หัวทุย ลักษณะศีรษะของทารก ที่คุณแม่บางท่านต้องการอยากให้ลูกมีหัวทุยสวย ไม่แบน จึงมีการศึกษาเรื่องท่านอนลูกตั้งแต่แรกเกิด เพื่อให้ลูกมีศีรษะทุยสวย แต่การจัดท่านอนทารกที่ไม่เหมาะสม เพื่อหวังให้ลูกหัวทุยก็อาจเป็นอันตรายต่อทารกได้
[embed-health-tool-vaccination-tool]
หัวทุย คืออะไร
ลักษณะศีรษะของเด็กหัวทุย ทารกจะมีความโค้งมนที่กะโหลกศีรษะบริเวณท้ายทอย แตกต่างจากเด็กหัวแบน ที่จะมีลักษณะรูปกะโหลกศีรษะแบนทั้ง 2 ด้าน แต่หากกะโหลกศีรษะบริเวณท้ายทอยแบนราบแค่ด้านใดด้านหนึ่ง อาจเรียกได้ว่า ทารกหัวเบี้ยว การจัดท่านอนลูกให้เหมาะสมแต่ละช่วงวัย จึงเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้ทารกนอนหลับได้สบาย ป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้นได้
การจัดท่านอนทารกที่เหมาะสม
ท่านอนทารกแรกเกิดถึง 3 เดือน
เมื่อทารกคลอดออกมา ร่างกายจะยังไม่แข็งแรง จึงจำเป็นต้องได้รับโภชนาการที่ดี การดูแลอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะการนอนหลับ ที่เป็นปัจจัยสำคัญต่อการเจริญเติบโต สำหรับทารกแรกเกิดที่กระดูกคอและกระดูกสันหลังยังไม่แข็งแรง คุณพ่อคุณแม่ควรจัดท่านอนที่เหมาะสมให้กับทารกด้วยการให้นอนหงายและนอนตะแคง
โดยจัดศีรษะให้ลูกนอนสลับด้านบ่อย ๆ ระหว่างหลับ เพราะกระหม่อมหลังของทารกจะปิดก่อนกระหม่อมหน้า โดยค่อย ๆ ปิดตั้งแต่เดือนแรก และจะเริ่มปิดสนิทเมื่ออายุประมาณ 6-8 เดือน ส่วนกระหม่อมหน้าจะค่อย ๆ ปิด จนช่วงอายุ 9-18 เดือน โดยเฉลี่ยอยู่ที่ 1 ปีครึ่ง จึงควรจัดท่านอนในเดือนแรกลักษณะนี้ เพื่อให้ทารกหลับสบาย หัวทุยสวย อาจช่วยป้องกันหัวแบนหรือหัวเบี้ยวได้
ท่านอนทารก 4 – 6 เดือน
ช่วงวัยนี้ พัฒนาการด้านร่างกายของทารกเริ่มดีขึ้น กระดูกแข็งแรงขึ้น จึงสามารถนอนคว่ำได้ โดยท่านอนคว่ำจะช่วยลดการนอนสะดุ้งหรือผวาตื่น
ท่านอนทารก 7 – 12 เดือน
ทารกเกิน 6 เดือนขึ้นไป ร่างกายจะเจริญเติบโต แข็งแรง มีพัฒนาการที่ดี เริ่มมีแรงมากพอจะพลิกตัวเองได้ จึงสามารถให้นอนท่าไหนก็ได้ เช่น นอนคว่ำ นอนหงาย หรือนอนตะแคง
ข้อควรระวังในการจัดท่านอนทารก
ทารกในวัยแรกเกิดจน 4 เดือน เป็นวัยบอบบาง ต้องดูแลอย่างใกล้ชิด เพื่อป้องกันอันตรายโดยเฉพาะโรคการตายฉับพลันของเด็กทารกโดยไม่ทราบสาเหตุ หรือ SIDS (Sudden Infant Death Syndrome) ซึ่งมีคำแนะนำดังนี้
- พ่อแม่ควรจัดท่านอนที่เหมาะสมให้ทารก ด้วยท่านอนหงาย ไม่ใช่นอนคว่ำ เพราะอาจอุดกั้นทางเดินหายใจ
- หากต้องการให้เด็กหัวทุย ก็จัดท่านอนตะแคงซ้ายและขวาสลับกันกันไป ในวัยไม่เกิน 4 เดือน ท่านอนตะแคงหรือนอนหงาย จะเป็นท่าที่เหมาะกับพัฒนาการของกล้ามเนื้อคอที่ยังไม่ค่อยแข็งแรง ทำได้เพียงหันซ้ายและขวา สามารถมองเห็นสิ่งแวดล้อมรอบตัวและฝึกการมองได้
- ไม่ควรมีผ้าห่ม หรือหมอน ที่อาจไปทับหรือปิดจมูกและปาก ทำให้เด็กหายใจได้ไม่สะดวก
- เลือกที่นอนที่ปลอดภัย ที่นอนเด็กควรสูงประมาณ 2 ฟุต
- แยกที่นอนมาอยู่ด้านข้างผู้ใหญ่ด้วยระยะห่างประมาณเอื้อมมือถึง
- ไม่ควรนอนระหว่างผู้ใหญ่หรือติดชิดกับผู้ใหญ่ เพราะอาจเผลอนอนเบียดหรือทับเด็กจนหายใจไม่ออก
นอกจากนี้ ควรสังเกตสภาพสิ่งแวดล้อมรอบตัวลูกอยู่เสมอ บนที่นอนของเด็กไม่ควรมีตุ๊กตา หมอน ผ้าห่ม หรือของเล่น ที่อาจจะมาปิดหน้าได้ระหว่างที่นอนหลับอยู่ โดยเฉพาะเด็กที่มีนิสัยชอบคว้าสิ่งของรอบตัว