ลูกเป็นหวัด หายใจไม่สะดวก มักเกิดขึ้นในเด็กเล็ก โดยเฉพาะเมื่อมีการเปลี่ยนฤดูกาล ไข้หวัดเกิดจากการติดเชื้อไวรัสในระบบทางเดินหายใจ ซึ่งอาจเกิดจากไวรัสที่แตกต่างกันมากกว่า 200 ชนิด โดยเฉพาะไวรัสไรโน (Rhinovirus) ที่เป็นสาเหตุของไข้หวัดที่พบบ่อยที่สุด โดยเด็กมักจะเป็นหวัดบ่อยกว่าผู้ใหญ่ บางครั้งเด็กอาจเป็นหวัดด้วยตัวเองหรือได้รับเชื้อมาจากผู้อื่นก็ได้
[embed-health-tool-vaccination-tool]
โรคหวัด คืออะไร
หวัด หรือ ไข้หวัด เกิดจากการติดเชื้อไวรัสในระบบทางเดินหายใจ ซึ่งอาจเกิดจากไวรัสที่แตกต่างกันมากกว่า 200 ชนิด โดยเฉพาะไวรัสไรโน (Rhinovirus) ที่เป็นสาเหตุของไข้หวัดที่พบบ่อยที่สุด โดยเฉพาะเด็กที่มักจะเป็นหวัดบ่อยกว่าผู้ใหญ่ บางครั้งเด็กอาจเป็นหวัดด้วยตัวเองหรือได้รับเชื้อมาจากผู้อื่น
สำหรับการได้รับเชื้อหวัดในเด็ก โดยมากมักติดเชื้อหวัดมาจากเพื่อน ๆ ที่โรงเรียน การได้รับเชื้อทางอากาศ การได้รับเชื้อเข้าทางปากจากการหยิบจับสิ่งของที่มีเชื้อโรค และโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีการเปลี่ยนฤดู ด้วยสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง ร่างกายของเด็กอาจจะยังปรับตัวตามฤดูกาลที่เปลี่ยนแปลงไม่ทัน จึงทำให้เป็นหวัดได้ง่าย
อาการเมื่อ ลูกเป็นหวัด หายใจไม่สะดวก
เมื่อลูกเป็นหวัด หายใจไม่สะดวก มักมีอาการโดยทั่วไปที่มักสังเกตเห็นได้ ดังนี้
- มีอาการอ่อนเพลีย
- คัดจมูก
- เจ็บคอ
- มีน้ำมูกไหล
- มีอาการไอ
สำหรับเด็ก ๆ ที่มีอาการหนัก อาจพบอาการดังต่อไปนี้ร่วมด้วย
- มีน้ำที่ดวงตา หรือน้ำตาไหล
- จามบ่อยครั้ง หรือจามไม่หยุด
- รู้สึกเหนื่อย อ่อนเพลีย ไม่มีแรง
- มีไข้สูงในบางครั้ง
ทั้งนี้ อาจจำเป็นต้องพาไปพบแพทย์หากดูแลเบื้องต้นแล้วอาการยังไม่ดีขึ้น
วิธีป้องกันลูกเป็นหวัด หายใจไม่สะดวก
โรคหวัดยังไม่มียารักษา แต่สามารถป้องกันได้ เพียงแต่ต้องดูแลร่างกายและปฏิบัติตนอย่างเคร่งครัดเพื่อลดโอกาสเสี่ยงในการเป็นหวัด
- รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ วิธีง่าย ๆ ในการป้องกันลูกเป็นหวัด คือการให้เด็กรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ เพื่อให้ร่างกายได้สารอาหารที่ครบถ้วน เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันตามธรรมชาติให้สามารถต่อสู้กับเชื้อโรคได้
- ล้างมือให้สะอาด สอนให้เด็กหมั่นล้างมือให้สะอาดอยู่เสมอ ทั้งก่อนหยิบจับสิ่งของ ก่อนหรือในระหว่างที่เป็นหวัด เพื่อป้องกันเชื้อโรคเข้าสู่ร่างกาย
- รักษาสุขอนามัย แนะนำให้สมาชิกในครอบครัวคนให้หมั่นล้างมือให้สะอาดอยู่เสมอ เก็บบ้านให้สะอาดเรียบร้อย อยู่ที่ในที่ที่มีอากาศถ่ายเท เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรค
- ไม่ใช้สิ่งของร่วมกับผู้อื่น พ่อแม่ผู้ปกครองควรแนะนำลูกหลานให้รู้จักรักษาความสะอาดของของใช้ส่วนตัว ที่สำคัญไม่ควรใช้ของส่วนตัวร่วมกับผู้อื่น เช่น ช้อน แก้วน้ำ ผ้าเช็ดตัว เพื่อสุขอนามัยที่ดี
- หมั่นตรวจสอบสุขภาพเป็นประจำ พ่อแม่ควรหมั่นสังเกตสุขภาพของบุตรหลานอยู่เสมอ หากเกิดความผิดปกติ จะได้ดูแลในเบื้องต้น หรือหากมีอาการรุนแรงจะได้นำส่งแพทย์เพื่อรับการรักษาได้ทันท่วงที
วิธีดูแลสุขภาพเมื่อลูกเป็นหวัด หายใจไม่สะดวก
เมื่อลูกเป็นหวัด หายใจไม่สะดวก จำเป็นอย่างยิ่งที่คุณพ่อคุณแม่จะต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด โดยปกติอาการหวัดมักหายไปในระยะเวลาหนึ่งสัปดาห์ ในเบื้องต้นอาจดูแลอาการของเด็ก ๆ โดยปฏิบัติ ดังนี้
- ดูแลให้เด็กมีการพักผ่อนอย่างเพียงพอ นอนหลับให้ครบตามจำนวนชั่วโมงเพื่อร่างกายไม่อ่อนเพลีย
- เมื่อลูกเป็นหวัด หายใจไม่สะดวก ควรหยุดเรียนและรอให้อาการดีขึ้นก่อน แล้วค่อยกลับไปเรียนหรือทำกิจกรรมต่าง ๆ
- นอกจากจะคอยดูแลให้เด็กได้พักผ่อนอยู่ที่บ้านแล้ว ควรดูแลไม่ให้ออกไปคลุกคลีนอกบ้าน หรือไม่ให้ผู้อื่นเข้าเยี่ยม เพื่อป้องกันการแพร่กระจายเชื้อ หรือการได้รับเชื้อเพิ่ม
- หากมีไข้ขึ้นสูง ควรรีบพาลูกไปพบคุณหมอเพื่อรับการรักษาอย่างเหมาะสมต่อไป
ลูกเป็นหวัด หายใจไม่สะดวก เป็นอาการที่เกิดได้ง่าย โดยเฉพาะเมื่อมีการเปลี่ยนฤดูกาล อย่างฤดูฝน หรือฤดูหนาว พ่อแม่ควรหมั่นดูแลสุขภาพของลูก หมั่นสังเกตความเป็นไปของลูกอยู่เสมอ รับฟังเมื่อลูกแจ้งอาการหรืออธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นกับร่างกาย เพื่อที่จะสามารถรับมือได้ทันเวลา รววมทั้งการดูแลอย่างใกล้ชิดไม่ว่าอาการหวัดนั้นหนักหรือเบาเพียงใดก็ตาม