ลูกปวดหัว อาการแบบไหนที่คุณพ่อคุณแม่ควรระวัง

ลูกปวดหัว เป็นภาวะสุขภาพในเด็กที่คุณพ่อคุณแม่ไม่ควรมองข้าม แม้จะปวดหัวเพียงเล็กน้อย เพราะอาการปวดหัวบางครั้งอาจเป็นสัญญาณบ่งชี้โรคบางอย่างที่อาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพ ควรหมั่นสังเกตอาการปวดหัวของลูกน้อย และศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับอาการปวดหัวว่าแบบไหนที่ต้องระวัง และควรปรึกษาคุณหมอหากลูกปวดหัวเรื้อรัง ไม่ควรปล่อยทิ้งไว้เด็ดขาด

[embed-health-tool-vaccination-tool]

ลูกปวดหัว แบบไหนที่ควรระวัง

1. ปวดหัวบ่อย จนกระทบการใช้ชีวิตประจำวัน

ถ้าลูกมีอาการปวดหัวบ่อย ๆ มากกว่า 2 ครั้งต่อสัปดาห์ จนกระทบกับชีวิตประจำวัน เช่น ทำการบ้านไม่ได้ เล่นไม่สนุก หรือไม่อยากแม้กระทั่งดูการ์ตูนเรื่องโปรด คุณพ่อคุณแม่ควรพาไปหาคุณหมอ แม้ว่าอาการปวดหัวอาจจะไม่ได้เป็นโรคร้ายแรง แต่หากลูกปวดหัวจนไม่สามารถทำกิจกรรมบางอย่างได้ คุณพ่อคุณแม่ไม่ควรนิ่งนอนใจ นอกจากนี้ หากลูกปวดหัวนานหลายชั่วโมง ไม่ควรปล่อยทิ้งไว้หรือไม่ควรให้ยารับประทานเอง

2. ลูกปวดหัว จนรบกวนการนอนหลับ

เด็ก ๆ อาจจะตื่นนอนกลางดึกได้เป็นปกติ หากแต่ตื่นนอนเพราะปวดหัวควรพาไปพบคุณหมอเพราะวัยเด็กเป็นวัยที่ต้องนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อให้ร่างกายเจริญเติบโต แต่หากต้องตื่นกลางดึกเพราะปวดหัว อาจหมายถึงความผิดปกติหรือความกังวลใจ นอกจากจะทำให้ลูกสุขภาพแย่ลง เพราะนอนไม่เต็มอิ่มแล้ว ยังเสี่ยงที่จะเป็นโรคต่าง ๆ เช่น โรคไมเกรนในเด็ก โรคเครียด โรคเกี่ยวกับสมอง

3. ปวดหัวและวิงเวียนศีรษะ อยากอาเจียน หรือมีอาการปวดท้องร่วมด้วย

หากลูกปวดหัว คลื่นไส้ อาเจียน หรือมีอาการปวดท้องด้วย อาจเป็นอาการของโรคไมเกรนในเด็ก ซึ่งสามารถเป็นได้ตั้งแต่ทารก หากเด็ก ๆ ร้องไห้ เอามือกุมหัวด้วยความเจ็บปวด และอาเจียนด้วย ควรรีบพาไปพบคุณหมอ เพราะอาการดังกล่าวอาจหมายถึงโรคอื่น ๆ ที่ไม่ใช่ไมเกรน แต่อาจเป็นอาการของการติดเชื้อไวรัสในสมอง ควรได้รับการตรวจและวินิจฉัยอย่างเร่งด่วน

4. ปวดหัว และตาพร่า มองเห็นไม่ชัด

อาการปวดหัวเนื่องจากความเครียดนั้น จะส่งผลต่อดวงตาทำให้มองเห็นได้ไม่ชัดเจน หรือตาพร่า นอกจากนี้ ยังทำให้คอและหลังปวดเกร็งอีกด้วย อาการปวดหัวส่วนใหญ่เกิดจากการที่กล้ามเนื้อกะโหลกศรีษะหดเกร็ง มากกว่าการที่สมองมีปัญหา อาการที่บอกว่าเป็นการปวดหัวเนื่องจากสมอง ได้แก่ วิงเวียนศีรษะ มองเห็นไม่ชัด ตาพร่า หรือมีปัญหาในการเดิน หากลูกบ่นปวดหัว และมีอาการตาพร่า หรือผิดปกติเกี่ยวกับดวงตา ควรรีบพาลูกไปหาคุณหมอทันที เพราะอาจเป็นสัญญาณสะท้อนปัญหาสุขภาพสมอง

5. ปวดหัว พร้อมกับเป็นไข้ด้วย

ปวดหัวที่มาพร้อมกับไข้ อาเจียน วิงเวียน มีผื่นขึ้น หรือคอแข็งเกร็ง อาจหมายถึง ลูกกำลังติดเชื้อ หรือมีอาการป่วยที่อาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพ เช่น โรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบ ที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสหรือแบคทีเรีย ควรพาลูกไปหาคุณหมอโดยด่วน ไม่ควรปล่อยทิ้งไว้

แม้ว่าอาการปวดหัวจะดูเหมือนเป็นภาวะสุขภาพที่ไม่เป็นอันตราย แต่หากลูกมีอาการปวดหัวบ่อย รวมทั้งมีอาการอื่นร่วมด้วย คุณพ่อคุณแม่ควรสอบถามลูกน้อยถึงรายละเอียดและหมั่นสังเกตอาการอื่น ๆ หากไม่มั่นใจหรือมีข้อสงสัย ควรพาไปพบคุณหมอ อย่ามองข้ามอาการเล็ก ๆ น้อย ๆ เพราะอาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพที่รุนแรงได้