backup og meta

แคลเซียมสำหรับทารก มีประโยชน์อย่างไร คุณแม่ควรรู้

แคลเซียมสำหรับทารก มีประโยชน์อย่างไร คุณแม่ควรรู้

แคลเซียม มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการเจริญเติบโตและความแข็งแรงของกระดูกและฟัน โดยเฉพาะสำหรับวัยทารก ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ร่างกายกำลังพัฒนาอย่างรวดเร็ว คุณพ่อคุณแม่จะต้องมั่นว่าใจลูกรักได้รับ แคลเซียมสำหรับทารก อย่างเพียงพอ วันนี้ Hello คุณหมอ จึงนำความรู้ดี ๆ เกี่ยวกับแคลเซียมสำหรับทารกมาฝาก เพื่อเป็นแนวทางสำหรับคุณพ่อคุณแม่ในการดูแลลูกน้อยค่ะ

[embed-health-tool-vaccination-tool]

แคลเซียมสำหรับทารก มีประโยชน์อย่างไร

แคลเซียมเป็นแร่ธาตุที่ช่วยเสริมสร้างกระดูกและฟันให้แข็งแรง และยังมีส่วนช่วยในการทำงานของระบบในร่างกายด้วย เช่น ช่วยให้เส้นประสาทและกล้ามเนื้อทำงานได้ดี รวมไปถึงการบำรุงรักษาสุขภาพหัวใจให้แข็งแรง ห่างไกลโรค

การได้รับแคลเซียมที่เหมาะสมและเพียงพอตั้งแต่ช่วงวัยทารกจึงเป็นการเริ่มต้นที่ดีที่จะทำให้กระดูกแข็งแรงสมบูรณ์ในวัยผู้ใหญ่ เพื่อป้องกันปัญหากระดูกพรุนหรือการสูญเสียกระดูกในอนาคต ในวัยทารกและวัยหนุ่มสาวควรได้รับแคลเซียมและวิตามินดีอย่างเพียงพอเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดโรคกระดูกอ่อนจนทำให้ขาโค้งงอ ช่วยป้องกันปัญหาแคระแกรน รวมไปถึงอาการเจ็บกล้ามเนื้อ และกล้ามเนื้ออ่อนแรงที่อาจเกิดขึ้น

ปริมาณแคลเซียมที่ทารกควรได้รับ

ปริมาณของแคลเซียมที่ควรได้รับในแต่ละวันจะแตกต่างกันขึ้นอยู่กับแต่ละช่วงวัย โดยปกติแล้ว ในช่วงวัยทารก จะได้รับแคลเซียมจากนมแม่ หรือ นมผง แต่สำหรับทารกที่มีอายุ 6 เดือนขึ้นไป คุณพ่อคุณแม่ก็อาจเริ่มเสริมแคลเซียมจากอาหารอื่น ๆ เข้ามาร่วมด้วยได้เช่นกัน

  • ทารกที่อายุน้อยกว่า 6 เดือน ต้องการแคลเซียมประมาณ 200 มิลลิกรัม/วัน
  • ทารกอายุ 6-11 เดือน ต้องการแคลเซียมประมาณ 260 มิลลิกรัม/วัน

มีนมเพียง 2 ประเภทเท่านั้นที่ทารกสามารถกินได้คือ นมแม่และนมผง ไม่ควรให้ทารกที่มีอายุต่ำกว่า 1 ขวบดื่ม นมวัวหรือนมแพะ เพราะร่างกายของทารกอาจจะยังไม่สามารถย่อยโปรตีนที่อยู่ในนมเหล่านี้ และทำให้เกิดอาการท้องเสียได้

แม้ว่าทางที่ดีที่สุดคือการให้ทารกได้รับแคลเซียมจากอาหารที่กินเข้าไป แต่สำหรับเด็กที่ไม่กินนม หรือเด็กที่มีอาการแพ้แลคโตส จนอาจได้รับแคลเซียมไม่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย คุณพ่อคุณแม่ก็ควรเข้ารับคำปรึกษาจากคุณหมอผู้เชี่ยวชาญเพื่อรับแนวทางในการให้แคลเซียมเสริมอื่น ๆ

นอกเหนือจากแคลเซียมแล้ว ทารกก็ควรได้รับวิตามินดีในปริมาณที่เหมาะสม เพื่อช่วยให้ร่างกายสามารถดูดซึมแคลเซียมได้ดียิ่งขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม วิตามินดีนั้นอาจไม่ได้มีอยู่ในอาหารที่ทารกสามารถกินได้ โดยเฉพาะนมแม่ที่ไม่ได้ผ่านการเสริมอาหารเหมือนนมผง แพทย์ก็อาจจะแนะนำอาหารเสริมวิตามินดีให้กับทารกเพิ่มเติมได้

อันตรายที่อาจเกิดขึ้นเมื่อทารกได้รับแคลเซียมมากเกินไป

คุณหมอแนะนำให้เด็กอายุ 1-8 ปี ไม่ควรได้รับแคลเซียมเกิน 2,500 มิลลิกรัม/วัน หรือเทียบเท่ากับนมขนาด 8 ออนซ์ จำนวน 8 แก้ว เพราะการที่ทารกได้รับแคลเซียมมากเกินไป อาจส่งผลให้เกิดอันตรายต่อร่างกาย เช่น ท้องผูก ภาวะแคลเซียมเป็นพิษ นอกจากนี้ยังอาจเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดนิ่วในไตได้อีกด้วย

หมายเหตุ

Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด

Infant Nutrition: The First 6 Months. https://www.webmd.com/parenting/baby/nutrition#1. Accessed July 22, 2021

Formula Feeding FAQs: Getting Started. https://kidshealth.org/en/parents/formulafeed-starting.html. Accessed July 22, 2021

Breastfeeding FAQs: Getting Started. https://kidshealth.org/en/parents/breastfeed-starting.html.

Calcium. https://kidshealth.org/en/parents/calcium.html. Accessed July 22, 2021

Calcium Absorption in Infants and Small Children: Methods of Determination and Recent Findings. https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC3257657/. Accessed July 22, 2021

เวอร์ชันปัจจุบัน

31/01/2023

เขียนโดย ทัตพร อิสสรโชติ

ตรวจสอบข้อมูลทางการแพทย์โดย แพทย์หญิงสุสิตา หวังจิรนิรันดร์

อัปเดตโดย: สิฏฐิณิศา รัชตวโรทัย


บทความที่เกี่ยวข้อง

อาหารเด็ก7เดือน ที่ช่วยเสริมสุขภาพและพัฒนาการ

แคลเซียมในนมแต่ละชนิด ต่างกันอย่างไรบ้าง


ตรวจสอบข้อมูลทางการแพทย์โดย

แพทย์หญิงสุสิตา หวังจิรนิรันดร์

พ่อแม่เลี้ยงลูก · โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวร


เขียนโดย ทัตพร อิสสรโชติ · แก้ไขล่าสุด 31/01/2023

ad iconโฆษณา

คุณได้รับประโยชน์จากบทความนี้หรือไม่?

ad iconโฆษณา
ad iconโฆษณา