น้ำมันหอมระเหย เป็นสารสกัดที่ได้จากพืช ซึ่งอาจมีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย เช่น ช่วยทำให้นอนหลับได้ง่าย ลดความวิตกกังวล ผ่อนคลายความเครียด โดยน้ำมันหอมระเหยที่ปลอดภัยสำหรับเด็กที่มีอายุ 3 เดือนขึ้นไป อาจมีทั้งน้ำมันลาเวนเดอร์ น้ำมันคาโมมายล์ น้ำมันดอกทานตะวัน และน้ำมันอื่น ๆ อย่างไรก็ตาม ควรระมัดระวังการใช้น้ำมันหอมระเหย เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการระคายเคืองผิวที่บอบบางของทารก
น้ำมันหอมระเหยที่ปลอดภัยสำหรับเด็ก มีอะไรบ้าง
น้ำมันหอมระเหย เป็นสารสกัดจากพืชหอม มีประโยชน์หลายอย่างตั้งแต่รักษาแผลไฟไหม้ ผ่อนคลายผิว บรรเทาความเครียด และผ่อนคลายจิตใจ ด้วยสรรพคุณเหล่านี้จึงเป็นอีกเหตุผลที่ทำให้น้ำมันหอมระเหยมีวางจำหน่ายอย่างแพร่หลาย เพราะนอกจากการจะใช้ประโยชน์ทั่วไป ยังมีการใช้กันอย่างแพร่หลายในวงการแพทย์อีกด้วย
สำหรับทารกที่มีอายุมากกว่า 3 เดือน น้ำมันหอมระเหยบางชนิดสามารถนำมาใช้เพื่อช่วยกระตุ้นการนอนหลับ ความวิตกกังวล หรือแม้กระทั่งบรรเทาอาการจุกเสียด แต่ก่อนที่จะใช้น้ำมันหอมระเหยกับทารก จำเป็นจะต้องเข้าใจอัตราส่วนของการเจือจางและวิธีใช้ที่เหมาะสมเสียก่อย เพราะน้ำมันหอมระเหยที่มีแอลกอฮอล์ผสมอยู่นั้น สามารถทำให้เกิดอาการระคายเคืองได้ สำหรับ น้ำมันหอมระเหยที่เหมาะสมสำหรับเด็ก มีดังนี้
ลาเวนเดอร์
จากการศึกษาในปี 2016 พบหลักฐานว่า น้ำมันลาเวนเดอร์สามารถช่วยรักษาอาการปวดในทารกได้ นอกจากนั้นจากการศึกษาอีกหนึ่งชิ้นพบว่า ทารกแรกแรกเกิดที่ได้กลิ่นลาเวนเดอร์ขณะที่มีการทดสอบการทิ่มที่ส้นเท้า มีความเจ็บปวดน้อยลงและอัตราการเต้นของหัวใจต่ำลงด้วย อีกหนึ่งการศึกษาสรุปว่า การนวดน้ำมันหอมระเหยจากน้ำมันลาเวนเดอร์ สามารถลดอาการจุกเสียดได้
คาโมมายล์
ดอกคาโมมายล์เป็นยาสามัญประจำบ้าน ช่วยเกี่ยวกับอาการนอนไม่หลับในผู้ใหญ่ และอาจช่วยทารกได้ด้วย แต่ในขณะนี้ยังมีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์เพียงเล็กน้อยที่จะพิสูจน์ว่า ดอกคาโมมายล์นั้นช่วยให้นอนหลับได้ บางคนพบว่าการเติมน้ำมันดอกคาโมมายล์ในน้ำอ่างอาบน้ำอุ่นอาจทำให้เกิดความรู้สึกสงบ
ดอกทานตะวัน
น้ำมันดอกทานตะวันมีกรดไลโนเลอิก (Linoleic Acid) สูง จึงทำให้เป็นตัวเลือกที่ยอดนิยมสำหรับทารกที่ผิวบอบบาง เนื่องด้วยเด็กทารกหลายคนมีผิวแพ้ง่าย อาจทำให้เกิดโรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง (Eczema) มีงานวิจัยชิ้นนึงพบว่า ในขณะที่น้ำมันดอกทานตะวันช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว น้ำมันมะกอกอาจจะทำลายปราการผิว และทำให้ปัญหาผิวแย่ลงกว่าเดิม
ดิลล์ หรือ ผักชีฝรั่ง
ดิลล์เป็นน้ำมันที่มีสรรพคุณช่วยคลายการหดตัวของกล้ามเนื้อเรียบ (Antispasmodic) ทั้งยังช่วยบรรเทาอาการอาหารไม่ย่อยได้ด้วย การใช้งานก็เพียงแค่เจือจางน้ำมันดิลล์ในอัตราส่วน 1 หยดต่อน้ำมัน 1 ช้อนชา ผสมให้เข้ากันแล้วน้ำมานวดลงบนผิวของทารก
ยูคาลิปตัส
ยูคาลิปตัสสามารถแก้ปัญหาการหายใจติดขัด จึงมักนิยมใช้กันในช่วงฤดูหนาว แม้ว่ายูคาลิปตัสจะปลอดภัยสำหรับผู้ใหญ่ แต่ก็ไม่ควรใช้กับเด็กที่อายุต่ำกว่า 2 ปี ดังนั้น ก่อนที่จะใช้ยูคาลิปตัสในการบรรเทาอาการระบบทางเดินหายใจ ควรปรึกษากุมารแพทย์เสียก่อน
ส้มแมนดาริน
ส้มแมนดารินมีคุณสมบัติคล้ายกับลาเวนเดอร์ จึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับเด็กทารกที่ไม่ชอบกลิ่นของลาเวนเดอร์ แต่แม้จะนำส้มแมนดารินมาเจือจางแล้ว ก็ไม่ควรน้ำมาทาลงบนผิวหนังโดยตรง เพราะอาจก่อให้เกิดการระคายเคืองผิวหนังได้
ต้นทีทรี (Tea tree)
ต้นทีทรีเป็นยาต้านจุลชีพตามธรรมชาติ สามารถต้านเชื้อราและมีคุณสมบัติเป็นยาฆ่าเชื้อ การเติมน้ำมันทีทรี 2-3 หยดลงในน้ำมันหอมระเหย สามารถช่วยลดผื่นผ้าอ้อมและการติดเชื้อราได้ แต่น้ำมันจากต้นทีทรีนั้นสามารถทำให้ผิวแข็งกระด้าง
ดังนั้น จึงควรหลีกเลี่ยงการใช้น้ำมันทีทรีในเด็กที่มีอายุน้อยกว่า 6 เดือน และควรจะต้องทดสอบอย่างระมัดระวังก่อนการใช้กับทารกที่มีอายุมาก
ข้อควรรู้ก่อนใช้น้ำมันหอมระเหยกับเด็ก
การใช้น้ำมันหอมระเหยกับเด็กนั้นมีด้วยกันหลายวิธี โดยแต่ละวิธีก็มีวิธีการใช้และข้อควรรู้ที่ต่างกัน ดังนี้
ใช้ในการนวดให้เด็ก
สำหรับการใช้น้ำมันหอมระเหยในการนวดทารกนั้น ควรทำดังนี้
- อุ่นน้ำมันเจือจางเล็กน้อยโดยถูระหว่างฝ่ามือของคุณ
- ถูน้ำมันลงบนผิวของทารกเบาๆ โดยเริ่มจากขา ใช้แรงกดเพียงเบาๆ ในการเคลื่อนผ่านผิว
- ในการนวดบริเวณหน้าอกและหน้าท้องของทารก ให้กางมือออกไปทางด้านข้าง เหมือนหนังสือที่กางออก แล้วใช้นิ้วมือวนเป็นวงกลมเล็กๆ เบา ๆ บริเวณที่นวด
ใช้ในน้ำอาบให้เด็ก
สำหรับการใช้น้ำมันหอมระเหยผสมลงไปในน้ำเพื่อจะทำการอาบน้ำให้เด็ก สามารถทำได้โดยหยดน้ำมันหอมระเหยอย่าง น้ำมันดอกคาโมมายล์ หรือน้ำมันดอกลาเวนเดอร์ ลงไปในน้ำ 2-3 หยด เพราะน้ำมันเหล่านี้มีสรพพคุณที่สามารถช่วยให้ทารกรู้สึกสงบขึ้นได้ ทั้งยังช่วยให้นอนหลับได้ดีอีกด้วย
ใช้กับเครื่องกระจายกลิ่นเพื่อเพิ่มกลิ่นภายในห้องนอน
มีเครื่องกระจายกลิ่น (Diffuser) หลายประเภทที่ช่วยปล่อยกลิ่นของน้ำมันหอมระเหยสู่อากาศได้ดี การทำเช่นนี้จะช่วยทำให้ทารกนอนหลับได้ดีขึ้น แต่สิ่งที่สำคัญคือ ควรทำตามคำแนะนำที่มากับคู่มือของเครื่องกระจายกลิ่น และควรจัดสภาพแวดล้อมของห้องให้มีการถ่ายเทอากาศที่ดี
การเจือจางน้ำมันหอมระเหยก่อนการใช้งานนั้นจำเป็นมากสำหรับการใช้น้ำมันหอมระเหยในเด็ก ทางสมาคมแห่งชาติเพื่อการบำบัดด้วยกลิ่นหอมแบบองค์รวม (The National Association for Holistic Aromatherapy หรือ NAHA) ยังแนะนำเอาไว้ด้วยว่า สัดส่วนที่ปลอดภัยสำหรับการเจือจางน้ำมันหอมระเหยเพื่อการใช้กับเด็กจะอยู่ที่ 0.5 เปอร์เซ็นต์ ถึง 1 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับเปอร์เซ็นต์ของการเจือจางน้ำมันหอมระเหยสำหรับผู้ใหญ่จะอยู่ที่ 2.5 ถึง 10 เปอร์เซ็นต์
อย่างไรก็ดี ในความเป็นจริงแล้วไม่ควรใช้น้ำมันหอมระเหยกับทารกที่คลอดก่อนกำหนด และเด็กทารกที่อายุน้อยกว่า 3 เดือน
นอกจากนี้ก่อนการใช้น้ำมันหอมระเหยใดๆ ในเด็ก คุณควรทดสอบอาการแพ้ (Patch test) เสียก่อน และหลังจากใช้งานน้ำมันหอมระเหยแล้ว การเก็บน้ำมันหอมระเหยให้ห่างจากทางเดินหายใจของทารกเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่ง และต้องมั่นใจได้ว่าเมื่อทาน้ำมันหอมระเหยลงบนเท้าของทารกแล้ว ทารกจะไม่เอาเท้าไปไว้ใกล้ๆ กับปากด้วย
[embed-health-tool-vaccination-tool]