backup og meta

6 วิธีรับมือ อาการอ่อนเพลียจากการรักษามะเร็ง

6 วิธีรับมือ อาการอ่อนเพลียจากการรักษามะเร็ง

สำหรับผู้ป่วยมะเร็งที่กำลังเข้ารับการรักษาโรคนี้อยู่ คุณอาจมี อาการอ่อนเพลียจากการรักษามะเร็ง ที่เกิดขึ้นได้ทั้งระหว่างเข้ารับการรักษาและหลังรักษา ซึ่งความรู้สึกเหนื่อยล้านี้มักไม่ดีขึ้นแม้คุณได้พักหรือนอนหลับแล้วก็ตาม อาการนี้เรียกว่า อาการอ่อนเพลียจากโรคมะเร็ง และส่งผลเสียต่ออารมณ์ ความสัมพันธ์และกิจวัตรประจำวัน Hello คุณหมอ ขอนำเสนอวิธีที่จะมาช่วยในการควบคุมอาการอ่อนเพลียที่เกิดขึ้น และปรับสภาพความเป็นอยู่ให้ดียิ่งขึ้นมาฝากกันค่ะ

6 วิธีรับมือ อาการอ่อนเพลียจากการรักษามะเร็ง

1. พักผ่อนให้พอดี ไม่มากไม่น้อยเกินไป

ควรจัดตารางเวลาเพื่อให้มีเวลาพักผ่อนที่เพียงพอ เช่น คุณอาจพักสายตาช่วงสั้น ๆ ประมาณครึ่งชั่วโมง แทนการพักนาน ๆ ในระหว่างวัน และต้องพยายามนอนหลับให้ได้ 7-8 ชั่วโมง แต่ระวังอย่านอนมากไป เพราะจะทำให้ระดับพลังงานของร่างกายลดลงได้

2. ออกกำลังกายสม่ำเสมอ

เวลาที่คุณรู้สึกเหนื่อยตลอดทั้งวัน การจะให้ตื่นตัวอยู่เสมออาจฟังดูยาก แต่งานวิจัยเผยว่า การออกกำลังกายสม่ำเสมอเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการเพิ่มพลังงาน และบรรเทาอาการอ่อนเพลีย โดยคุณสามารถเริ่มออกกำลังกายได้ ด้วยเทคนิคง่าย ๆ เหล่านี้

  • เริ่มจากการออกกำลังกายเบา ๆ ที่เหมาะกับระดับของคุณ เช่น การเดิน การฝึกโยคะ การว่ายน้ำ
  • เพิ่มระดับหรือความยากตามต้องการ
  • ฟังร่างกายตนเองให้ดี อย่าหักโหมเกินไป แต่ควรทำอย่างต่อเนื่อง
  • จดบันทึกความก้าวหน้าและปรึกษาผู้ดูแลสุขภาพ เพื่อคำแนะนำเพิ่มเติม

3. ปรับพฤติกรรมการนอน

นิสัยการนอนหลับที่ดี เป็นวิธีที่ทำให้สภาพร่างกายและจิตใจแข็งแรง และเทคนิคต่อไปนี้จะช่วยทำให้การนอนของคุณดีขึ้น

  • ช่วงเช้า ตื่นในเวลาเดิมทุกวัน ไม่ว่าคุณจะนอนหลับได้กี่ชั่วโมงก็ตาม
  • ช่วงกลางวัน งีบช่วงสั้น ๆ ระหว่างเวลาเที่ยงวันและบ่ายสามโมง จะช่วยเพิ่มระดับพลังงานให้คุณ ควบคุมการดื่มแอลกอฮอล์และคาเฟอีนในช่วงบ่ายและเย็น
  • ช่วงเย็น ผ่อนคลายจิตใจโดยการทำกิจกรรมที่คุณเพลิดเพลิน เช่น อ่านหนังสือ ฟังเพลง อาบน้ำอุ่น นั่งสมาธิ เพื่อช่วยให้คุณหลับได้ง่ายขึ้น
  • ช่วงเวลานอน พยายามเข้านอนเวลาเดียวกันทุกวัน หากคุณนอนไม่หลับภายใน 20-30 นาทีหลังเข้านอน ให้ลุกจากเตียง หากิจกรรมที่ทำให้ผ่อนคลาย จนกว่าคุณจะรู้สึกง่วงแล้วกลับไปนอน

ควรปรึกษาแพทย์ หากคุณมีปัญหาเกี่ยวกับการนอนหลับเพื่อรับยาช่วยให้นอนหลับง่ายขึ้น

4. รับประทานอาหารที่มีประโยชน์

ดื่มน้ำหรือน้ำผลไม้มาก ๆ รับประทานเท่าที่สามารถรับประทานได้ ควรได้รับโปรตีนและแคลอรี่ที่เพียงพอเพื่อช่วยในการฟื้นฟูร่างกาย

5. อดทน

ร่างกายใช้เวลาในการฟื้นฟู คุณไม่ควรคาดหวังการเปลี่ยนแปลงเพียงข้ามคืน วิธีการเหล่านี้ให้ผลที่แตกต่างในแต่ละคน คุณไม่ควรท้อแท้หากคุณยังมีอาการอ่อนเพลีย อดทน และฟังร่างกายของตนเอง และพัฒนาการจะเกิดขึ้นเป็นลำดับผ่านการฝึกฝน

6. ปรึกษาแพทย์

ติดต่อแพทย์หากคุณรู้สึกเหนื่อยเกินกว่าจะลุกจากเตียงนานเป็นระยะเวลา 24 ชั่วโมง หากคุณรู้สึกเวียนศีรษะ มึนงง มีปัญหาทางการหายใจ หรือการตื่น ทรงตัวไม่อยู่หรือหกล้ม หรืออาการอ่อนเพลีย ดูจะรุนแรงขึ้น

อาการอ่อนเพลีย เป็นอาการทั่วไปของโรคมะเร็งและสามารถจัดการได้ ความอ่อนเพลียเรื้อรังส่งผลกระทบต่อชีวิต ทำให้อาการมะเร็งรุนแรงขึ้น รวมถึงทำให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพ คุณอาจต้องลองทำเพื่อหาวิธีที่เหมาะสมที่สุดสำหรับคุณ ดังนั้น ใ้ห้เวลากับตัวเองและอดทน

[embed-health-tool-bmi]

หมายเหตุ

Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด

Treating cancer fatigue. http://www.cancerresearchuk.org/about-cancer/coping-with-cancer/coping-physically/fatigue/treating-cancer-fatigue. Accessed September 30, 2016.

Managing cancer-related fatigue. http://www.cancer.org/treatment/treatmentsandsideeffects/physicalsideeffects/fatigue/seven-ways-to-manage-cancer-related-fatigue. Accessed September 30, 2016.

How to manage your fatigue. https://www.cancercare.on.ca/common/pages/UserFile.aspx?fileId=348063. Accessed September 30, 2016.

เวอร์ชันปัจจุบัน

19/03/2021

เขียนโดย ฤทธิศักดิ์ วงศ์วุฒิพงษ์

ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย ทีม Hello คุณหมอ

อัปเดตโดย: เนตรนภา ปะวะคัง


บทความที่เกี่ยวข้อง

โรคไวรัสตับอักเสบบี คือโรคอะไร ใครควรได้รับวัคซีนไวรัสตับอักเสบบี

รอดชีวิตจากมะเร็งปอด ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้!


ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย

ทีม Hello คุณหมอ


เขียนโดย ฤทธิศักดิ์ วงศ์วุฒิพงษ์ · แก้ไขล่าสุด 19/03/2021

ad iconโฆษณา

คุณได้รับประโยชน์จากบทความนี้หรือไม่?

ad iconโฆษณา
ad iconโฆษณา