การท้องไม่พร้อม เป็นสิ่งที่สามารถเกิดขึ้นได้ บางคนอาจตัดสินใจยุติการตั้งครรภ์ หรืออาจหาซื้อ ยายุติการตั้งครรภ์ มากินเอง ซึ่งอาจทำให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพ หรืออาจนำไปสู่การเสียชีวิตได้หากใช้อย่างไม่เหมาะสม ดังนั้น จึงควรปรึกษาคุณหมอหรือผู้เชี่ยวชาญ และศึกษาข้อมูลของยายุติการตั้งครรภ์อย่างเหมาะสม
[embed-health-tool-ovulation]
ข้อกำหนด “ยุติการตั้งครรภ์” ในหญิงอายุครรภ์ไม่เกิน 20 สัปดาห์
จากประกาศกระทรวงสาธารณสุข อนุญาตให้มีการยุติการตั้งครรภ์ ในหญิงที่มีอายุครรภ์ 12-20 สัปดาห์ โดยมาตรา 305(5) แห่งประมวลกฎหมายอาญา กำหนดให้หญิง ซึ่งมีอายุครรภ์เกิน 12 สัปดาห์ แต่ไม่เกิน 20 สัปดาห์ที่ประสงค์จะยุติการตั้งครรภ์ต้องได้รับการตรวจและรับคำปรึกษาทางเลือกจากผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม และผู้ประกอบวิชาชีพอื่น ก่อนตัดสินใจยืนยันที่จะยุติการตั้งครรภ์ เนื่องจากการยุติการตั้งครรภ์ ควรตัดสินใจบนพื้นฐานของข้อมูลที่ครบถ้วน และรอบด้าน
วิธีการยุติการตั้งครรภ์
ช่วงของอายุครรภ์มีความสำคัญต่อการเลือกวิธียุติการตั้งครรภ์ที่แตกต่างกัน เช่น
- อายุครรภ์น้อยกว่า 12 สัปดาห์ : ใช้ยายุติการตั้งครรภ์ หรือแพทย์จะใช้เครื่องดูดสุญญากาศ มีลักษณะเป็นกระบอก โดยใส่หลอดดูดเข้าไปในโพรงมดลูก
- อายุครรภ์มากกว่า 12 สัปดาห์ : ใช้ยายุติการตั้งครรภ์ ปริมาณหรือขนาดของยายุติการตั้งครรภ์จะน้อยลงตามอายุครรภ์ที่เพิ่มขึ้น โดยกำหนดช่วงห่างของการใช้ตามพัฒนาการของอาการและอายุครรภ์ ภายใต้ความควบคุมและดูแลโดยแพทย์อย่างใกล้ชิด
ยายุติการตั้งครรภ์ คืออะไร
ยายุติการตั้งครรภ์ ตัวยาจะช่วยหยุดการเจริญเติบโตของตัวอ่อนในครรภ์ เข้าขัดขวางการทำงานของฮอร์โมนตัวสำคัญที่ชื่อว่า ฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน ไข่ที่ได้รับการปฏิสนธิจึงไม่สามารถฝังตัวในผนังมดลูก ส่งผลให้มดลูกเกิดการบีบตัวและขับเนื้อเยื่อออกจากมดลูก
ยายุติการตั้งครรภ์ แบบกิน คือตัวไหน
องค์การอนามัยโลกยอมรับและขึ้นทะเบียนตัวยา 2 ชนิด ในประเทศไทย ได้แก่
- ยาไมเฟพริสโตน (Mifepristone) : ยาไมเฟพริสโตน 200 มิลลิกรัม 1 เม็ด เป็นยายุติการตั้งครรภ์ แบบกิน วิธีใช้คือ กินตัวยาแล้วดื่มน้ำตาม ทำให้เกิดการแท้งตั้งแต่ช่วงเริ่มตั้งครรภ์ไปจนถึงสัปดาห์ที่ 10 ของการตั้งครรภ์ ตัวยาไมเฟพริสโตนจะเข้าไปขัดขวางฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่จำเป็นต่อการตั้งครรภ์ มักใช้ร่วมกับยาไมโซพรอสทอล (Misoprostol)
- ยาไมโซพรอสทอล (Misoprostol) : ยาไมโซพรอสทอล 800 ไมโครกรัม หรือขนาด 200 ไมโครกรัม 4 เม็ด จะใช้หลังจากใช้ยาไมเฟพริสโตนแล้ว ตัวยาทำให้เกิดการบีบตัวของมดลูก ช่วยขับเนื้อเยื่อออกจากมดลูก เป็นยายุติการตั้งครรภ์ แบบกิน เช่นกัน แต่ไม่ใช่การกลืนทันที การใช้ยาชนิดนี้ต้องอมไว้ใต้ลิ้นห้ามกลืน หรืออมในกระพุ้งแก้ม รอให้ยาละลายหมดแล้วค่อยกลืน และดื่มน้ำตาม หรือใช้ยาในการเหน็บช่องคลอด ตัวยายังป้องกันไม่ให้กระเพาะอาหารเป็นแผลขณะที่ใช้ยาชนิดอื่น เช่น ไอบูโพรเฟน แอสไพริน และนาพรอกเซน ซึ่งเป็นยาที่ควรกินเพื่อระงับการปวด
ยาทั้ง 2 ตัวนี้เป็นยาควบคุมพิเศษ ภายใต้การดูแลของแพทย์ โดยตัวยาอาจส่งผลข้างเคียง เช่น
- คลื่นไส้ อาเจียน
- วิงเวียนศีรษะ
- ปวดหัว
- ท้องเสีย
- มีเลือดออกทางช่องคลอด
หากอาการข้างเคียงเกิน 24 ชั่วโมง หรือมีอาการรุนแรง เช่น มีไข้เกิน 38 องศาเซลเซียส ปวดท้อง หัวใจเต้นเร็ว เป็นลม เกิดภาวะขาดน้ำ กล้ามเนื้ออ่อนแรง ให้รีบปรึกษาแพทย์
ข้อควรระวังก่อนใช้ยายุติการตั้งครรภ์ แบบกิน
- ผู้มีโรคประจำตัวหรือสุขภาพไม่แข็งแรงควรปรึกษาแพทย์อย่างใกล้ชิด เช่น ต่อมหมวกไตวายเรื้อรัง เป็นโรคหอบหืดอย่างรุนแรงไม่สามารถควบคุมได้ด้วยยา หรือเป็นโรค Inherited Porphyria
- มีประวัติแพ้หรือไวต่อยา 2 ชนิดนี้
- มีประวัติการแพ้ยาในกลุ่ม Prostaglandins
- เกิดการตั้งครรภ์นอกมดลูก หรือสงสัยว่าจะตั้งครรภ์นอกมดลูก