อย 6 สัปดาห์หรือนานกว่านั้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายและการดูแลแผลของแต่ละคน เพื่อให้แผลสมานตัวดีและสามารถกลับมาทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้ตามปกติ
- ควบคุมน้ำหนักเพื่อป้องกันโรคอ้วนที่อาจเป็นสาเหตุของแผลผ่าคลอดอักเสบข้างใน
- รักษาระดับน้ำตาลในเลือดให้สมดุล เพื่อป้องกันความเสี่ยงโรคเบาหวานที่อาจทำให้แผลหายช้า
- หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ เนื่องจากสารเคมีในบุหรี่อาจส่งผลต่อการสมานตัวของเนื้อเยื่อบริเวณบาดแผล
- หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารบางชนิด เช่น อาหารหมักดอง อาหารสุก ๆ ดิบ ๆ เครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เนื่องจากอาจทำให้เกิดการอักเสบและการติดเชื้อหลังผ่าคลอดได้
[embed-health-tool-ovulation]