คำจำกัดความ
ภาวะเลือดออกผิดปกติ คืออะไร
ภาวะเลือดออกผิดปกติ (Bleeding Disorders) คือ อาการที่มีผลกระทบต่อวิธีที่เลือดแข็งตัวตามปกติ ขั้นตอนของการแข็งตัวเป็นที่รู้จักเรียกว่า “การแข็งตัว” เป็นการเปลี่ยนเลือดจากของเหลวไปเป็นของแข็ง เมื่อคุณได้รับบาดเจ็บ โดยปกติเลือดจะเริ่มแข็งตัวเพื่อป้องกันการเสียเลือดมาก บางครั้งการป้องกันเลือดแข็งตัวอย่างไม่เหมาะสม อาจมีผลให้เลือดออกมาก หรือนาน
บางครั้งอาจทำให้เลือดออกผิดปกติทั้งภายนอก และภายในร่างกาย บางอาการผิดปกติอาจค่อย ๆ เพิ่มจำนวนของเลือดที่ออกจากร่างกาย อาจทำให้เกิดเลือดออกใต้ผิวหนัง หรือในอวัยวะที่สำคัญ เช่น สมอง
ภาวะเลือดออกผิดปกติมีความแตกต่างมากมาย แต่ส่วนมากโดยทั่วไปมีดังต่อไปนี้
- ฮีโมฟีเลีย ประเภท A และ B เป็นอาการที่เกิดเมื่อมีปัจจัยเลือดแข็งตัวในระดับต่ำ ทำให้ เกิดเลือดออกผิดปกติ ในข้อต่อ แม้ว่าฮีโมฟีเลียจะพบได้ยาก แต่หากมีภาวะแทรกซ้อนก็สามารถคุกคามชีวิตได้
- ปัจจัยที่เป็นข้อบกพร่องที่ 2 5 7 10 หรือ 12 เป็น ภาวะเลือดออกผิดปกติ ที่เกี่ยวข้องกับปัญหาการแข็งตัวของเลือด หรือปัญหาเลือดออกผิดปกติ
- โรควอนวิลลิแบรนด์ (Von Willebrand’s Disease) เป็นภาวะเลือดออกผิดปกติทางพันธุกรรมที่พบมากที่สุด มันพัฒนาเมื่อเลือดขาดปัจจัย วอนวิลลิแบรนด์ ที่ช่วยให้เลือดแข็งตัว
หากมีอาการเลือดออกผิดปกติกรุณาปรึกษาแพทย์สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม
อาการ
อาการภาวะเลือดออกผิดปกติ
อาการอาจมีความหลากหลาย ขึ้นอยู่กับประเภทของภาวะเลือดออกผิดปกติ อย่างไรก็ตามสัญญาณหลัก เช่น
- ผิวช้ำง่าย
- ประจำเดือนมามาก
- เลือดกำเดาออกบ่อย
- เลือดออกมากเกินไป จากแผลมีดบาดเล็ก ๆ หรือการบาดเจ็บ
- เลือดออกในข้อต่อ
อาจมีบางอาการไม่อยู่ในรายการข้างต้น ถ้าหากมีความกังวลเกี่ยวกับอาการของภาวะเลือดออกผิดปกติ โปรดปรึกษาแพทย์
สาเหตุ
สาเหตุภาวะเลือดออกผิดปกติ
หากมีสัญญาณ หรืออาการข้างต้น หรือมีคำถามใดๆ กรุณาปรึกษาแพทย์ผู้ทำการรักษา ร่างกายแต่ละคนอาจมีอาการที่แตกต่างกันออกไป ปรึกษาแพทย์ผู้ทำการรักษาดีที่สุดว่าอะไรเหมาะที่สุดกับอาการของคุณ
ปัจจัยเสี่ยง
ปัจจัยเสี่ยงภาวะเลือดออกผิดปกติ
ตั้งแต่เลือดออกถึงเลือดหยุด ร่างกายต้องการเซลล์ที่เรียกว่าเกล็ดเลือดและโปรตีน ที่เป็นที่รู้จักว่าเป็นปัจจัยในการห้ามเลือด คุณจะพบภาวะเลือดออกผิดปกติ หากร่างกายไม่มีเกล็ดเลือด มีปัจจัยหยุดเลือดเพียงพอ หรือใช้งานไม่ได้ตามวิธีที่ควรเป็น
โดยมากของภาวะเลือดออกผิดปกติเป็นโรคทางกรรมพันธุ์ สามารถส่งผ่านจากพ่อแม่สู่ลูก อย่างไรก็ตาม บางอาการผิดปกติอาจพัฒนามาจากผลของโรคอื่น เช่น โรคตับ
มีปัจจัยเสี่ยงภาวะเลือดออกปกติ เช่น
- เม็ดเลือดแดงต่ำ
- ขาดวิตามินเค
- ผลข้างเคียงจากยาบางชนิด
- ยาที่อาจเกี่ยวกับการแข็งตัวของเลือด ถูกเรียกว่า “สารกันเลือดแข็งตัว (Anticoagulants)”
การวินิจฉัยและการรักษา
ข้อมูลที่นำเสนอในที่นี้ ไม่สามารถใช้แทนข้อแนะนำทางการแพทย์ ให้ปรึกษาแพทย์สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม
การวินิจฉัยภาวะเลือดออกผิดปกติ
การวินิจฉัยภาวะเลือดออกผิดปกติแพทย์จะถามเกี่ยวกับอาการและประวัติทางการแพทย์ ตรวจสุขภาพ ระหว่างการนัดหมายควรแน่ใจข้อมูลดังต่อไปนี้
- สภาพทางการแพทย์ในปัจจุบัน
- กำลังรับประทานยา หรืออาหารเสริมใด
- การหกล้ม หรือบาดเจ็บใด เมื่อเร็วๆ นี้
- เลือดออกบ่อยแค่ไหน
- ครั้งล่าสุดเลือดออกนานเท่าไร
- อะไรที่คุณกำลังทำก่อนเลือดออก
หลังจากได้รับข้อมูลนี้ แพทย์จะทดสอบการไหลของเลือดเพื่อวินิจฉัยที่เหมาะสม การทดสอบเหล่านี้ เช่น
- การตรวจความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด (CBC) ที่วัดจำนวนของเซลล์เม็ดเลือดแดง และขาวในร่างกาย
- ทดสอบผลรวมเกล็ดเม็ดเลือด ที่ตรวจเช็คว่าเกล็ดเม็ดเลือดรวมตัวกันดีเพียงใด
- ระยะเวลาเลือดออก ที่คำนวณความไวของเลือดแข็งตัวเพื่อป้องกันเลือดออก
ภาวะเลือดออกผิดปกติ ได้รับการรักษาอย่างไร
ภาวะเลือดออกผิดปกติมีทางเลือกของการรักษาที่หลากหลาย ขึ้นอยู่กับประเภทของภาวะเลือดออกผิดปกติ และความรุนแรงของมัน แม้ว่าการรักษาไม่สามารถรักษาภาวะเลือดออกผิดปกติได้ แต่อาจช่วยบรรเทาอาการที่เกี่ยวข้องกับความผิดปกติบางอย่าง
- อาหารเสริมที่มีธาตุเหล็ก
แพทย์อาจสั่งอาหารเสริมที่มีธาตุเหล็กเพื่อเติมจำนวนธาตุเหล็กในร่างกาย หากมีการสูญเสียเลือดที่สำคัญ เพราะหากระดับธาตุเหล็กต่ำอาจมีผลต่อโรคโลหิตจาง อาการนี้อาจทำให้รู้สึกอ่อนเพลีย เหนื่อย และวิงเวียน คุณอาจต้องการการถ่ายเลือดหากอาการไม่ดีขึ้นด้วยอาหารเสริมที่มีธาตุเหล็ก
- การถ่ายเลือด
การถ่ายเลือด เป็นการให้เลือดจากอีกคนไปสู่อีกคน ทดแทนเลือดที่สูญเสียไป โดยเลือดต้องเข้ากันได้กับประเภทเลือดของคุณเพื่อป้องกันโรคแทรกซ้อน ซึ่งขั้นตอนนี้เป็นขั้นตอนที่ต้องทำในโรงพยาบาลเท่านั้น
- การรักษาอื่น
ภาวะเลือดออกผิดปกติบางอย่างอาจถูกรักษาด้วยผลิตภัณฑ์เฉพาะ หรือยาพ่นจมูก ความผิดปกติอื่น เช่น ฮีโมฟีเลีย (Hemophilia) อาจถูกรักษาด้วยสารบำบัดทดแทน เกี่ยวข้องกับการฉีดสารที่ทำให้แข็งตัวเข้าในกระแสเลือด การฉีดเหล่านี้อาจป้องกัน หรือควบคุมเลือดที่ออกมากเกินไป
คุณอาจได้รับการเปลี่ยนถ่ายพลาสม่าสดแช่แข็ง หากขาดปัจจัยการแข็งตัวบางอย่าง พลาสม่าสดแช่แข็งประกอบด้วยปัจจัยที่ 5 และ 8 ซึ่งเป็นสองโปรตีนที่สำคัญที่ช่วยการแข็งตัวของเลือด การเปลี่ยนถ่ายเหล่านี้ต้องทำในโรงพยาบาล
การเปลี่ยนไลฟ์สไตล์และการปฏิบัติตนขั้นพื้นฐาน
การเปลี่ยนไลฟ์สไตล์และการเยียวยาตนเองที่ช่วยจัดการภาวะเลือดออกผิดปกติ
การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม การใช้ชีวิตและการรักษาตัวที่บ้านต่อไปนี้ อาจช่วยรับมือกับภาวะเลือดออกผิดปกติได้หากมีข้อสงสัย โปรดปรึกษาแพทย์ผู้ทำการรักษาเพื่อทำความเข้าใจและหาทางออกที่ดีที่สุด
Hello Health Group ไม่ได้ให้คำปรึกษาด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด