backup og meta

พัฒนาการเด็ก สัปดาห์ที่ 5 ของลูกน้อย

พัฒนาการเด็ก สัปดาห์ที่ 5 ของลูกน้อย

พัฒนาการเด็ก สัปดาห์ที่ 5 หรือทารก 2 เดือน ในช่วงนี้ทารกอาจจะยังคงบอบบางและต้องการการดูแลเอาใจใส่อย่างใกล้ชิด ดังนั้น คุณพ่อคุณแม่จึงควรศึกษาวิธีการดูแลทารก 5 สัปดาห์อย่างเหมาะสม เพื่อให้ลูกน้อยมีพัฒนาการและการเจริญเติบโตที่สมบูรณ์

[embed-health-tool-vaccination-tool]

การเจริญเติบโต พฤติกรรมและ พัฒนาการเด็ก สัปดาห์ที่ 5

ลูกน้อยจะเติบโตอย่างไร

ภายในสัปดาห์แรกของเดือนแรกนี้ ลูกของคุณอาจยกหัวได้เล็กน้อยในขณะที่กำลังนอนคว่ำ นอกจากนี้ยังสามารถเพ่งมองใบหน้าของผู้อื่นได้อีกด้วย โดยเฉพาะใบหน้าคุณ ผู้ที่คอยดูแลเขามาเสมอ ในช่วงนี้ลูกของคุณอาจพูดอะไรที่มีเสียงอ้อแอ้ๆ เพื่อแสดงความรู้สึกออกมา เด็กบางคนอาจหวีดร้องหรือหัวเราะได้แล้ว

ควรดูแลลูกน้อยอย่างไร

ทำเสียงอ้อแอ้หรือพูดคุยโต้ตอบลูกน้อยเป็นประจำ จะทำให้เขาพออกพอใจกับความสนใจของคุณในระยะนี้ คุณควรพูดคุยกับเขาโดยตรง นอกจากนี้ก็ควรใช้ภาษาของเด็กในการพูดคุยหรือสอนการใช้ภาษาให้เขา การสื่อสารกับลูกน้อยแบบนี้จะช่วยเพิ่มความใกล้ชิด และความผูกพันระหว่างแม่กับลูกได้

สุขภาพและความปลอดภัย

ควรปรึกษาแพทย์อย่างไร

คุณหมออาจอาจทำการตรวจสอบต่างๆ ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับสุขภาพของลูกคุณว่าตอนนั้นเป็นยังไง ถ้าคุณมีนัดไปพบคุณหมอในช่วงสัปดาห์นี้ ก็ควรปรึกษากับคุณหมอในเรื่องต่อไปนี้

  • สอบถามเกี่ยวกับสิ่งที่คุณและคนในครอบครัวควรทำเมื่ออยู่ที่บ้าน และการรับประทานอาหาร การนอน และพัฒนาการโดยทั่วไปของลูกน้อย
  • ชั่งน้ำหนัก วัดส่วนสูง และเส้นรอบวงศีรษะ และพัฒนาการที่เกิดขึ้นตั้งแต่คลอด
  • ทดสอบความสามารถทางการได้ยิน และการมองเห็นของเด็ก

สิ่งที่ควรรู้

  • การคายอาหาร

ในช่วงเดือนแรกนี้เด็กทารกส่วนใหญ่จะแหวะนมเป็นบางครั้ง เด็กบางคนก็แหวะทุกครั้งที่ป้อน บางครั้งเด็กแหวะนมเพราะกินเข้าไปมากเกิน ยังไม่มีวิธีแก้ปัญหาได้แบบเวิร์คๆ แต่อาจลองลดการกลืนอากาศเข้าไปในระหว่างกินนมดู

ถึงแม้การแหวะนมจะเป็นเรื่องปกติและไม่มีอะไรน่าห่วง แต่การแหวะนมบางประเภทก็ส่อว่ามีปัญหาได้เหมือนกัน คุณแม่ควรโทรไปปรึกษาคุณหมอ ถ้าลูกน้อยแหวะนมพร้อมมีน้ำหนักต่ำกว่าเกณฑ์ หรือสำลักหรือไอเป็นเวลานานๆ หรืออาเจียนออกมาเป็นสีน้ำตาลหรือสีเขียว

อาการแพ้นมมักพบได้บ่อยในเด็กทารก ซึ่งในรายที่มีอาการแพ้รุนแรง ก็มักจะอาเจียนออกมาบ่อยๆ รวมทั้งถ่ายอุจจาระเหลวเป็นน้ำ และอาจจะมีเลือดปนออกมาด้วยก็ได้ นอกจากนี้เด็กที่แพ้นมยังมีอาการของผื่นผิวหนังอักเสบเรื้อรัง ลมพิษ อาการหายใจติดขัด และมีน้ำมูก ก่อนที่จะรักษาลูกน้อยด้วยวิธีการใดๆ ก็ควรปรึกษากับคุณหมอก่อน เพื่อการวินิจฉัยรักษาที่ถูกต้อง แม่นยำ 

  • การขับถ่ายอุจจาระ

โดยปกติแล้วทารกที่ยังไม่หย่านมแม่มักจะมีอุจจาระนิ่ม และบางครั้งก็อุจจาระเหลว แต่อาการท้องเสียที่อุจจาระเหลวเป็นน้ำ มีกลิ่นเหม็น และอาจมีเมือกปนออกมาด้วย มักจะเกิดขึ้นพร้อมกับการมีไข้และน้ำหนักลด พบได้น้อยในเด็กที่ดื่มนมแม่อย่างเดียว แต่เด็กในกลุ่มนี้จะฟื้นตัวจากอาการท้องเสีย ได้เร็วกว่าเด็กที่ดื่มนมจากขวด

เด็กที่ดื่มนมจากขวดบางคนจะเว้นช่วงในการขับถ่าย 3-4 วัน ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติ แต่ถ้าอุจจาระของเด็กมีรูปร่างประหลาด หรือเป็นก้อน กลมๆแข็งๆหรือทำให้รู้สึกเจ็บปวดจนเลือดออก เนื่องจากเกิดแผลหรือฝีบริเวณทวารหนัก ลูกของคุณก็อาจมีอาการท้องผูก ซึ่งถ้าคุณสงสัยว่าลูกมีอาการท้องผูก ก็ควรรีบปรึกษาคุณหมอทันที ปฎิบัติตามคำแนะนำของคุณหมอพร้อมทั้งให้ลูกดื่มน้ำเยอะๆ เพื่อช่วยเยียวยาให้มีอาการดีขึ้น

สิ่งที่ต้องเป็นกังวล

ควรกังวลในเรื่องใด

ในสัปดาห์แรกของเดือนแรกนี้ มีเรื่องมากมายที่คุณควรจะรู้เอาไว้ อย่างแรกเลยก็ต้องรู้ว่าลูกน้อยของคุณได้รับน้ำนมและสารอาหารอย่างพอเพียงหรือเปล่า โดยสังเกตุได้จากอาการพวกนี้

  • ผ้าอ้อมเปียก เมื่อเปลี่ยนผ้าอ้อมก่อนการป้อนอาหารทุกครั้ง
  • ปัสสาวะไม่มีสี
  • คุณได้ยินเสียงงับอากาศ และเสียงกลืนนมลงท้อง
  • ลูกน้อยดูมีความสุข และพึงพอใจหลังป้อนนม
  • คุณรู้สึกนมคัด เมื่อมีน้ำนมผลิตขึ้น
  • คุณสังเกตว่า มีน้ำนมรั่วไหล
  • คุณไม่มีประจำเดือนในช่วง 3 เดือนแรกหลังคลอด 

ในการช่วยให้ลูกของคุณนอนหลับสบาย ก็ควรปฎิบัติตามคำแนะนำต่อไปนี้ 

  • เตรียมพื้นที่ให้ลูกน้อย สามารถนอนหลับได้อย่างสบาย
  • ตั้งอุณหภูมิที่เหมาะสมสำหรับเด็ก
  • สร้างความรู้สึกสงบให้กับลูกน้อย
  • ให้ลูกน้อยได้นอนหลับอย่างเพียงพอในระหว่างวัน
  • ห้องนอนของลูกน้อยควรมีแสงตะวันส่องให้เห็น

แล้วทารกจะพัฒนาต่อไปอย่างไรนะ ในสัปดาห์หน้า

หมายเหตุ

Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด

American Academy Of Pediatrics. American Academy of Pediatrics Caring for Your Baby and Young Child, Birth to Age 5 6th Edition. New York: Bantam, 2014. Print Ed

Murkoff, Heidi. What to Expect, The First Year. New York: Workman Publishing Company, 2009. Print Ed

http://www.babycenter.com. Accessed date. 04/06/2015

เวอร์ชันปัจจุบัน

31/12/2022

เขียนโดย ออมสิน แสนล้อม

ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย พลอย วงษ์วิไล

อัปเดตโดย: พลอย วงษ์วิไล


บทความที่เกี่ยวข้อง

เด็ก1ขวบ มีพัฒนาการสำคัญอะไรบ้างที่ควรรู้

ฝึกลูก หย่านมแม่ อย่างไรให้ถูกวิธีและได้ผล


ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย

พลอย วงษ์วิไล


เขียนโดย ออมสิน แสนล้อม · แก้ไขล่าสุด 31/12/2022

ad iconโฆษณา

คุณได้รับประโยชน์จากบทความนี้หรือไม่?

ad iconโฆษณา
ad iconโฆษณา