ประจำเดือน คือเลือดที่ไหลออกมาทางช่องคลอดในทุก ๆ เดือน เมื่อเข้าสู่ช่วงวัยเจริญพันธุ์ โดยส่วนใหญ่มักมีประจำเดือนตั้งแต่อายุ 12 ปี การเป็นประจำเดือนถือเป็นก้าวสำคัญก้าวหนึ่งในการเจริญเติบโตของลูก ดังนั้น ผู้ปกครองจึงควรสอนให้ลูกเข้าใจเกี่ยวกับการเป็นประจำเดือนครั้งแรกและวิธีการใช้ผ้าอนามัยอย่างถูกต้อง เพื่อให้ลูกสามารถดูแลตนเองได้อย่างเหมาะสมเมื่อเป็นประจำเดือน
[embed-health-tool-ovulation]
ประจำเดือน คืออะไร
ประจำเดือน คือ เลือดและเยื่อบุโพรงมดลูกที่หลุดออกมาเนื่องจากจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนเอสโตรเจน (Estrogen) และโปรเจสเตอโรน (Progesterone) โดยปกติในแต่ละเดือน ร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนเอสโตรเจนและฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนออกมาเพื่อกระตุ้นให้รังไข่ปล่อยไข่ออกมา และทำให้เยื่อบุโพรงมดลูกหนาขึ้นเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับตั้งครรภ์ แต่หากไม่มีอสุจิมาผสมกับไข่ ระดับฮอร์โมนทั้ง 2 ชนิดนี้จะลดลง และทำให้เยื่อบุโพรงมดลูกหลุดลอกออกและไหลออกมาเป็นประจำเดือน โดยประจำเดือนมักจะมาทุก ๆ 21-45 วัน และอาจเป็นประจำเดือนนานประมาณ 3-8 วัน ทั้งนี้ รอบเดือนของแต่ละคนอาจแตกต่างกันออกไป
สัญญาณเตือนเมื่อลูกเป็นประจำเดือนครั้งแรก
โดยปกติลูกมักจะเป็นประจำเดือนครั้งแรกเมื่อเข้าสู่ช่วงวัยเจริญพันธุ์หรือวัยแรกรุ่น ส่วนใหญ่มักเป็นช่วงอายุ 12 ปี แต่บางคนอาจมาช้าหรือเร็วกว่านั้นตามภาวะสุขภาพของแต่ละบุคคล โดยสัญญาณเตือนการเป็นประจำเดือนครั้งแรกของลูก มีดังนี้
- ท้องเสีย ท้องอืด และอาจปวดท้องเกร็งช่วงท้องด้านล่าง
- อารมณ์แปรปรวน
- ปวดเมื่อยตามร่างกาย
- เหนื่อยล้า
- เจ็บหน้าอกและเต้านมเมื่อสัมผัส
- รู้สึกอยากอาหารเพิ่มขึ้น หิวบ่อยขึ้น
วิธีรับมือเมื่อลูกเป็นประจำเดือนครั้งแรก
วิธีรับมือเมื่อลูกเป็นประจำเดือนครั้งแรก อาจทำได้ดังนี้
- พูดคุยกับลูกเกี่ยวกับการเป็นประจำเดือน หากเป็นไปได้ควรพูดก่อนที่ประจำเดือนจะมา เพื่อให้ลูกทำความเข้าใจและรับมือได้ด้วยตัวเอง ช่วยลดอาการตื่นตกใจเมื่อประจำเดือนมา
- สอนลูกเกี่ยวกับวิธีการเลือกผ้าอนามัย วิธีการใช้ผ้าอนามัย และการเปลี่ยนผ้าอนามัยอย่างถูกต้อง รวมถึงวิธีการทิ้งผ้าอนามัยอย่างเหมาะสม โดยเฉพาะเมื่ออยู่ในที่สาธารณะ เช่น โรงเรียน ห้องน้ำสาธารณะ โดยควรใช้กระดาษชำระหรือกระดาษห่อผ้าอนามัยที่ใช้แล้วให้มิดชิดก่อนทิ้งลงในถังขยะ
- แนะนำให้ลูกเลือกกางเกงชั้นในที่ทำจากผ้าฝ้าย เพื่อระบายอากาศได้ดี เพราะระหว่างมีประจำเดือนอาจเกิดความอับชื้น และทำให้ลูกรู้สึกไม่สบายตัว
- หากลูกมีอาการปวดท้องระหว่างเป็นประจำเดือน อาจบรรเทาอาการโดยการใช้ถุงน้ำร้อนวางบนหน้าท้อง หรืออาจให้รับประทานยาแก้ปวด เช่น ไอบูโพรเฟน (Ibuprofen) นาพรอกเซน (Naproxen) อะเซตามิโนเฟน (Acetaminophen)
- สอนให้ลูกจดบันทึกและนับวันมาของประจำเดือนในแต่ละรอบเดือน เพื่อติดตามระยะรอบเดือนของตัวเอง จะได้สามารถเตรียมตัวรับมือเมื่อประจำเดือนมาได้ และสามารถสังเกตได้เมื่อประจำเดือนมาไม่ปกติ โดยให้ลูกนับวันที่ประจำเดือนมาวันแรก เป็นวันที่ 1 และจดบันทึกเอาไว้ จากนั้นนับต่อไปจนกว่าประจำเดือนรอบถัดไปจะมา และนับวันดูว่าแต่ละเดือนนั้นประจำเดือนจะมาทุก ๆ กี่วัน และมาครั้งละประมาณกี่วัน
สัญญาณเตือนของประจำเดือนผิดปกติ
ผู้ปกครองควรสังเกตหรืออาจสอบถามลูกเกี่ยวกับอาการเมื่อเป็นประจำเดือน เพื่อเช็กสัญญาณเตือนของประจำเดือนผิดปกติ ดังนี้
- ประจำเดือนไม่มาภายใน 3 ปีหลังจากร่างกายพัฒนาเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์ เช่น เต้านมขยาย มีขนขึ้นบริเวณอวัยวะเพศ
- ประจำเดือนมามาก โดยสังเกตจากการเปลี่ยนผ้าอนามัยมากกว่า 1 แผ่นภายใน 1-2 ชั่วโมง
- มีอาการปวดท้องอย่างรุนแรง แม้จะรับประทานยาแล้วก็อาการไม่ดีขึ้น
- ประจำเดือนมามากหรือน้อยเกินไปในแต่ละรอบเดือน
- เป็นประจำเดือนนานกว่า 7 วัน
- ประจำเดือนขาดนานกว่า 2 เดือน
- ประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอ เช่น อาจเป็นประจำเดือน 2 ครั้ง ในแต่ละรอบเดือน ประจำเดือนมาเดือนเว้นเดือน
- มีไข้ ไม่สบาย และมีอาการเจ็บช่องคลอด โดยเฉพาะในกรณีที่ใช้ผ้าอนามัยแบบสอด
นอกจากนี้ หากลูกยังไม่มีประจำเดือนแม้จะมีอายุ 15 ขึ้นไปแล้วก็ตาม ควรพาเข้าพบคุณหมอเพื่อตรวจหาสาเหตุ เพราะอาจมีความเกี่ยวข้องกับอาหารที่รับประทาน พฤติกรรมการออกกำลังกายมากเกินไป การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน โรคถุงน้ำรังไข่หลายใบ หรือปัญหาในระบบสืบพันธุ์