เทคฮอร์โมนชาย เป็นการนำฮอร์โมนเพศชายหรือฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนเข้าสู่ร่างกายของเพศหญิงที่ต้องการเป็นผู้ชายหรือผู้ชายข้ามเพศ ผ่านการฉีด การใช้ครีม หรือแผ่นแปะ เพื่อให้ร่างกายมีลักษณะต่าง ๆ ของเพศชาย ทั้งเสียงที่ทุ้มใหญ่ หนวดที่หนาดก ขนตามลำตัวที่มากขึ้น และมวลกล้ามเนื้อที่มากกว่าเดิม อย่างไรก็ตาม การเทคฮอร์โมนชายอาจก่อให้เกิดผลข้างเคียงต่อสุขภาพ เช่น หัวล้าน สิวขึ้น เกิดภาวะหยุดหายใจขณะหลับ ความดันโลหิตสูง ก่อนตัดสินใจเทคฮอร์โมนชาย ควรศึกษาข้อมูลให้ละเอียดและปรึกษาคุณหมอเพื่อหาวิธีรับมือกับผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้
[embed-health-tool-ovulation]
เทคฮอร์โมนชาย มีประโยชน์อย่างไร
การเทคฮอร์โมนชาย เป็นการเปลี่ยนลักษณะทางกายภาพของผู้หญิงที่อยากเป็นผู้ชายหรือผู้ชายข้ามเพศ ให้ดูเหมือนกับเพศชายยิ่งขึ้น ด้วยการฉีดฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน หรือทาครีม หรือใช้แผ่นแปะ เพื่อให้เสียงทุ้มใหญ่ มีหนวดเคราขึ้น มีขนขึ้นดกหนาตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย และมีมวลกล้ามเนื้อมากกว่าเดิม
การเทคฮอร์โมนชายอาจเริ่มได้ตั้งแต่อายุ 16 ปี และหากต้องการให้ตนเองมีลักษณะของเพศชายอยู่ตลอด จำเป็นต้องเทคฮอร์โมนอย่างต่อเนื่อง หรือทุก ๆ 2-4 สัปดาห์ หากหยุดเทคฮอร์โมน ลักษณะต่าง ๆ ของเพศชายจะค่อย ๆ หายไป
ทั้งนี้ การเทคฮอร์โมนชายอาจไม่เหมาะกับผู้ชายข้ามเพศทุกคน โดยผู้ที่ไม่ควรเทคฮอร์โมนชาย คือ
- ผู้ป่วยมะเร็งชนิดที่อ่อนไหวต่อการเปลี่ยนแปลงต่อระดับฮอร์โมนในร่างกาย เช่น มะเร็งเต้านม มะเร็งรังไข่
- ผู้ที่เป็นโรคเกี่ยวกับการอุดตันของหลอดเลือด
- ผู้ที่กำลังตั้งครรภ์หรืออยู่ในระยะให้นมบุตร
- ผู้ที่มีความดันโลหิตสูงอยู่แล้ว
เทคฮอร์โมนชายเมื่อไรจึงจะเห็นผล
เมื่อเทคฮอร์โมนชายแล้ว ลักษณะของเพศชายต่าง ๆ จะเริ่มปรากฏหลังจากระยะเวลาผ่านไป ดังนี้
- เสียงทุ้มใหญ่ จะเริ่มปรากฏหลังจากเทคฮอร์โมนไปแล้วประมาณ 3-12 เดือน
- ขนตามใบหน้าและลำตัวที่ดกขึ้น จะเริ่มปรากฏหลังจากเทคฮอร์โมนไปแล้ว 3-6 เดือน
- ไขมันตามลำตัวที่ลดลง จะเริ่มปรากฏหลังจากเทคฮอร์โมนไปแล้ว 3-6 เดือน
- มวลกล้ามเนื้อและความแข็งแรงที่เพิ่มขึ้น จะเริ่มปรากฏหลังจากเทคฮอร์โมนไปแล้ว 6-12 เดือน
เทคฮอร์โมนชาย ก่อให้เกิดผลข้างเคียงอย่างไร
เมื่อเทคฮอร์โมนชายแล้ว อาจก่อให้เกิดผลข้างเคียงต่าง ๆ ดังนี้
- สิวและผิวมันมากขึ้น จะเริ่มมีอาการหลังจากเทคฮอร์โมนไปแล้ว 1-6 เดือน
- ประจำเดือนไม่มา จะเริ่มมีอาการหลังจากเทคฮอร์โมนไปแล้ว 2-6 เดือน
- ผมร่วงหรือหัวล้าน จะเริ่มมีอาการหลังจากเทคฮอร์โมนไปแล้วประมาณ 1 ปี
- คลิตอริส หรือปุ่มกระสัน มีขนาดใหญ่ขึ้น จะเริ่มมีอาการหลังจากเทคฮอร์โมนไปแล้ว 3-6 เดือน
นอกจากนั้น เมื่อเทคฮอร์โมนชายแล้วอาจเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดผลกระทบต่อสุขภาพ ดังนี้
- โรคมะเร็ง
- โรคไขมันในเลือดสูง
- ภาวะเม็ดเลือดแดงมากกว่าปกติ
- ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ
- ภาวะความดันโลหิตสูง
- นิ่วในถุงน้ำดี
- น้ำหนักลด
- หลอดเลือดดำอุดตัน
- อารมณ์ทางเพศเพิ่มขึ้น