การลดน้ำหนักนั้น ไม่ใช่เป็นเรื่องของผู้หญิงเพียงอย่างเดียว ผู้ชายที่ต้องการลดน้ำหนักก็มีเช่นกัน เพราะการลดน้ำหนักนอกจากจะนำมาซึ่งหุ่นกายที่เฟิร์มกระชับแล้ว ผลในระยะยาว คือ ทำให้สุขภาพร่างกายแข็งแรงด้วย ซึ่ง วิธีลดความอ้วน ผู้ชาย อาจทำได้ด้วยการเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ และออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ หากรู้สึกว่าการลดน้ำหนักยังไม่ได้ผล อาจปรึกษาคุณหมอถึงความกังวลในที่เกิดขึ้น เพื่อหาสาเหตุอื่น ๆ ต่อไป
[embed-health-tool-bmr]
ทำไมผู้ชายถึงลดน้ำหนักได้ไวกว่าผู้หญิง
เมื่อพูดถึงการลดน้ำหนัก หลายคนเชื่อว่าผู้ชายมักจะมีข้อได้เปรียบมากกว่าผู้หญิงที่พยายามดิ้นรนเพื่อลดน้ำหนัก ที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะ ผู้ชายมักมีเนื้อเยื่อของกล้ามเนื้อที่ไม่ติดมัน ซึ่งเผาผลาญแคลอรี่ได้มากกว่าไขมันในร่างกาย แม้จะอยู่ในช่วงพักผ่อนก็ตาม เมื่อผู้ชายและผู้หญิงลดแคลอรี่ได้เท่ากัน ผู้ชายก็มักจะลดน้ำหนักได้มากกว่า อีกทั้งโปรแกรมลดน้ำหนักมักเน้นความแตกต่าง เมื่อทั้งผู้ชายและผู้หญิงเริ่มโปรแกรมการออกกำลังกาย ผู้ชายมักจะเลือกลดไขมันในร่างกาย ในขณะที่ผู้หญิงหลายคนไม่ทำเช่นนั้น
จากการศึกษาหนึ่งในประเทศอังกฤษ ผู้ชายและผู้หญิงต่างเข้าร่วมโปรแกรมลดน้ำหนักเชิงพาณิชย์ เช่น Atkins Slim-Fast และ Weight Watchers พบว่า 2 เดือนต่อมา ผู้ชายสามารถลดน้ำหนักได้มากกว่าผู้หญิงถึง 2 เท่า และมีไขมันในร่างกายมากกว่าผู้หญิงถึง 3 เท่า แต่เมื่อถึง 6 เดือน อัตราการลดน้ำหนักจะเพิ่มขึ้นระหว่างเพศ
หากเป็นผู้ชายจะไม่มีฮอร์โมนเอสโตรเจน (Estrogen) ซึ่งนั่นถือว่าเป็นเรื่องดีของผู้ชาย เพราะฮอร์โมนนี้ส่งผลต่อการลดน้ำหนักเป็นอย่างมาก โดยเฉลี่ยแล้วผู้หญิงมักจะมีไขมันในร่างกายมากกว่าผู้ชายประมาณ 6 – 11 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งเป็นการปรับตัวตามวิวัฒนาการ เพื่อช่วยในการตั้งครรภ์ ตั้งแต่วัยรุ่นจนถึงวัยหมดประจำเดือน ผู้หญิงจะมีไขมันในร่างกายมากกว่าผู้ชาย แม้ว่าจะได้รับแคลอรี่น้อยลงก็ตาม
สิ่งที่ต้องจำไว้ก็คือ การมีไขมันไม่ได้หมายความว่า ร่างกายจะไม่แข็งแรง การที่ผู้หญิงมีไขมันนั้นมันเป็นส่วนหนึ่งของสรีรวิทยา นั่นหมายความว่าน้ำหนักอาจจะไม่เพิ่มขึ้นก็ได้ ดังนั้น หากผู้หญิงมีไขมันในร่างกายมากกว่าผู้ชายถึง 11 เปอร์เซ็นต์ ก็ไม่ได้หมายความว่าผู้หญิงจะอ้วนขึ้น 11 เปอร์เซ็นต์ ผู้หญิงที่มีรูปร่างสมบูรณ์จะยังคงมีไขมันในร่างกายมากกว่าผู้ชายที่มีรูปร่างสมบูรณ์ 6-11 เปอร์เซ็นต์
วิธีลดความอ้วน ผู้ชาย แบบสุขภาพดีและได้ผล
ผู้ชายที่ต้องการลดน้ำหนักก็เหมือนกับคนอื่น ๆ ที่จะต้องเผชิญกับความท้าทายต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการกินอาหาร การออกกำลังกาย หรือแม้แต่การสร้างแรงบันดาลใจให้ตัวเองอยากหุ่นดี สำหรับวิธีลดความอ้วนของผู้ชาย อาจทำได้ดังนี้
ออกกำลังกาย
แน่นอนว่าทุกคนมักจะบอกว่าตัวเองมีงานที่ยุ่ง แต่ความจริงแล้วมีวิธีการออกกำลังกายระหว่างวันมากมายให้เลือกทำ ไม่ว่าจะเป็นการเดินขึ้นบันได หรือจอดรถให้ไกลจากจุดหมายที่จะไป เพื่อจะได้เดินออกกำลังกาย
นอกจากนั้น ยังสามารถเริ่มออกกำลังกายในวันหยุดสุดสัปดาห์เมื่อมีเวลาว่าได้อีกด้วย โดยทาง CDC แนะนำเอาไว้ว้า ควรทำกิจกรรมระดับปานกลาง 150 นาทีต่อสัปดาห์สำหรับผู้ใหญ่
ตั้งเป้าหมายที่สามารถทำได้จริง
สิ่งสำคัญอย่างหนึ่งสำหรับการลดน้ำหนัก คือ การตั้งเป้าหมายให้ตัวเอง เพื่อจะสร้างแรงบันดาลใจให้ตัวเองและพยายามทำให้บรรลุเป้าหมาย แต่หากวันหนึ่งเกิดตัดสินใจว่า จะลดน้ำหนักให้ได้ 23 กิโลกรัมภายใน 2 วัน แต่มันจะไม่เกิดขึ้นถ้าไม่ได้ตั้งเป้าหมายเอาไว้ และอาจทำให้ล้มเลิกกลางคันได้ เมื่อสิ่งที่คิดเอาไว้ทำได้ยากมากกว่าที่คิดไว้
อยู่ห่างจากอาหารลดน้ำหนัก
บางครั้งการกินอาหารลดน้ำหนักก็อาจจะไม่ได้ทำให้ลดน้ำนักได้ เพราะอาหารลดน้ำหนักทำหน้าที่เป็นอาหารที่ทำให้ไม่ต้องอดอาหาร ซึ่งหมายความว่า อาหารเหล่านี้เพียงแต่ป้องกันไม่ให้กินแคลอรี่หรือสารอาหารที่เพียงพอต่อการทำงานของร่างกาย
เมื่อเลิกกินอาหารลดน้ำหนักก็อาจทำให้อยากกินอาหารมากขึ้น ดังนั้น อาจทำให้ลดน้ำหนักได้เพียงช่วงเวลาสั้น ๆ แต่สุดท้ายแล้วน้ำหนักก็จะกลับคืนมา หรืออาจจะเพิ่มมากขึ้นด้วย
ลดอาหารแปรรูป
ในอาหารแปรรูปมักจะมีโซเดียมมากเกินไป ทั้งยังมีส่วนผสมอื่น ๆ ที่ร่างกายอาจจะไม่ต้องการอีกด้วย โซเดียมที่มากเกินไปสามารถทำร้ายหัวใจ และสร้างปัญหาในอนาคตให้กับสุขภาพได้
ปกติแล้วเด็กที่มีอายุเกิน 2 ขวบ ควรจะได้รับโซเดียมประมาณ 2,300 มิลลิกรัมต่อวัน ซึ่งอาจจะฟังดูเหมือนมาก แต่ถ้าลองตรวจสอบฉลากข้อมูลโภชนาการข้างสิ่งของที่คุณเลือกกิน จะรู้ได้ทันทีว่าปริมาณโซเดียม 2,300 มิลลิกรัม สามารถเพิ่มขึ้นได้อย่างรวดเร็วเพียงใด
เริ่มซื้อผักและผลไม้
หากมีอาหารขยะวางอยู่ในบ้าน ก็มีโอกาสที่จะหยิบมันขึ้นมากินได้ ดังนั้น ลองไปซื้อผักและผลไม้ที่กินง่าย ๆ และสามารถกินได้ทุกที่ที่ต้องการมาติดเอาไว้ในบ้านจะเป็นเรื่องที่ควรทำมากกว่า หรืออาจจะซื้อผักและผลไม้แบบแช่แข็งและแบบกระป๋องเอามาไว้ติดบ้านก็เป็นอีกทางเลือกที่ดี ซึ่งอาจดีกว่าอาหารจานด่วนหรืออาหารขยะ
เลิกดื่มเบียร์และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อื่น ๆ
ไม่ใช่แค่เบียร์เท่านั้น แต่เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ส่วนใหญ่ทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้น เนื่องจากเครื่องดื่มแต่ละแก้วที่ดื่มเต็มไปด้วยแคลอรี่ ซึ่งแคลอรี่เหล่านั้นจะเพิ่มขึ้นและเปลี่ยนไปเป็นไขมันในร่างกายในที่สุด หากต้องการกำจัดไขมันออกไปจากร่างกาย การดื่มในปริมาณที่พอเหมาะจึงเป็นเรื่องที่ควรทำ
ทำอาหารง่าย ๆ ด้วยตัวเอง
แน่นอนว่าอาหารแช่แข็ง อาหารจานด่วน และอาหารขยะ ถือเป็นประโยชน์ในช่วงที่เร่งรีบ แต่การเรียนรู้วิธีการทำอาหารง่าย ๆ ด้วยตัวเอง สามารถเพิ่มสารอาหารที่ร่างกายต้องการได้ ทั้งยังลดแคลอรี่ได้อีกด้วย นอกจากนี้ การกินอาหารที่ปรุงเองที่บ้าน ยังอาจช่วยลดปริมาณไขมัน น้ำตาล และคาร์โบไฮเดรตที่กินเข้าไปได้ รวมถึงยังอาจช่วยจัดการกับปริมาณอาหารที่ต้องกินเมื่อออกไปข้างนอกอีกด้วย
ดูฉลากข้อมูลโภชนาการ
การเริ่มอ่านฉลากข้อมูลโภชนาการ เพื่อควบคุมปริมาณแคลอรี่ถือเป็นเรื่องที่ควรทำ โดยพยายามดูด้านหลังของผลิตภัณฑ์ให้ติดเป็นนิสัย เพื่อจัดการกับการกินอาหารที่ไม่สามารถควบคุมได้
กำหนดแผนในการลดน้ำหนักของตัวเอง
การกำหนดแผนการลดน้ำหนักส่วนตัว ไม่ว่าจะเป็นปริมาณและประเภทของอาหารที่ควรจะกิน พร้อมคำแนะนำในการออกกำลังกายถือเป็นเรื่องที่ดี ทั้งยังถือเป็นเป้าหมายที่จะทำให้พยายามลดน้ำหนักได้อีกด้วย
สำหรับอาหารที่ต้องกินทุกวันนั้น ควรแบ่งประเภทให้ตรงกับไลฟ์สไตล์ของตัวเอง นอกจากนั้น การกำหนดแผนลดน้ำหนักยังทำให้เห็นจุดอ่อนของตัวเองด้วยว่าขาดในส่วนไหนไป
ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านการลดน้ำหนักโดยตรง
หากพยายามลดน้ำหนักแล้ว แต่ดูเหมือนว่าจะยังไม่ได้ผล อาจถึงเวลาที่จะต้องปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญด้านการลดน้ำหนัก เพื่อจะได้ทำตามคำแนะนำในการลดน้ำหนัก ทั้งยังทำให้ใช้ชีวิตเพื่อให้มีสุขภาพที่ดีได้อีกด้วย สำหรับผู้ที่ต้องการผ่าตัดลดน้ำหนัก ผู้เชี่ยวชาญอาจช่วยตัดสินใจได้ว่าเหมาะสมหรือไม่