backup og meta

สูตรบลูเบอร์รี่สมูทตี้โบวล์

ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย ทีม Hello คุณหมอ


เขียนโดย ชลธิชา จันทร์วิบูลย์ · แก้ไขล่าสุด 02/12/2020

    สูตรบลูเบอร์รี่สมูทตี้โบวล์

    สูตรบลูเบอร์รี่สมูทตี้โบวล์ เป็นเมนูสมูทตี้ที่มีส่วนผสมหลักเป็นกล้วยและบลูเบอร์รี่แช่แข็ง สำหรับใครที่ชอบความเปรี้ยวอมหวานของบลูเบอร์รี่ จะต้องชอบสมูทตี้โบวล์สูตรนี้แน่นอน ที่สำคัญเมนูสุขภาพถ้วยนี้ยังอัดแน่นไปด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ ทั้งวิตามินซีและประโยชน์จากกล้วย ใครที่เห็นภาพก็อดใจไม่ไหว อยากลองทำกันแล้ว ตาม Hello คุณหมอ ไปจดสูตรกันเลยค่ะ

    สูตรบลูเบอร์รี่สมูทตี้โบวล์

    ส่วนผสมสำหรับ บลูเบอร์รี่ สมูทตี้โบวล์

    ส่วนผสม ปริมาณ
    กล้วยหอมแช่แข็ง 1 ลูก
    บลูเบอร์รี่แช่แข็ง 1/2 ถ้วย
    เนยถั่ว 2 ช้อนโต๊ะ
    เมล็ดแฟลกซ์ 1 ช้อนโต๊ะ
    น้ำมะพร้าว 1/4 ถ้วย
    เมล็ดงา

    วิธีทำ

  • ใส่กล้วย บลูเบอร์รี่ เนยถั่ว เมล็ดแฟลกซ์ และน้ำมะพร้าว ปั่นส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน จนเป็นเนื้อครีม หากส่วนผสมทั้งหมดข้นเกินไปสามารถเติมน้ำมะพร้าวเพื่อลดความข้นได้
  • ตักส่วนผสมที่ปั่นทั้งหมดลงถ้วย แต่งหน้าด้วยบลูเบอร์รี่ กล้วย และโรยงา เท่านี้ก็จะได้บลูเบอร์รี่สมูทตี้โบวล์จานเด็ด เพื่อสุขภาพพร้อมเสิร์ฟ
  • ข้อมูลทางโภชนาการของ บลูเบอร์รี่สมูทตี้โบวล์ (สำหรับ 2 ที่)

    ปริมาณแคลอรี่ 226 กิโลแคลอรี่

    • ไขมันรวม 12 กรัม
    • ไขมันอิ่มตัว 1 กรัม
    • โปรตีน 6 กรัม
    • คาร์โบไฮเดรต 26 กรัม
    • ไฟเบอร์ 6 กรัม
    • น้ำตาล 14 กรัม

    สูตรบลูเบอร์รี่สมูทตี้โบวล์

    รู้จักกับ บลูเบอร์รี่ ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ประโยชน์มากมาย

    บลูเบอร์รี่ เป็นหนึ่งในผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ ที่มีรสชาติหวานอมเปรี้ยว บลูเบอร์รี่เป็นผลไม้ที่อุดมไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการแถมยังมีปริมาณแคลอรี่ที่ต่ำอีกด้วย ประโยชน์ต่อสุขภาพของบลูเบอร์รี่มีดังนี้

    อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ

    สารต้านอนุมูลอิสระหลักในบลูเบอร์รี่ เป็นของกลุ่มสารต้านอนุมูลอิสระในกลุ่มโพลีฟีนอล (Polyphenol) ที่เรียกว่าฟลาโวนอยด์ (Flavonoid) ซึ่งสารต้านอนุมูลนั้น เป็นสารที่มีส่วนช่วยปกป้องร่างกายจากอนุมูลอิสระ ที่มักจะทำลายเซลล์ ทำให้เกิดโรคต่าง ๆ เช่น โรคมะเร็ง

    ปกป้องไม่ให้เกิดริ้วรอยและมะเร็ง

    ในแต่ละวันร่างกายของคนเราจะเกิดความเสียหายที่ ดีเอ็นเอ ซึ่งเกิดจากการทำลายแบบออกซิเดชัน (Oxidative DNA damage) ซึ่งเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้เกิดริ้วรอย นอกจากนี้การทำลายแบบออกซิเดชันยังมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาไปเป็นโรคต่าง ๆ ได้อีกด้วย เช่น โรคมะเร็ง ซึ่งบลูเบอร์รี่เป็นผลไม้ที่อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ จึงมีคุณสมบัติในการช่วยต่อสู้กับสารอนุมูลอิสระชนิดที่ทำลายดีเอ็นเอ

    มีส่วนช่วยลดความดันโลหิต

    บลูเบอร์รี่ มีประโยชน์อย่างมากสำหรับผู้ที่มีความดันโลหิตสูงซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญสำหรับโรคหัวใจ การศึกษาในคนอ้วนที่มีความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจสูง พบว่าหลังจากบริโภคบลูเบอร์รี่ 50 กรัมต่อวัน นาน 8 สัปดาห์ มีส่วนช่วยความดันโลหิตลดลง 4-6% จากการศึกษาชิ้นอื่น ๆ พบว่ามีผลลัพธ์คล้ายคลึงกัน และจะเห็นผลได้ชัดเจนอย่างยิ่งในกลุ่มสตรีวัยหมดประจำเดือน

    หมายเหตุ

    Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด

    ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย

    ทีม Hello คุณหมอ


    เขียนโดย ชลธิชา จันทร์วิบูลย์ · แก้ไขล่าสุด 02/12/2020

    advertisement iconโฆษณา

    คุณได้รับประโยชน์จากบทความนี้หรือไม่?

    advertisement iconโฆษณา
    advertisement iconโฆษณา