ส่วนใหญ่เมื่อพูดถึงน้ำส้มสายชู หลายคนคงนึกถึงการเอาไว้ปรุงรสชาติ หรือใช้สำหรับทาหารเสียส่วนใหญ่ แต่ความจริงแล้วน้ำส้มสายชูยังมีประโยชน์อย่างอื่นที่นอกเหนือจากการใช้ทำอาหาร นั่นก็คือ น้ำส้มสายชูทำความสะอาด ของในบ้านได้ แต่จะใช้ทำความสะอาดอะไรได้บ้าง ต้องมาติดตามกันใน Hello คุณหมอ
ประโยชน์ของน้ำส้มสายชูที่เกี่ยวกับการทำความสะอาด
อย่างที่กล่าวแล้วข้างต้นว่าน้ำส้มสายชูนั้นไม่ได้มีประโยชน์แค่เพียงใช้ในการปรุงอาหาร แต่ยังสามารถใช้เป็นน้ำยาทำความสะอาดและฆ่าเชื้อโรคได้เป็นอย่างดี เนื่องจากน้ำส้มสายชูผลิตมาจาก “กรดอะซิติก (Acetic Acid)” ซึ่งกรดนี้เป็นสารประกอบอินทรีย์ไม่มีสี รสเปรี้ยว และมีกลิ่นฉุน
ธรรมชาติของน้ำส้มสายชูคือมีฤทธิ์เป็นกรด จึงทำให้สามารถละลายแร่ธาตุ สิ่งสกปรก และไขมัน ทั้งยังสามารถฆ่าเชื้อแบคทีเรียได้อีกด้วย น้ำส้มสายชูใหลายประเภทด้วยกัน ซึ่งสามารถแยกออกได้ ดังนี้
- น้ำส้มสายชูที่หมักด้วยแอปเปิ้ลสด หรือที่หลาย ๆ คนมักเรียกติดปากกันว่า น้ำส้มสายชูหมักจากแอปเปิ้ล (Apple Cider Vinegar)
- น้ำส้มสายชูกลั่นสีขาว
- น้ำส้มสายชูบาลซามิก (Balsamic Vinegar)
- น้ำส้มสายชูหมักจากไวน์แดงหรือไวน์ขาว (Red or White Wine Vinegar)
เลือกใช้น้ำส้มสายชูทำความสะอาดอย่างไรจึงจะได้ผลลัพธ์ที่ดี
สำหรับสุดยอดน้ำส้มสายชู ได้แก่ น้ำส้มสายชูกลั่นสีขาว ซึ่งเหมาะที่สุดที่จะนำมาใช้ในการทำความสะอาด เพราะมันไม่มีสารแต่งสี จึงทำให้ไม่เปื้อนพื้นผิว นอกจากนี้น้ำส้มสายชูกลั่นยังมีความเป็นกรดประมาณ 5 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งคล้ายดีบระดับความเป็นกรดในน้ำยาทำความสะอาดอเนกประสงค์
หากพูดถึงเรื่องกลิ่น น้ำส้มสายชูค่อนข้างมีกลิ่นฉุนที่อาจจะไม่เป็นที่พึงประสงค์สำหรับคุณสักเท่าไหร่ ดังนั้น คุณอาจจะเลือกใช้เป็นน้ำส้มสายชูที่หมักด้วยแอปเปิ้ลสดก็ได้ เพราะมันจะมีกลิ่นที่จางกว่าเล็กน้อย แต่น้ำส้มสายชูที่หมักด้วยแอปเปิ้ลสดจะมีสีที่เข้มกว่า ดังนั้น จึงต้องเจือจางในน้ำก่อนจะนำมาใช้ทำความสะอาด
เมื่อคุณใช้น้ำส้มสายชูมาใช้ในการทำความสะอาด กลิ่นของมันอาจจะอยู่ประมาณ 1 ชั่วโมงหรือมากกว่านั้น แต่ก็ปลอดสารพิษและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งคุณสามารถระงับกลิ่นของน้ำส้มสายชูได้ด้วยการเติมน้ำมันหอมระเหยไม่กี่หยด เช่น น้ำมันมะนาว น้ำมันลาเวนเดอร์ หรือน้ำมันสะระแหน่ ลงในขวดสเปรย์ที่มีสารละลายน้ำส้มสายชู นอกจากนั้นก็ควรเปิดหน้าต่างแล้วปล่อยให้อากาศภายนอกช่วยในการกำจัดกลิ่น
สิ่งที่สามารถใช้ น้ำส้มสายชูทำความสะอาด
สำหรับสิ่งของในบ้านที่สามารถใช้น้ำส้มายชูทำความสะอาดได้นั้น มีดังนี้
- หน้าต่าง
คุณสามารถใช้น้ำส้มสายชูในการทำความสะอาดหน้าต่างได้ ด้วยการผสมน้ำส้มสายชูกลั่นสีขาว 2 ช้อนโต๊ะ ผสมกับน้ำ 1 แกลลอน จากนั้นเทใส่ขวดสเปรย์ แล้วนำไปเช็ดบริเวณหน้าต่าง จากนั้นเช็ดออกด้วยผ้าแห้ง
- กระจก
ใช้น้ำส้มสายชูเพื่อทำเป็นน้ำยาล้างแก้วของคุณเอง โดยการนำน้ำ 1 ส่วนมาผสมกับน้ำส้มชายชู 2 ส่วน แล้วเทลงในขวดสเปรย์ ฉีดน้ำยาลงบนพื้นผิวกระจกและเช็ดทำความสะอาด เพื่อที่พื้นผิวของกระจกจะได้ไม่มีรอยหลงเหลืออยู่
- ผ้าขนหนู
เมื่อผ้าเช็ดตัวเริ่มแข็ง ให้นำผ้าเช็ดตัวไปใส่ในเครื่องซักผ้าแล้วเทน้ำส้มสายชูกลั่นสีขาว ½ ถ้วยลงไป โดยไม่ต้องใส่ผงซักฟอก การทำเช่นนี้จะช่วยขจัดผงซักฟอกที่ตกค้างอยู่บนผ้าขนหนู ทั้งยังกำจัดแร่ต่างๆ ที่ติดอยู่บนผ้าขนหนูอีกด้วย
- เคาน์เตอร์
เนื่องจากน้ำส้มสายชูสามารถใช้เป็นยาฆ่าเชื้อตามธรรมชาติได้ จึงสามารถทำความสะอาดและฆ่าเชื้อบริเวณเคาน์เตอร์หลังจากที่เตรียมอาหารเรียบร้อยแล้วได้ สำหรับคราบที่กำจัดยากให้เติมน้ำยาล้างจานลงไปสัก 2-3 หยด ในน้ำ 1 ส่วน และน้ำส้มสายชู 2 ส่วน
น้ำส้มสายชูสามารถกำจัดกลิ่นพึงประสงค์จากเคาน์เตอร์ได้ แต่ไม่ควรนำไปใช้กับหินแกรนนิตหรือหินอ่อน ถ้าจะทำความสะอาดหินแกรนิตหรือหินอ่อน ควรใช้น้ำยาทำความสะอาดหินธรรมดาแทน เนื่องจากกรดในน้ำส้มสายชูสามารถลดความมันวาวของหินธรรมชาติลงได้ นอกจากนั้นน้ำส้มสายชูยังสามารถป้องกันมดที่อาจกัดเซาะเคาน์เตอร์ในเวลากลางคืน ซึ่งเป็นช่วงที่พวกมันออกมาหาเศษอาหารได้อีกด้วย
- ก๊อกน้ำ
ผสมน้ำส้มสายชู 2 ช้อนชาและเกลือ 1 ช้อนชาเข้าด้วยกัน เพื่อใช้ขจัดแคลเซียมที่สะสมอยู่บนก๊อกน้ำ และอุปกรณ์ที่ติดตั้ง นอกจากนั้นวิธีนี้ยังสามารถขจัดคราบน้ำที่ทำให้หัวฝักบัวมีรอยด่างได้ ในการกำจัดคราบแข็งๆ ที่ยังติดอยู่ที่ก๊อกน้ำ สามารถทำให้ได้โดยฉีดสเปรย์ที่มีส่วนผสมของน้ำส้มสายชูไปที่ก๊อกน้ำ จากนั้นนำถุงมาผูกคลุมเอาไว้ค้างคืน แล้วค่อยมาขัดก๊อกน้ำในวัยรุ่งขึ้น
- พรม
การต่อสู่กับคราบบนพรม เช่น คราบจากไวน์แดง สามารถทำได้โดยผสมน้ำยาล้างจาน 1 ช้อนโต๊ น้ำส้มสายชูกลั่นสีขาว 1 ช้อนโต๊ะ และน้ำอุ่น 2 ถ้วย ใช้ผ้าขาวหรือฟองน้ำสะอาดๆ นำมาทาบรนพรมครั้งละเล็กน้อยแล้วพยายามซับบ่อยๆ ด้วยผ้าแห้งจนกว่าคราบจะหายไป
- ฝักบัวและอ่างอาบน้ำ
การกำจัดคราบสบู่หนาๆ สามารถทำได้ด้วยการใช้สเปรย์น้ำส้มสายชูกลั่นสีขาวที่ไม่เจือปนกับอะไรเลย ฉีดไปบนผนัง อ่างอาบน้ำ และฝักบัวอาบน้ำ ปล่อยน้ำส้มสายชูเอาไว้สักครู่ แล้วจึงขัดและล้างออกกด้วยน้ำสะอาด หรือจะนำเบกกิ้งโซดามาผสมกับน้ำส้มสายชู เพื่อให้ส่วนผสมเข้มข้นขึ้นก็ได้เช่นกัน
- ห้องน้ำ
เทน้ำส้มสายชู 2-3 ถ้วยลงในชักโครกแล้วทิ้งเอาไว้ประมาณ 3 ชั่วโมง จากนั้นจึงเอาแปรงขัดห้องน้ำขัดบริเวณที่สกปรก แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด การทำเช่นนี้จะช่วยกำจัดคราบและกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ในห้องน้ำได้
สิ่งที่ไม่ควรใช้ น้ำส้มสายชูทำความสะอาด
สิ่งที่ไม่ควรใช้น้ำส้มสายชูทำความสะอาดก็มีอยู่เช่นกัน ซึ่งสิ่งที่ไม่สามารถใช้น้ำส้มสายชูทำความสะอาดได้ มีดังนี้
การใช้น้ำส้มสายชูในการทำความสะอาดด้านในของเตารีด มันสามารถทำให้องค์ประกอบความร้อนกัดกร่อนและทำให้ภายในเครื่องเสียหายได้อย่างถาวร นอกจากนั้นเตารีดแบบไอน้ำส่วนใหญ่จะการเคลือบป้องกันเอาไว้ แต่กรดของน้ำส้มสายชูสามารถกัดแทะเยื่อบุและชิ้นส่วนโลหะได้ วิธีการที่ดีที่สุดในการทำความสะอาดเตารีดนั้นขึ้นอยู่กับรุ่นเตารีดของคุณ ดังนั้น คุณจึงควรอ่านคู่มือและทำความสะอาดตามคำแนะนำในคู่มือจะเป็นการดีที่สุด
- คราบไข่หรือสิ่งที่หก
หากคุณวางไข่ไว้บนพื้นและมันเกิดแตกขึ้นมา อย่าไปใช้น้ำส้มสายชูทำความสะอาดเด็ดขาด เพราะความเป็นกรดของน้ำส้มสายชูอาจจะทำให้ไข่ไก่จับกันเป็นก้อนและจะยิ่งทำให้ทำความสะอาดคราบไข่ได้ยากขึ้น
- หน้าจออิเล็กทรอนิกส์
หน้าจอคอมพิวเตอร์ สมาร์ทโฟน แท็บเลต หรือโทรทัศน์ ไม่สามารถใช้น้ำส้มสายชูทำความสะอาดได้ เนื่องจากมันสามารถสร้างความเสียหายต่อคุณสมบัติป้องกันแสงสะท้อนของหน้าจอและทำให้หน้าจอสัมผัสตอบสนองได้น้อยลง การใช้ฟองน้ำนุ่มๆ หรือผ้าชุบน้ำหมาดๆ เช็ดทำความสะอาดจะเป็นการดีกว่า สำหรับจุดที่ไม่สามารถทำความสะอาดได้ด้วยน้ำเปล่าให้ลองใช้น้ำยาล้างจานที่เจือจางด้วยน้ำมากๆ เอาผ้ามาชุบหมาดๆ แล้วลองเช็ดออกดู
- มีด
น้ำส้มสายชูควรจะต้องอยู่ห่างจากโลหะทุกชนิด เพราะมันสามารถทำให้มีดและโลหะทั้งหลายเกิดความเสียหายได้ เครื่องครัวที่เป็นอะลูมิเนียมและทองแดง ควรจะต้องเก็บให้ห่างจากน้ำส้มสายชู การทำความสะอาดมีดและของใช้ในควรที่ดีที่สุดก็คือ น้ำยาล้างจานและน้ำอุ่น
- เครื่องซักผ้า
น้ำส้มสายชูบางครั้งถูกนำมาใช้เป็นน้ำยาปรับผ้านุ่ม กำจัดคราบหรือกลิ่นในเครื่องซักผ้า แต่มันก็สามารถสร้างความเสียหายให้กับซีลยางและท่อในเครื่องซักผ้าได้ การใช้น้ำส้มสายชูอย่างต่อเนื่องกับเครื่องซักผ้าจะทำให้ท่อในเครื่องซักผ้าเกิดการรั่วไหล โดยเฉพาะเครื่องซักผ้าแบบฝาหน้านั้นจะมีความอ่อนไหวต่อน้ำส้มสายชูเป็นพิเศษ
- เครื่องล้างจาน
คุณอาจเคยได้ยินว่าการล้างจานด้วยน้ำส้มสายชูมันจะช่วยกำจัดคราบและกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ แต่ผู้ผลิตเครื่องล้างจานรวมถึง Electrolux และ Bosch เตือนว่า กรดอะซิติกสามารถส่งผลต่อชิ้นส่วนที่เป็นยางในเครื่องล้างจานได้ เนื่องจากยางหลายชนิดในเครื่องล้างจานมีองค์ประกอบทางเคมีที่แตกต่างกัน ซึ่งบางส่วนอาจทำปฏิกิริยากับน้ำส้มสายชูได้ ดังนั้นทางที่ดีที่สุดก็คือไม่ควรใช้น้ำส้มสายชูกับเครื่องล้างจานจะเป็นการดีที่สุด
[embed-health-tool-bmi]