การกำจัดขนรักแร้ อาจช่วยให้ผิวใต้วงแขนดูเรียบเนียน ลดการสะสมของเหงื่อที่ก่อให้เกิดกลิ่นตัว และเพิ่มความมั่นใจในการแต่งตัว โดยมี วิธีกําจัดขนรักแร้ หลายวิธี เช่น การโกน การถอน การแว็กซ์ และการเลเซอร์
[embed-health-tool-bmr]
ประโยชน์ของการกำจัดขนรักแร้
การกำจัดขนรักแร้อาจช่วยให้ผิวใต้วงแขนดูเรียบเนียน ไม่รกรุงรัง และช่วยเพิ่มความมั่นใจเมื่อใส่เสื้อผ้าที่เผยให้เห็นผิวใต้วงแขน เช่น เสื้อกล้าม เสื้อครอป เกาะอก อีกทั้งยังอาจช่วยลดการสะสมของเหงื่อที่ส่งผลให้มีกลิ่นตัว
จากการศึกษาในวารสาร Journal of Cosmetic Dermatology เมื่อปี พ.ศ. 2559 ที่ศึกษาและเปรียบเทียบวิธีการกำจัดขนแบบต่างๆ และผลกระทบต่อการลดกลิ่นใต้วงแขนในผู้ชาย จำนวน 30 คน อายุ 14-48 ปี โดยแบ่งกลุ่มให้ผู้ทดลองกำจัดขนรักแร้ด้วยวิธีต่าง ๆ ทั้งการตัดด้วยกรรไกร โกนด้วยมีดโกน แว็กซ์ขน และกลุ่มไม่ได้รับการกำจัดขนใด ๆ จากนั้นจึงอาบน้ำตามปกติพบว่า ผู้ที่กำจัดขนด้วยมีดโกนและแว็กซ์ขนก่อนอาบน้ำ อาจช่วยให้กลิ่นใต้วงแขนลดลงอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับผู้ที่ใช้สบู่อาบน้ำเพียงอย่างเดียว
วิธีกำจัดขนรักแร้
วิธีกําจัดขนรักแร้ อาจทำได้ดังนี้
-
การโกนขนรักแร้
คือการกำจัดขนโดยใช้มีดโกนขนปาดตามทิศทางของขนรักแร้ ซึ่งเป็นวิธีที่สะดวกและรวดเร็วในการกำจัดขนแบบเร่งด่วน อย่างไรก็ตาม การโกนขนด้วยมีดโกนอาจเสี่ยงต่อการเกิดขนคุด เกิดบาดแผลจากใบมีด และอาการแสบระคายเคือง ดังนั้น จึงควรใช้สบู่หรือครีมโกนขนเพื่อช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว ทำให้ขนอ่อนตัวและกำจัดขนได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ ยังควรเลือกมีดโกนที่มีความคมพอดี ไม่ทื่อหรือคมมากจนเกินไป เพราะอาจทำให้เกิดบาดแผลขณะโกนขนได้
-
การถอนขนรักแร้
เป็นการกำจัดขนโดยใช้อุปกรณ์ในการดึงขนที่เรียกว่า แหนบถอนขน การถอนขนอาจทำให้รู้สึกเจ็บขณะดึงขน จึงเหมาะสำหรับผู้ที่มีขนรักแร้เพียงไม่กี่เส้น หรือมีขนรักแร้งอกขึ้นใหม่ในปริมาณน้อย
-
การแว็กซ์ขนรักแร้
เป็นวิธีกำจัดขนโดยใช้ขี้ผึ้งหรือแว็กซ์สำหรับถอนขน ทาที่บริเวณขนรักแร้ที่ต้องการ รอให้แห้งและแข็งตัว แล้วจึงดึงออกด้วยความเร็วเพื่อให้ขนหลุดติดออกมาด้วย
นอกจากนี้ อาจทำแว็กซ์สำหรับดึงขนด้วยตัวเอง โดยผสมน้ำผึ้ง ¼ ถ้วย กับน้ำตาลทรายขาว 1 ถ้วยตวง และน้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ ผสมให้เข้ากัน จากนั้นนำมาทาบริเวณขนรักแร้ รอให้แข็งตัวและดึงออก
การกำจัดขนรักแร้ด้วยการแว็กซ์ขน อาจทำให้ขนรักแร้หลุดออกจนถึงรากเส้นขน ทำให้ผิวเรียบเนียน ไม่มีตอ อีกทั้งยังอาจช่วยชะลอการเกิดขนใหม่ได้ประมาณ 2-3 สัปดาห์หรือนานกว่านั้น อย่างไรก็ตาม ควรระวังการใช้แว็กซ์ เพราะอาจทำให้ผิวไหม้ แสบ ระคายเคือง และเกิดขนคุดได้
-
ครีมกำจัดขนรักแร้
ครีมกำจัดขน มีส่วนประกอบของสารเคมีที่มีความเป็นด่างสูง เช่น แคลเซียม ไฮดรอกไซด์หรือปูนขาว (Calcium hydroxide) แคลเซียม ไทโอไกลโคเลท (Calcium thioglycolate) ที่อาจช่วยละลายเคราตินซึ่งเป็นโปรตีนชนิดหนึ่งที่มีความสำคัญต่อโครงสร้างเส้นขน โดยฉีดทิ้งไว้และรอตามเวลาที่ระบุไว้บนฉลากผลิตภัณฑ์ เมื่อขนรักแร้อ่อนตัวลงให้ทำความสะอาดด้วยการนำผ้ามาเช็ดออกและล้างด้วยสบู่ ไม่ควรทิ้งครีมกำจัดขนไว้บนผิวนานเกินไปเนื่องจากมีสารเคมีที่อาจทำลายเซลล์ผิวหนัง และทำให้ผิวระคายเคืองได้
-
เลเซอร์ขนรักแร้
การเลเซอร์ขนรักแร้ คือ การใช้ลำแสงที่มีความเข้มข้นสูงเพื่อกำจัดขนรักแร้ โดยรากขนจะทำการดูดซับแสงเลเซอร์ และเปลี่ยนเป็นพลังงานความร้อน ทำให้รากขนและเนื้อเยื่อที่ผลิตขนได้รับความเสียหาย ส่งผลให้ขนหลุดออก และช่วยชะลอการเจริญเติบโตของเส้นขนใหม่ แต่อาจจำเป็นต้องเข้ารับการเลเซอร์หลายครั้ง โดยแต่ละครั้งห่างกันอย่างน้อย 4-6 สัปดาห์ หลังจากการกำจัดขนอาจมีอาการระคายเคือง ผิวหนังบวมแดงเล็กน้อยและอาจหายได้เองภายในไม่กี่ชั่วโมง
-
การทำอิเล็กโทรลิซิส (Electrolysis)
เป็นการกำจัดขนรักแร้ด้วยการใช้เข็มสอดลงไปที่รากขน และปล่อยกระแสไฟฟ้าเพื่อทำลายรากขน ชะลอการเจริญเติบโตของเส้นขน ซึ่งอาจใช้เวลานานและค่อนข้างเจ็บ อีกทั้งยังเสี่ยงต่อการติดเชื้อ ผิวไหม้ และเกิดแผลได้
การดูแลผิวใต้วงแขนหลังกำจัดขนรักแร้
การดูแลผิวใต้วงแขนหลังกำจัดขนรักแร้ มีดังนี้
- ทามอยส์เจอไรเซอร์ เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวใต้วงแขน
- หลีกเลี่ยงการใช้โรลออนหรือน้ำหอมบริเวณรักแร้ เพราะอาจทำให้ผิวหลังการกำจัดขนระคายเคืองและรู้สึกแสบ
- ทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF 30 ขึ้นไป หรือสวมเสื้อผ้าที่ปกปิดผิวเพื่อป้องกันแสงแดด ที่อาจส่งผลให้ผิวที่ไวต่อแสงคล้ำขึ้นได้
- หากรักแร้มีอาการแดงและบวม หลังกำจัดขน อาจประคบเย็นโดยใช้ผ้าห่อน้ำแข็งประคบบริเวณรักแร้ เพื่อลดอาการบวมและบรรเทาอาการระคายเคือง
- หลีกเลี่ยงการสวมเสื้อผ้าที่รัดรูปเพราะอาจทำให้เกิดการเสียดสีต่อผิวที่บริเวณรักแร้