ไม่ว่าใครก็ล้วนแล้วแต่ต้องการที่จะมีชีวิตที่ดีขึ้นด้วยกันทั้งนั้น เพราะการมีชีวิตที่ดีขึ้น ย่อมหมายถึงการมีคุณภาพชีวิตที่ดีกว่าที่เป็นอยู่ มีสุขภาพกายสมบูรณ์ และมีสุขภาพจิตที่แจ่มใส แต่การจะมีชีวิตดี ๆ ได้นั้น ต้องเริ่มจากการปฏิวัติตัวเอง หยุดทำสิ่งที่ไม่เหมาะสม และเปลี่ยนแปลงตัวเองไปในทางที่ดีกว่าที่เป็น วันนี้ Hello คุณหมอ มีคำแนะนำ 15 สิ่งที่ไม่ควรทำเพื่อให้ชีวิตดีขึ้น ถ้าอยากแฮปปี้กับชีวิตที่ดีล่ะก็ไม่ควรพลาด
15 สิ่งที่ไม่ควรทำเพื่อให้ชีวิตดีขึ้น
โทษคนอื่น
หากต้องการมี ชีวิตที่ดี ก็อย่าโทษคนอื่นหรือแม้แต่โชคชะตาชีวิตของตัวเอง เพราะเมื่อคุณเป็นนายของตัวเอง หากคนอื่นเข้ามาทำให้ชีวิตของคุณยุ่งเหยิงแม้เพียงเสี้ยวหนึ่ง มันก็คือความผิดของคุณที่ปล่อยให้พวกเขาทำกับคุณ ฉะนั้นเลิกโทษคนอื่นเสียดีกว่า
เก็บความรู้สึกของตัวเอง
การเก็บความรู้สึกทุกครั้งอาจเป็นการกระทำที่ไม่ใช่เรื่องดีเสมอไป เพราะคงไม่มีใครเข้าใจคุณได้ตลอด หากคุณไม่แสดงความรู้สึกให้พวกเขาเห็นบ้าง การเก็บความรู้สึกไว้กับตัวเองนั้น อาจนำไปสู่การคิดเชิงลบ ควรหมั่นแสดงข้อคิดเห็นของคุณต่อสิ่งต่างๆ เปิดเผยความรู้สึกและแบ่งปันสิ่งที่อยู่ในใจให้ผู้อื่นได้รับรู้บ้าง
การนินทา
การพูดถึงคนอื่นลับหลังไม่ทำให้ชีวิตของคุณดีขึ้นเลย มีแต่จะนำไปสู่สถานการณ์ที่ทำร้ายความรู้สึกของคนอื่นโดยไม่ตั้งใจ และยังเป็นการทำลายความเชื่อใจ และความเคารพที่ผู้อื่นมีให้คุณอีกด้วย
ปล่อยให้คนอื่นข่มคุณ
ถึงแม้ว่าความสุภาพจะเป็นมารยาทสำคัญที่ทุกคนพึงมี แต่การเป็นคนสุภาพผิดที่ผิดทาง อาจเป็นการเปิดโอกาสให้ผู้อื่นทับถมคุณ หรือใช้คุณเป็นกระโถนรับความรู้สึก ดังนั้น สุภาพได้แต่จะต้องไม่อ่อนแอ
การวิ่งหนีเมื่อได้รับคำชม
นี่เป็นการกระทำของคนที่ไม่มีความมั่นใจ การมีความมั่นใจน้อยหรือไม่มีเลย อาจเป็นการปัดโอกาสดี ๆ ที่คนอื่นจะมอบให้ และท้ายที่สุดโอกาสนั้นอาจตกไปอยู่กับคนอื่น โดยที่คนนั้นอาจจะไม่ได้เก่งเท่าคุณ แต่มีความมั่นใจ และพร้อมที่จะพัฒนาตนเองอยู่เสมอ วันหนึ่งก็สามารถที่จะเก่งเท่าคุณหรือเก่งกว่าคุณก็ได้
การไม่ให้ความสนใจในสุขภาพของตน
สุขภาพเป็นปัจจัยสำคัญของการมี ชีวิตที่ดี การรับประทานอาหารขยะ ดื่มแอลกอฮอล์ สูบบุหรี่ การออกกำลังกายน้อยหรือการไม่ออกกำลังกายเลย สิ่งเหล่านี้เกี่ยวข้องกับชีวิตความเป็นอยู่ทั้งสิ้น เพราะเป็นพฤติกรรมที่ส่งผลต่อสุขภาพโดยตรง หากไม่ใส่ใจสุขภาพ จะมีแรงที่ไหนไปพัฒนาคุณภาพชีวิตของตนเอง
วิเคราะห์มากเกินไป
การวิเคราะห์ทุกสิ่งทุกอย่างที่เข้ามาในชีวิตนั้นไม่ใช่เรื่องดีเสมอไป เพราะนั่นอาจทำให้คุณกลายเป็นคนคิดมาก และคุณจะเริ่มคิดไปเรื่อย แล้วก็ไปคิดว่าคนอื่นอาจจะไม่ชอบคุณ ทำให้คุณเก็บเอาความคิดมากเหล่านั้นมากดดันและเครียดอยู่คนเดียว ถ้าหากคุณต้องการที่จะมีความสุขล่ะก็ อาการคิดมากแบบนี้ไม่ควรเก็บไว้
เชื่อว่าความคิดของผู้อื่นนั้นคือทุกสิ่งทุกอย่าง
การฟังคำแนะนำของคนอื่นนั้นเป็นสิ่งที่ดี แต่ ชีวิตที่ดี ของคุณ คุณต้องกำหนดเส้นทางของตัวเองได้ ไม่ควรเสียเวลากับการสนใจผู้อื่นมากจนเกินไป เพราะการเชื่อว่าความคิดของคนอื่นถูกต้องเสมอนั้นมันไม่จริงเสมอไป
เข้มงวดกับตัวเองมากเกินไป
การเข้มงวดกับตัวเองเป็นเรื่องที่ดี เพราะจะทำให้คุณเป็นคนมีวินัยทั้งต่อตนเองและผู้อื่น แต่การเข้มงวดที่มากจนเกินไป จะทำให้คุณเครียดและเสียสุขภาพจิตเปล่า ๆ
ทำอะไรอย่างไม่เต็มใจ
การจะทำอะไรก็ตาม ควรทำด้วยความเต็มใจ ยิ่งเป็นสิ่งที่ต้องการด้วยเเล้ว ควรตั้งใจทำอย่างเต็มที่ แทนที่จะยอมแพ้หรือเลิกพยายาม แต่ควรยอมรับศักยภาพที่มี และทำให้สุดความสามารถที่มีอยู่จะดีกว่า
เอารูปลักษณ์มาเหนือประสบการณ์
การมีรูปร่างหน้าตาที่ดี อาจเป็นใบเบิกทางที่สำคัญที่ทำให้มี ชีวิตที่ดี แต่ท้ายที่สุดศักยภาพ และความรู้ ความสามารถต่างหาก ที่จะทำให้คุณยืนอยู่ในสังคมได้อย่างภาคภูมิ
ตัดสินทุกอย่าง
การตัดสินผู้อื่นที่เดินผ่านหน้าคุณไปด้วยมาตรฐานชีวิตของคุณเอง ไม่ได้ก่อให้เกิดประโยชน์ใด ๆ ต่อผู้อื่นเลยสักนิด และแน่นอนว่า ตัวคุณเองก็ไม่ได้ประโยชน์อะไรจากการกระทำเช่นนั้นด้วย
ตามองแต่ที่โทรศัพท์
ยุคสมัยที่เทคโนโลยีก้าวไกลเช่นนี้การจะติดสมาร์ทโฟนก็คงจะไม่ใช่เรื่องแปลก แต่การแบ่งเอาเวลาที่มานั่งจ้องจอมือถือไปทำประโยชน์ต่อตนเองบ้าง ก็จะดีไม่น้อยเลยทีเดียว
การแต่งเรื่อง
การเล่าเรื่องที่ไม่เป็นความจริงเกี่ยวกับชีวิตนั้นเป็นสิ่งที่หลายคนมักจะทำกันบ่อยๆ แต่มันจะมีประโยชน์อะไรที่จะต้องอยู่กับสถานการณ์ปลอม ๆ ที่คุณสร้างขึ้นมา วันหนึ่งเมื่อความจริงปรากฎ ความสุขที่คุณสร้างมาก็จะหายวับไปในพริบตาเดียว
กลัวที่จะตอบรับประสบการณ์หรือโอกาสใหม่ๆ
การอยู่ในพื้นที่ปลอดภัยของตัวเอง มีความสุขตามอัตภาพ อาจเป็นสิ่งที่คุณมองว่าเพียงพอแล้ว แต่การออกไปรับประสบการณ์ใหม่ ๆ การทำสิ่งใหม่ ๆ อาจทำให้คุณพบกับโอกาสที่ดีกว่าที่เป็นอยู่ คุณอาจมี ชีวิตที่ดี กว่าเดิมก็ได้นะ