ปัจจุบันการเสริมความงามในด้านต่าง ๆ มักได้รับความนิยมอย่างมากในหมู่สาว ๆ โดยเฉพาะในส่วนบริเวณใบหน้าของพวกเธอที่ต้องใช้เป็นด่านแรกในการพบเจอผู้คนในสังคม ซึ่งการที่จะเพิ่มมิติ หรือความโดดเด่นให้กับคุณนั้นไม่จำเป็นต้องพึ่งการผ่าตัดศัลยกรรมให้เจ็บตัวอย่างเดียว แต่ยังมีอีกสิ่งที่สามารถช่วยดึงดูดความสนใจจากคนรอบข้างได้เช่นกัน นั่นก็คือการ สักคิ้ว ที่วันนี้ Hello คุณหมอ จะพาทุกคนมาทำความรู้จักกับการเสริมความงามรูปแบบนี้กันค่ะ
สักคิ้ว คืออะไร
ด้วยคำนิยามทางด้านความงามที่อาจคุ้นหูใครหลายคนอย่าง “คิ้วคือมงกุฎของใบหน้า ดังนั้นการแต่งเติมคิ้ว ดังนั้นการเสริมความงามด้วยวิธี การสักคิ้ว จึงกลายมาเป็นที่นิยมในหมู่สาว ๆ เพราะช่วยให้ผู้หญิงทั้งหลาย สะดวกและประหยัดมากขึ้นในการแต่งหน้ายิ่งขึ้น
เนื่องจาก การสักคิ้วถาวร เป็นวิธีเสริมความงามที่เหมาะกับผู้ที่ประสบปัญหาคิ้วบาง ทรงคิ้วไม่เป็นรูป โดยผู้เชี่ยวชาญนิยมใช้นวัตกรรม หรือเทคนิคการสักที่มีชื่อว่า Microblading ลักษณะเข็มสักแบบปลายแบนยาว เหมาะกับการวาดเส้นคิ้วให้เป็นเส้นเรียงตัวสวยเสมือนขนคิ้วจริง อีกทั้งยังมีการจุ่มสีที่คุณสามารถเลือกเฉดสีให้เข้ากับใบหน้าของคุณได้อีกด้วย
อย่างไรก็ดี ก่อนที่จะไปทำความเข้าใจเกี่ยวกับการสักคิ้วให้มากขึ้น คุณควรรับรู้ไว้เสียก่อนว่า การสักคิ้วนั้น สามารถทำได้กับผู้เชี่ยวชาญที่ผ่านการฝึกฝน และมีใบรับรองเท่านั้น เพราะเนื่องจากเป็นการสักคิ้วที่ใช้เครื่องมือค่อนข้างที่จะสัมผัสกับผิวหนังของเราโดยตรง จึงจำเป็นต้องมีความชำนาญ พร้อมประสบการณ์เฉพาะทางคุณถึงจะมั่นใจได้ว่าได้รับความปลอดภัย หรือได้รับผลข้างเคียงหลังสักน้อยที่สุด
ข้อเสียของการ สักคิ้ว ที่คุณควรรู้
นอกจากการสักคิ้วจะเป็นการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ให้คิ้วของคุณนั้นมีมิติมากขึ้นแล้ว แต่ถึงอย่างไรก็ยังคงมีความเสี่ยงอีกหลายกรณี ดังนี้ ที่ควรศึกษาไว้ เพื่อประกอบการพิจารณาก่อนการตัดสินใจเข้ารับการสัก
- การติดเชื้อ
บางครั้งอุปกรณ์การสักก็อาจเป็นการนำภาหะของเชื้อแบคทีเรียบางอย่างเข้าสู่ร่างกายเราได้อย่างง่ายดาย เพราะการสักนั้นเป็นการใช้เข็มฝังเม็ดสีลงไปผิวหนังโดยตรง ที่สำคัญคุณควรสังเกตเข็มสักให้ดีว่าสถานบริการที่คุณเลือกมีการเปลี่ยนอุปกรณ์ใหม่ทุกครั้งหรือไม่ รวมทั้งมีการใช้หมึกซ้ำกับผู้สักคนก่อนหรือเปล่า เพราะไม่เช่นนั้นอาจเกิดอันตรายต่อร่างกายคุณได้ถึงแม้จะเป็นเพียงการสักแบบแผลเล็กก็ตาม
- เกิดเป็นแผลเป็นนูน
หากคุณมีแนวโน้ม หรือเคยประสบกับปัญหาของแผลเป็นนูน ที่เรียกว่า คีลอยด์ มาก่อน ก็อาจเป็นไปได้ว่า ในการสักอีกครั้ง อาจสร้างอาการบวม และรอยแผลเป็นได้ ดังนั้นคุณควรศึกษาวิธีดูแลตนเองหลังจากการสักอย่างละเอียด เพื่อป้องกันไม่ให้แผลเป็นนี้กลับมาเกิดขึ้นกับคุณอีกครั้ง
- แก้ไขการสักได้ยาก
เมื่อการสักคิ้วของคุณไม่เป็นดั่งใจหวัง ในการแก้ไขนั้นอาจเป็นไปได้ยากกว่าที่เคย เนื่องจากเป็นการสักคิ้วฝังสีถาวร จึงทำให้การแก้ไขจำเป็นต้องการใช้เทคนิคการเลเซอร์ ซึ่งอาจทำให้คุณเสียค่าใช้จ่ายเป็นจำนวนมาก และอาจทำให้คุณเจ็บตัว หรือระคายเคืองผิวหนังจากการเลเซอร์ได้
วิธีดูแลตนเอง ก่อนการสักคิ้ว และ หลังการสักคิ้ว
– ก่อนการสักคิ้ว –
คุณควรมีการเตรียมตัวให้พร้อมถึงสุขอนามัยตามที่สถานเสริมความงาม ซึ่งเบื้องต้นทางผู้เชี่ยวชาญอาจแนะนำให้คุณปฏิบัติตามคำแนะนำเหล่านี้
- หลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มที่ประกอบด้วยแอลกอฮอล์ และคาเฟอีน
- งดถอนขนคิ้ว หรือแว็กซ์ขน เป็นเวลา 2 วัน ก่อนการสักคิ้ว
- โปรดทำความสะอาดหนังศีรษะให้เรียบร้อยก่อนการเริ่มสักคิ้ว เพราะเนื่องจากคิ้วของคุณอาจโดนน้ำไม่ได้เป็นเวลาถึง 7 วัน
- หยุดการรับประทานยา และอาหารเสริมที่มีส่วนประกอบจากน้ำมันตับปลา วิตามินอี แอสไพริน หรือยาประเภทอื่น ๆ ตามที่ผู้เชี่ยวชาญแนะนำ
– หลังการสักคิ้ว –
หากคุณได้รับการสักเสร็จสิ้นสิ่งที่ผู้เชี่ยวชาญอาจให้คำแนะนำถึงวิธีการดูแลแผลหลังสัก เพื่อลดการอักเสบให้แก่คุณอีกครั้ง ดังนี้
- ใช้ปลายนิ้วล้างทำความสะอาดคิ้วเบา ๆ โดยใช้สบู่ต้านเชื้อแบคทีเรียจากนั้นรีบล้างออกด้วยน้ำ และรับทำการซับให้คิ้วแห้งสนิท
- รักษาผิวหนังหลังการสักด้วยครีมเพิ่มความชุ่มชื้น ในปริมาณที่น้อยที่สุด
- หลีกเลี่ยงการแต่งหน้าบริเวณคิ้วในขณะที่แผลกำลังทำการรักษาตนเองอยู่ เพื่อให้แผลโดยรอบสะอาดอยู่เสมอ
- งดการพบเจอแสงแดดอย่างน้อย 4 สัปดาห์อย่างต่ำ
- อย่าแกะสะเก็ดแผลหลังจากการสัก
อย่างไรก็ตาม สถาบันเสริมความงามอาจมีข้อกำหนดของการเตรียมตัว หรือการดูแผลสักที่แตกต่างกันออกไป คุณจึงควรสอบถามอย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อได้รับข้อมูลที่ถูกต้องในการป้องกันตนเองจากการติดเชื้อ และผลกระทบอื่น ๆ ต่อสุขภาพหลังการสักคิ้วตามมา
[embed-health-tool-bmi]