Thermage หรือเทอร์มาจ เป็นวิธีกระชับผิวหนังและลดริ้วรอยแห่งวัย ด้วยการส่งคลื่นวิทยุซึ่งเป็นพลังงานความร้อนผ่านอุปกรณ์เฉพาะไปยังผิวหนัง เพื่อกระตุ้นให้ร่างกายสร้างโปรตีนคอลลาเจน ช่วยให้ผิวหนังเต่งตึงขึ้น ทั้งนี้ ผลลัพธ์ของเทอร์มาจจะเริ่มเห็นชัดภายใน 3-6 เดือนหลังเข้ารับบริการ จุดเด่นของเทอร์มาจคือ มักเห็นผลได้จากการทำเพียงครั้งเดียว ไม่เกิดแผลหลังทำ และไม่ต้องพักฟื้น แต่ราคาค่อนข้างสูง ก่อนตัดสินใจเข้าทำเทอร์มาจ จึงควรศึกษาข้อมูล ความเสี่ยง และข้อควรระวังให้ดีเสียก่อน
[embed-health-tool-bmi]
Thermage คืออะไร
เทอร์มาจ เป็นเทคโนโลยีกระชับผิว ด้วยการส่งพลังงานความร้อนจากคลื่นวิทยุความถี่สูงไปยังชั้นผิวหนังส่วนลึก เพื่อกระตุ้นให้ร่างกายสร้างคอลลาเจนเพิ่มขึ้น ซึ่งจะช่วยลดริ้วรอยแห่งวัย และทำให้ผิวหนังที่หย่อนคล้อยเต่งตึงขึ้น
ทั้งนี้ ผิวหนังบริเวณที่สามารถทำเทอร์มาจได้ ประกอบด้วย ใบหน้า คอ แขน หัวเข่า สะโพก และหน้าท้อง
ขั้นตอนการทำ
ขั้นตอนการกระชับผิวด้วยเทคโนโลยีเทอร์มาจ มีดังต่อไปนี้
- คุณหมอหรือผู้เชี่ยวชาญทำความสะอาดผิวหนังบริเวณที่ต้องการทำเทอร์มาจ
- คุณหมอหรือผู้เชี่ยวชาญทาหรือสเปรย์ยาชาบนใบหน้าเพื่อลดความเจ็บปวด
- คุณหมอหรือผู้เชี่ยวชาญแนบเครื่องมือเฉพาะบนใบหน้า เพื่อส่งคลื่นวิทยุความถี่สูงลงไปยังชั้นผิวหนังส่วนลึก ทั้งนี้ ระหว่างการทำเทอร์มาจ ผิวหนังชั้นที่อยู่ลึกลงไปบริเวณที่สัมผัสกับเครื่องจะรู้สึกร้อนเป็นช่วงสั้น ๆ
- คุณหมอหรือผู้เชี่ยวชาญมักใช้เวลาทำเทอร์มาจประมาณ 30 นาที-2 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับสภาพผิวหนังของแต่ละราย
- เมื่อทำเทอร์มาจเสร็จแล้ว ผู้เข้ารับบริการสามารถกลับบ้านได้เลย
Thermage มีผลข้างเคียงหรือไม่
หลังทำเทอร์มาจ ผิวหนังอาจมีอาการข้างเคียงที่มักหายได้เองภายใน 1-2 วัน ได้แก่
- ผิวหนังรอบ ๆ บริเวณที่ทำอาจแดงหรือบวมได้ แต่มักหายไปภายใน 24 ชั่วโมง
- อาจเกิดสีผิวเข้มขึ้นในบางราย
- อาจเกิดอาการคันยิบ ๆ ในบางราย
ใช้เวลานานเท่าไหร่จึงจะเห็นผล
ผลลัพธ์ของเทอร์มาจ มักเริ่มเห็นภายในช่วง 3-6 เดือนแรกหลังทำ และคงอยู่เป็นเวลาประมาณ 1-2 ปี โดยขึ้นอยู่กับสภาพผิวหรือสุขภาพของแต่ละคน อย่างไรก็ตาม เพื่อให้เห็นผลลัพธ์ของเทอร์มาจอย่างเต็มประสิทธิภาพ ควรปฏิบัติตามคำแนะนำต่อไปนี้
- หากเคยเข้ารับบริการเพื่อกระชับผิวหน้าหรือลดเลือนริ้วรอยมาแล้ว ไม่ว่าด้วยวิธีใดก็ตาม ควรเว้นระยะ 4 สัปดาห์หรือมากกว่านั้นก่อนทำเทอร์มาจ เพราะหากเว้นระยะน้อยกว่านั้น ผิวหนังอาจเสี่ยงเกิดความเสียหายได้
- ดื่มน้ำในปริมาณมาก และอย่างสม่ำเสมอ เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวหนัง
- พักผ่อนให้เพียงพอและหลีกเลี่ยงความเครียด
- ดูแลและปกป้องผิวจากแสงแดด ด้วยการทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF 50 ขึ้นไป ก่อนออกจากบ้านหรือเมื่อต้องทำกิจกรรมกลางแจ้ง
ข้อดีของการทำเทอร์มาจ
- ไม่ก่อให้เกิดแผลหลังทำ
- ไม่รู้สึกเจ็บระหว่างทำ เพราะใช้ยาชา
- ไม่ต้องพักฟื้น หรือใช้เวลาพักฟื้นน้อยมาก
- เห็นผลดีขึ้นระดับหนึ่งหลังทำเพียง 1 ครั้ง
ข้อเสียของการทำเทอร์มาจ
- ราคาค่อนข้างสูง
- ใช้เวลานานประมาณ 6 เดือนจึงจะเห็นผลลัพธ์ชัดเจนที่สุด
Thermage ไม่เหมาะกับใคร
ส่วนใหญ่ คนทั่วไปสามารถเข้ารับการกระชับผิวด้วยเทคโนโลยีเทอร์มาจได้ ยกเว้นกลุ่มบุคคลเหล่านี้
- หญิงตั้งครรภ์ หรือหญิงในระยะให้นมบุตร
- ผู้ที่ฝังเครื่องกระตุ้นไฟฟ้าหัวใจในร่างกาย
- ผู้ที่ฝังเครื่องกระตุกสัญญาณไฟฟ้าหัวใจ
- ผู้ที่เป็นโรคลมชัก
- ผู้ที่มีการฝังเหล็กหรืออวัยวะเทียม
- ผู้ป่วยโรคมะเร็ง
ต่างกับ Ulthera อย่างไร
เทอร์มาจและอัลเทอรา (Ulthera หรือ Ultherapy) เป็นเทคโนโลยีกระชับผิวหนังที่หย่อนคล้อยและลดริ้วรอยเหมือนกัน โดยเทอร์มาจใช้คลื่นวิทยุ ขณะที่อัลเทอราใช้คลื่นอัลตราซาวด์เพื่อกระตุ้นให้ผิวหนังสร้างคอลลาเจนเพิ่มขึ้น
นอกจากนี้ เทอร์มาจใช้กระชับผิวได้เกือบทุกส่วนทั่วทั้งร่างกาย ส่วนอัลเทอราสามารถใช้เพื่อกระชับบริเวณใบหน้า ใต้คาง คอ และหน้าอกเท่านั้น
สำหรับระยะเวลาเห็นผลลัพธ์และระยะเวลาที่ผลลัพธ์คงอยู่ อัลเทอรามักเห็นผลชัดเจนเร็วกว่าเทอร์มาจ คือภายใน 2-3 เดือน หลังเข้ารับบริการแต่ผลลัพธ์จะคงอยู่เพียงประมาณ 1 ปีเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม ทั้งเทอร์มาจและอัลเทอรามีจุดเด่นคล้าย ๆ กัน คือเห็นผลได้ตั้งแต่การทำครั้งแรก ไม่ทำให้หน้าเป็นแผล และไม่ต้องพักฟื้นหลังเข้ารับบริการ