ตุ่มนูนแดง คัน โดยเฉพาะที่เกิดบริเวณอวัยวะเพศ เป็นอาการร่วมที่พบได้บ่อยในหลายโรค ไม่ว่าจะเป็นเริม ผิวหนังอักเสบภูมิแพ้ หูดข้าวสุก สังคัง ทั้งนี้ อาการตุ่มนูนแดง คัน สามารถป้องกันได้ด้วยการรักษาความสะอาดบริเวณอวัยวะเพศสม่ำเสมอ มีเพศสัมพันธ์อย่างปลอดภัย และหลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่อาจทำให้ผิวหนังบริเวณอวัยวะเพศระคายเคือง หรือเกิดอาการแพ้ได้
[embed-health-tool-ovulation]
ตุ่มนูนแดง คัน เป็นอาการของโรคอะไร
หากพบ ตุ่มนูนแดง คัน บริเวณอวัยวะเพศ อาจเป็นอาการของโรคดังต่อไปนี้
- เริม (Genital Herpes) เกิดจากการติดเชื้อไวรัสเฮอร์ปีส์ซิมเพล็กซ์ (Herpes Simplex Virus หรือ HSV) ชนิดที่ 1 หรือ 2 ซึ่งมักแพร่กระจายระหว่างมีเพศสัมพันธ์ ผ่านการสัมผัสตุ่มนูนแดง หรือแผลพุพอง ซึ่งเป็นอาการของโรค รวมถึงผ่านน้ำลายและสารคัดหลั่งของคู่นอน นอกจากนี้ เมื่อเป็นเริม อาจพบอาการอื่น ร่วมด้วย ได้แก่ อาการแสบร้อนบริเวณผิวหนังที่ติดเชื้อ ปวดเมื่อยตามร่างกาย ไข้ขึ้น ต่อมน้ำเหลืองโต
- หูดข้าวสุก (Molluscum Contagiosum) เกิดจากเชื้อไวรัสพอกซ์ (Poxvirus) ที่ติดต่อกันจากคนสู่คนผ่านการสัมผัสทางผิวหนัง การมีเพศสัมพันธ์ รวมถึงการใช้สิ่งของร่วมกัน อาการของหูดข้าวสุก คือมีตุ่มนูนแดงขนาดเล็ก และอาจขึ้นกระจายมากกว่าหนึ่งจุดตามร่างกาย ทั้งใบหน้า ลำคอ รักแร้ หลังมือ ต้นขา อวัยวะเพศและอาจมีอาการคันร่วมด้วย
- ปลายอวัยวะเพศชายอักเสบ (Balanitis) เป็นอาการป่วยที่พบได้ ในอัตรา 10 เปอร์เซ็นต์ของจำนวนเพศชายทั้งหมด ปลายอวัยวะเพศชายอักเสบ เกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่นเชื้อรา โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ โรคเบาหวาน การแพ้สบู่หรือสารต่าง ๆ ทั้งนี้ อาการของปลายอวัยวะเพศชายอักเสบ ได้แก่ เกิดตุ่มนูนแดงและอาการคัน ร่วมกับรู้สึกเจ็บปวดเมื่อปัสสาวะ องคชาตมีกลิ่นเหม็น และพบสารข้นเหนียว (Smegma) หรือขี้เปียก ใต้หนังหุ้มปลายองคชาต
- สังคัง (Jock Itch) เป็นโรคผิวหนังที่พบในเพศชายมากกว่ากว่าเพศหญิง เกิดจากเชื้อรากลุ่มเดอมาโทไฟท์ (Dermatophytes) ที่เติบโตได้ดีในบริเวณที่อบอุ่นและอับชื้น เช่น ขาหนีบ ต้นขาด้านใน อวัยวะเพศ ทวารหนัก โดยเฉพาะในกรณีของนักกีฬา ที่บริเวณดังกล่าวชุ่มเหงื่ออยู่เสมอ
- ผิวหนังอักเสบภูมิแพ้บริเวณอวัยวะเพศ (Genital Eczema) เป็นโรคที่เกี่ยวข้องกับความผิดปกติของยีน หรือพันธุกรรม ทำให้ผิวหนังปกป้องร่างกายจากสารก่อภูมิแพ้ได้ไม่ดีเท่าคนทั่วไป อาการที่พบบ่อย ประกอบด้วย ตุ่มบวมแดง ปื้นแดง ผิวหนังแห้ง และอาการคันอย่างรุนแรง ซึ่งมักเกิดขึ้นตอนกลางคืน ทั้งนี้ สารก่อภูมิแพ้ที่สามารถกระตุ้นให้ผิวหนังอักเสบภูมิแพ้แสดงอาการได้ อาจพบได้ในสารที่เป็นส่วนประกอบของสบู่ ครีมอาบน้ำ ผลิตภัณฑ์ซักผ้า น้ำหอม รวมถึงน้ำยางพาราซึ่งเป็นวัตถุดิบหลักในการผลิตถุงยางอนามัย
ตุ่มนูนแดง คัน รักษาได้อย่างไร
เมื่อเป็นตุ่มนูนแดง คันบริเวณอวัยวะเพศ คุณหมอจะรักษาตามสาเหตุ ด้วยวิธีการดังต่อไปนี้
- รับประทานยา ในกรณีของเริม คุณหมอจะให้คนไข้รับประทานยา เพื่อให้อาการของโรคหายเร็วขึ้น อย่างไรก็ตาม เริมสามารถเป็นซ้ำได้ แต่อาการมักไม่ค่อยรุนแรงเท่าครั้งแรก นอกจากนี้ ในกรณีของโรคผิวหนังอักเสบภูมิแพ้ หากได้รับการวินิจฉัยว่าอาการของโรคมีความรุนแรง คุณหมออาจเลือกจ่ายยาคอร์ติโคสเตียรอยด์ (Corticosteroids) ให้ เพื่อลดการอักเสบของผิวหนัง
- ทาครีม ในการรักษาโรคสังคัง และปลายอวัยวะเพศชายอักเสบจากเชื้อรา อาจใช้ผลิตภัณฑ์ต้านเชื้อราในรูปแบบอื่น ๆ อย่างแป้งฝุ่น โลชั่น สเปรย์
- ขูดผิวหนัง หรือใช้เลเซอร์จี้ออก ในกรณีของหูดข้าวสุก คุณหมออาจแนะนำให้คนไข้กำจัดเม็ดหูด ด้วยการขูดออก หรือการบำบัดด้วยความเย็น (Cryotherapy) หรืออาจใช้เลเซอร์จี้ออก แทนการปล่อยให้หายเองเพราะ ซึ่งอาจใช้เวลานานกว่าประมาณ 6-12 เดือน หรือยาวนานถึง 5 ปี แต่การใช้เลเซอร์อาจเกิดผลข้างเคียงคือ รู้สึกเจ็บปวด ระคายเคือง และมีรอยแผลเป็น ทั้งนี้ ผู้ป่วยไม่ควรพยายามกำจัดหูดข้าวสุกออกด้วยตัวเองเด็ดขาดเพราะอาจทำให้ติดเชื้อได้
- ขลิบปลายองคชาต หากมีภาวะปลายอวัยวะเพศชายอักเสบบ่อยครั้ง คุณหมออาจแนะนำให้ขลิบหนังหุ้มปลายออก เพื่อให้ปลายองคชาตง่ายต่อการทำความสะอาด ช่วยลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อต่าง ๆ
ตุ่มนูนแดง คัน ป้องกันได้อย่างไร
ตุ่มนูนแดง รวมถึงอาการคัน บริเวณอวัยวะเพศทั้งในเพศหญิงและชาย สามารถป้องกันได้ ด้วยวิธีการต่อไปนี้
- สวมถุงยางอนามัยทุกครั้งเมื่อมีเพศสัมพันธ์ เพื่อลดโอกาสการเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ อย่างเริมหรือหูดข้าวสุก สำหรับผู้ที่แพ้ยางพารา สามารถเลือกสวมถุงยางอนามัย ซึ่งทำจากวัสดุสังเคราะห์ เช่น พอลิยูรีเทน (Polyurethane) พอลิไอโซพรีน (Polyisoprene) ได้
- จำกัดจำนวนคู่นอน หรือให้มีคู่นอนเพียงคนเดียวในแต่ละช่วงเวลา และพูดคุยถึงปัญหาสุขภาพและปัญหาทางเพศต่าง ๆ อย่างเปิดเผย เพื่อสร้างความเชื่อใจในการมีเพศสัมพันธ์ที่ปลอดภัย และลดโอกาสเกิดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อันเป็นสาเหตุหลักของตุ่มนูนแดง คัน
- หลีกเลี่ยงการใช้สิ่งของส่วนตัวร่วมกับผู้อื่น เช่น ผ้าเช็ดตัว เครื่องนอน หวี เพราะอาจเป็นพาหะของโรคหูดข้าวสุกและสังคัง
- รักษาความสะอาดบริเวณอวัยวะเพศ ด้วยการอาบน้ำเป็นประจำอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง และเช็ดตัวให้แห้ง เพื่อลดโอกาสติดเชื้อราบริเวณอวัยวะเพศ นอกจากนี้ ในการอาบน้ำ ควรเลือกใช้สบู่หรือครีมอาบน้ำที่อ่อนโยนต่อผิวหนัง เพื่อป้องกันการแพ้หรือสร้างความระคายเคืองให้ผิวหนังบริเวณอวัยวะเพศซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งของตุ่มนูนแดง คัน