backup og meta

ตด หากบ่อยหรือดังผิดปกติ อาจบ่งบอกถึงปัญหาสุขภาพ

ตด หากบ่อยหรือดังผิดปกติ อาจบ่งบอกถึงปัญหาสุขภาพ

ตด หรือ การผายลม เกิดจากการปล่อยแก๊สในลำไส้ซึ่งเป็นผลมาจากกระบวนการสะสมในระบบย่อยอาหาร แต่หากกลิ่นและเสียงนั้นไม่ปกติ มันอาจบ่งบอกถึงปัญหาสุขภาพได้ เช่น โรคเบาหวานชนิดที่ 2 โรคเซลิแอค โรคตับ โรคลำไส้อักเสบ โดยปกติผู้ที่สุขภาพแข็งแรงดีจะตดประมาณ 14-23 ครั้ง/วัน หากตดมากกว่า 25 ครั้งต่อวัน หรือมีกลิ่นเหม็นและเสียงดังกว่าปกติ ควรปรึกษาคุณหมอเพื่อตรวจสอบเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหาร

[embed-health-tool-bmi]

ตด เกิดจากอะไร

ตด หรือ การผายลม เกิดจากการปล่อยแก๊สในลำไส้ซึ่งเป็นผลมาจากกระบวนการสะสมในระบบย่อยอาหาร โดยมีสาเหตุและปัจจัยอื่น ๆ ดังต่อไปนี้ 

  • อากาศที่กลืนเข้าไป ในทุก ๆ วันทุกคนอาจกลืนอากาศเข้าไปตลอดเวลา เช่น อากาศขณะที่เคี้ยวอาหาร การดื่มเครื่องดื่มจากน้ำอัดลม
  • โรคบางชนิด เช่น โรคเบาหวานชนิดที่ 2 โรคเซลิแอค โรคตับ โรคลำไส้อักเสบ อาจทำให้เชื้อแบคทีเรียเจริญเติบโตมากเกินไป อาจส่งผลให้ผู้ป่วยมีแก๊สมากจนอาจเกิดการตดบ่อย
  • อาหารไม่ย่อย อาหารที่ถูกย่อยไม่หมดบางส่วนจะถูกเปลี่ยนเป็นแก๊สไฮโดรเจนและแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ทำให้เกิดการตด

ตดกับปัญหาสุขภาพที่ควรรู้

ถึงแม้ว่าตดอาจเป็นเรื่องปกติ แต่หากกลิ่นและเสียงนั้นไม่ปกติ มันอาจบ่งบอกถึงปัญหาสุขภาพได้อีกด้วย นอกจากนี้ ตดยังขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการรับประทานอาหารและการใช้ยาบางชนิด โดยลักษณะของกลิ่นตดอาจบ่งบอกถึงปัญหาสุขภาพดังต่อไปนี้ 

  • ตดมีกลิ่น เกิดจากการรับประทานที่มีเส้นใยสูง เช่น หน่อไม้ฝรั่ง กะหล่ำปลี บร็อคโคลี่ อาหารเหล่านี้ใช้เวลาค่อนข้างนานในการย่อยอาหาร อาจทำให้เกิดอาการท้องอืดได้
  • ตดมีกลิ่นเหม็นผิดปกติ อาจเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียในลำไส้ การติดเชื้อทางเดินอาหาร ส่งผลให่แก๊สมีปริมาณสูงกว่าปกติและมีกลิ่นเหม็นรุนแรง ผู้ที่มีอาการติดเชื้อทางเดินอาหารอาจมีอาการปวดท้องและท้องเสีย
  • ตดไม่มีกลิ่น อาจเกิดจากการรับประทานอาหารที่มีโปรตีนน้อย 

วิธีจัดการกับกลิ่นตด

ตดอาจบ่งบอกได้ว่าตอนนี้สุขภาพเป็นอย่างไร โดยปกติผู้ที่สุขภาพแข็งแรงดีจะตดประมาณ 14-23 ครั้ง/วัน หากตดมากกว่า 25 ครั้งต่อวัน จะมีกลิ่นเหม็นและเสียงดังกว่าปกติ นอกจากนี้ ยังเป็นสัญญาณเตือนของปัญหาสุขภาพอีกด้วย  อย่างไรก็ตาม การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวันอาจกำจัดกลิ่นตดได้ โดยอาจมีวิธีดังต่อไปนี้

  • รับประทานอาหารน้อยลงและช้าลง เพื่อกระตุ้นการย่อยอาหาร และลดการผลิตแก๊สในกระเพาะอาหาร
  • ดื่มน้ำในปริมาณมาก จะช่วยเคลื่อนย้ายของเสียผ่านร่างกายได้อย่างมีประสิทธิภาพ 
  • อาหารที่มีโปรไบโอติก เช่น โยเกิร์ต มีแบคทีเรียที่ดีต่อสุขภาพช่วยปรับสมดุลระบบย่อยอาหาร 
  • หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มอัดลม เช่น เบียร์ โซดา รวมถึงอาหารที่มีกลิ่นเหม็น 

หมายเหตุ

Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด

Remedies for Foul Smelling Gas. https://www.webmd.com/digestive-disorders/remedies-foul-gas. Accessed March 27, 2023.

What’s a Fart?. https://kidshealth.org/en/kids/fart.html. Accessed March 27, 2023.

Why Do Farts Smell?. https://www.ncdhp.com/news/why-do-farts-smell. Accessed March 27, 2023.

This Is What Your Excessive or Foul-Smelling Gas Could Mean. https://www.keckmedicine.org/this-is-what-your-excessive-or-foul-smelling-gas-could-mean/. Accessed March 27, 2023.

What Makes My Farts So Smelly?. https://carolinadigestive.com/about-us/news/what-makes-my-farts-so-smelly.Accessed March 27, 2023.

Farting (flatulence). https://www.nhs.uk/conditions/flatulence/. Accessed March 27, 2023.

เวอร์ชันปัจจุบัน

27/03/2023

เขียนโดย ทีม Hello คุณหมอ

ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย Duangkamon Junnet

อัปเดตโดย: Duangkamon Junnet


บทความที่เกี่ยวข้อง

5 อาหารที่ช่วยดีท็อกลำไส้ มีอะไรบ้าง

Hirschsprung disease คือ โรคลำไส้ใหญ่โป่งพองแต่กำเนิด สาเหตุ อาการ การรักษา


ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย

Duangkamon Junnet


เขียนโดย ทีม Hello คุณหมอ · แก้ไขล่าสุด 27/03/2023

ad iconโฆษณา

คุณได้รับประโยชน์จากบทความนี้หรือไม่?

ad iconโฆษณา
ad iconโฆษณา