อยู่คนเดียวก็เหงา พอมีใครสักคนกลับอยากอยู่คนเดียว ลองถามใจตัวเองดูสิคะว่า ที่คุณโสดอยู่ทุกวันนี้ เป็นเพราะคุณยังไม่เจอคนที่ใช่ เหมือนเจอรองเท้าที่ถูกใจแต่ไม่มีไซต์ หรือแท้จริงในหัวใจดวงน้อยๆของคุณกลัวการผูกมัด กลัวการเสียใจอยู่กันแน่ หาคำตอบให้กับหัวใจของคุณได้แล้ววันนี้ กับ Hello คุณหมอค่ะ
ทำความรู้จักโรคกลัวการผูกมัด (Commitment Phobia)
โรคกลัวการผูกมัด เกิดขึ้นได้ทั้งในผู้หญิง และผู้ชาย โดยคนส่วนใหญ่คิดว่าโรคนี้คือคนที่ขาดความมั่นใจในตัวเอง คิดว่าตัวเองรูปร่างหน้าตาไม่ดี แต่จริงๆแล้วโรคนี้คือโรคหรือภาวะที่กลัวการตกลงใจที่จะทำพฤติกรรมร่วมกับผู้อื่นโดยมีคำสัญญาการผูกมัดในรูปแบบต่างๆ เช่น การคบกันในสถานะแฟน กลัวการแต่งงาน ถ้าฝ่ายตรงข้ามเร่งรัด ผูกมัด เพื่อต้องการคำตอบแล้วล่ะก็ จะทำให้ผู้ป่วยรู้สึกกระอักกระอ่วนใจ หวาดระแวง สุดท้ายความสัมพันธ์ที่มีต่อกันต้องเป็นอันจบลงในที่สุด
โรคกลัวการผูกมัด มีสาเหตุมาจากอะไรกันนะ
สาเหตุของโรคกลัวการผูกมัดนี้เกิดจากความฝังใจในอดีตที่ทำเราเสียใจมาก่อน เช่น การอกหักถูกคนรักทิ้งไปแบบไม่มีเหตุผล คู่รักไม่สนใจ โดนเพื่อนหักหลัง กลัวการเสียอิสระ และปัญหาความสัมพันธ์ที่ไม่ดีในครอบครัว เป็นต้น
5 สัญญาณเตือน ว่าคุณเป็นโรคกลัวการผูกมัด
- เป็นคนที่คาดเดาอะไรไม่ได้ มักเปลี่ยนแปลงความคิดอยู่ตลอดเวลา
- อยากมีความสัมพันธ์แบบคุยกับอีกฝ่ายไปเรื่อยๆ แต่ไม่อยากมีสถานะเป็นแฟน
- เมื่อความสัมพันธ์เริ่มจริงจังมากขึ้น จะรู้สึกลำบากใจ อยากหนีไปไกลๆ
- ชอบอยู่กับตัวเอง ไม่มีเพื่อนสนิท ไม่มีคนรู้จักเยอะ เพราะคิดว่าไม่มีใครน่าไว้ใจเท่ากับตัวเอง
- ไม่กล้าแสดงความรู้สึกต่อผู้อื่น เช่น ไม่เคยเอ่ยคำว่า รัก หรือ เรียกใครว่า แฟน
รับมืออย่างไร หากแฟนของคุณเป็นโรคกลัวการผูกมัด
- ทำกิจกรรมต่างๆ ร่วมกันมากขึ้น
- ศึกษานิสัยใจคอกันให้มากขึ้น พูดคุยบ่อยๆ ให้รู้ว่าเขาชอบอะไร ไม่ชอบอะไร
- ไม่เร่งรัดคนรัก ให้ความสัมพันธ์เป็นแบบค่อยเป็นค่อยไป
- ทำความเข้าใจซึ่งกันและกัน ปรับทัศนคติเรื่องความรักใหม่
อยากมีรักแบบจริงจัง จะออกจากโรคกลัวการผูกมัดได้อย่างไร
ขั้นแรกคุณต้องยอมรับตัวเอง ปล่อยให้อดีตที่เลวร้ายเป็นเพียงแค่อดีต หรือหากิจกรรมทำ เช่น ดูหนัง ฟังเพลง ออกกำลังกาย ออกไปสังสรรค์กับเพื่อนๆ เพื่อให้คุณไม่ต้องนึกถึงสิ่งเลวร้ายที่เกิดขึ้นกับคุณ อย่าปล่อยให้ความเจ็บปวดในอดีตมาบั่นทอนพลังในตัวคุณ จงปล่อยวางและมีความสุขกับปัจจุบัน
Hello Health Group ไม่ได้ให้คำปรึกษาด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค และการรักษาโรคแต่อย่างใด