โดยปกติแล้ว ผมของคนเราจะร่วงประมาณวันละ 100-150 เส้นต่อวัน แต่หากผมหลุดร่วงมากจนทำให้มีเส้นผมบนหนังศีรษะน้อยหรือ ผมบาง กว่าปกติ อาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น กรรมพันธุ์ การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในร่างกาย การขาดสารอาหาร โรคบางชนิด การใช้ยารักษาโรค ความเครียด ซึ่งอาจรักษาได้ด้วยการแก้ไขตามสาเหตุที่ทำให้เกิดปัญหาผมบาง เช่น การใช้ยารักษา การปรับวิธีดูแลเส้นผมอย่างการหลีกเลี่ยงการใช้ความร้อนและสารเคมี การจัดการกับความเครียด รวมไปถึงรับการรักษาจากคุณหมอผิวหนัง
ผมบาง เกิดจากอะไร
ผมบางอาจเกิดจากปัจจัยต่อไปนี้
- กรรมพันธุ์ ผู้ที่มีคนในครอบครัวมีประวัติผมบาง มักเสี่ยงเกิดปัญหาผมบางได้เช่นกัน
- การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน ภาวะสุขภาพ เช่น การตั้งครรภ์ การเข้าสู่วัยหมดประจำเดือน ปัญหาเกี่ยวกับต่อมไทรอยด์ มักส่งผลให้ระดับฮอร์โมนในร่างกายเปลี่ยนแปลง จนอาจนำไปสู่ปัญหาผมร่วงหรือผมบางลงได้
- พฤติกรรมการรับประทานอาหาร การอดอาหารและการได้รับสารอาหารบางชนิดไม่เพียงพอ เช่น ธาตุเหล็ก โปรตีน ร่วมกับการเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมน อาจทำให้เกิดภาวะผมร่วงทั่วศีรษะ (Telogen Effluvium) ที่ทำให้เส้นผมหลุดร่วงเร็วกว่าวงจรเส้นผมตามปกติ ผมจึงร่วงง่ายและบางลง
- โรคบางชนิด เช่น โรคผมร่วงเป็นหย่อม (Alopecia areata) เป็นโรคที่เกี่ยวข้องความบกพร่องของระบบภูมิคุ้มกันจนทำให้ผมร่วงเป็นหย่อม ๆ โรคดึงผมตนเอง (Trichotillomania) เป็นโรคทางจิตที่ทำให้ผู้ป่วยดึงผมตัวเองทั้งโดยตั้งใจและไม่ตั้งใจ โรคกลาก (Ringworm) เป็นโรคติดเชื้อราบนผิวหนังที่อาจเกิดขึ้นที่บริเวณหนังศีรษะจนทำให้ผมหลุดร่วงและบางลง
- ผลข้างเคียงจากการใช้ยารักษาโรค เช่น การรักษามะเร็งด้วยยาเคมีบำบัด (คีโม) การฉายแสง ยารักษาโรคข้ออักเสบ ยารักษาโรคซึมเศร้า ยารักษาโรคหัวใจ ยารักษาโรคเกาต์ ยารักษาโรคความดันโลหิตสูง อาจส่งผลให้ผมร่วงและบางลงได้
- ความเครียดและวิตกกังวล การเผชิญความเครียดหรือเหตุการณ์สะเทือนอารมณ์ อาจส่งผลต่อการทำงานของรากผม ทำให้รากผมเข้าสู่ระยะพักตัวและไม่ผลิตผมใหม่ เมื่อผมร่วงไปแล้ว กลับไม่มีผมเส้นใหม่งอกขึ้นมาจากรูขุมขนนั้น ๆ เส้นผมบนศีรษะจึงอาจบางลง
- การทำผมและทรีตเมนต์ผม การทำทรงผมที่ดึงรัดผมแน่นจนเกินไปเป็นเวลานาน เช่น ผมเปีย ผมหางม้า ผมทรงคอร์นโรล อาจทำให้ผมหลุดร่วงง่ายและส่งผลให้ผมบางลงได้ นอกจากนี้ การทำทรีตเมนต์อย่างการหมักผมด้วยน้ำมัน (Hot oil treatment) การยืดผมถาวร การฟอกสีผม ก็อาจทำให้ผมเปราะง่าย หลุดร่วงง่าย และทำให้เส้นผมบนหนังศีรษะบางลงได้เช่นกัน
สัญญาณของภาวะผมบางผิดปกติ
สัญญาณของภาวะผมบางผิดปกติ อาจมีดังนี้
- ผมบริเวณกลางกระหม่อมร่วงเยอะจนมองเห็นหนังศีรษะเป็นจุดกลม ๆ ชัดเจน
- ผมดูบางลงอย่างเห็นได้ชัด
- มีผมหลุดร่วงออกมาขณะหวีผมหรือสระผมมากผิดปกติ
- มีผมร่วงเป็นหย่อม ๆ
- มีเกล็ดหรือสะเก็ดผิวหนังที่กระจายอยู่ทั่วหนังศีรษะ อาจเป็นสัญญาณของโรคกลากที่ทำให้เกิดอาการคัน หนังศีรษะลอกออกเป็นรังแค ผมหลุดร่วงและบางลง
วิธีรักษาภาวะ ผมบาง
วิธีรักษาผมบาง อาจทำได้ดังนี้
- การใช้ยาไมนอกซิดิล (Minoxidil) เป็นยารักษาผมบางในรูปแบบโฟมหรือน้ำยา มีฤทธิ์ขยายหลอดเลือด ทำให้มีออกซิเจนไปหล่อเลี้ยงหนังศีรษะ ช่วยกระตุ้นให้ผมงอกใหม่และเติบโตได้เร็วขึ้น อาจต้องใช้ต่อเนื่องหลายเดือน ถึงจะทำให้ผมที่บางดูหนาขึ้น
- การใช้ยาฟิแนสเทอไรด์ (Finasteride) เป็นยาเม็ดขนาด 1 มิลลิกรัม ที่ช่วยรักษาอาการผมร่วงจากกรรมพันธุ์และฮอร์โมนเพศชาย ช่วยกระตุ้นให้เส้นผมใหม่งอกและป้องกันเส้นผมขาดร่วงก่อนเวลา อาจต้องใช้ต่อเนื่องหลายเดือนและใช้ร่วมกับยาไมนอกซิดิลได้ ทั้งนี้ ควรปรึกษาคุณหมอหรือเภสัชกรก่อนใช้ยา เนื่องจากอาจมีผลข้างเคียงบางประการ เช่น อาการทางจิตเวช ภาวะความต้องการทางเพศลดลง
- การใช้ยาสไปโรโนแลคโตน (Spironolactone) เป็นยาขับปัสสาวะที่ช่วยลดฮอร์โมนแอนโดรเจนซึ่งเป็นฮอร์โมนเพศชายที่ทำให้ผมร่วง ยานี้ช่วยยับยั้งไม่ให้ผมร่วงมากขึ้น แต่อาจไม่ช่วยกระตุ้นให้ผมงอกใหม่ จึงอาจต้องใช้ร่วมกับยาตัวอื่น ๆ เช่น ยาฟิแนสเทอไรด์ ทั้งนี้ ควรปรึกษาคุณหมอก่อนใช้ยา
- การใช้เข็มขนาดเล็กหรือไมโครนีดเดิ้ล (Microneedle) การใช้เข็มขนาดเล็กจิ้มลงบนหนังศีรษะจะกระตุ้นการเจริญเติบโตของเส้นผม ช่วยให้เส้นผมบนศีรษะงอกขึ้นมาใหม่ อาจต้องทำหลายครั้งจึงจะเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน
- การเลเซอร์ การยิงเลเซอร์ความเข้มข้นต่ำเพื่อกระตุ้นการเจริญเติบโตของเซลล์รากผม อาจช่วยให้ผมหนาขึ้นและหลุดร่วงน้อยลงได้
- การบำบัดด้วยแสงพลังงานต่ำ ( Low Level Light Therapy)
การป้องกันไม่ให้ผมบางและหลุดร่วง
การดูแลตัวเองเพื่อป้องกันภาวะผมบาง อาจทำได้ดังนี้
- ดูแลเส้นผมอย่างอ่อนโยน หากผมพันกันให้ใช้มือหรือหวีซี่ห่างสางผมเบา ๆ ควรสางผมก่อนสระผม ไม่ใช้แรงมากเกินไปขณะแปรงและหวีผม โดยเฉพาะขณะที่ผมเปียก
- นวดหนังศีรษะเบา ๆ โดยเฉพาะในตอนสระผม อาจช่วยกระตุ้นการไหลเวียนเลือดบริเวณหนังศีรษะ และป้องกันผมขาดหลุดร่วงได้
- หลีกเลี่ยงการทำผมโดยใช้ความร้อนและสารเคมี เช่น การใช้ไดร์เป่าผม ที่หนีบผม หรือเครื่องม้วนผมที่มีความร้อนสูง การยืดผมถาวร การฟอกสีผม การหมักผมด้วยน้ำมัน
- หลังสระผมควรบำรุงผมด้วยครีมนวดผม โดยชโลมครีมนวดที่ปลายผมประมาณ 15 เซนติเมตร ระวังอย่าให้ครีมนวดผมโดนหนังศีรษะ เพราะอาจทำให้หนังศีรษะมันและส่งผลให้ผมร่วงได้
- ใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงเส้นผมที่ช่วยให้ผมหนาและแข็งแรงขึ้น ไม่หลุดร่วงง่าย
- รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ หลากหลาย และมีสารอาหารครบถ้วน
- ดูแลสุขภาพจิตของตัวเองและจัดการกับความเครียดให้ดี หากเกิดปัญหาหรือเครียด อาจลองพูดคุยกับคนรอบข้าง ทำกิจกรรมที่สนใจเพื่อคลายเครียด ขอคำปรึกษาจากจิตแพทย์ เมื่อสุขภาพจิตดี ไม่เครียด อาจช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดภาวะผมบางได้
- ปรึกษาคุณหมอเมื่อจำเป็นต้องใช้ยารักษาโรคที่อาจทำให้เกิดภาวะผมร่วงและผมบาง