หลอดลมเป็นส่วนหนึ่งของระบบหายใจ มีหน้าที่ในการนำส่งอากาศจากภายนอกร่างกายเข้าสู่ปอด และแลกเปลี่ยนก๊าซออกซิเจนเข้าสู่เลือด ดังนั้นมาทำความรู้จักกับ มะเร็งหลอดลม (Bronchial Cancer) หนึ่งในมะเร็งที่พบได้ยาก
คำจำกัดความ
มะเร็งหลอดลม (Bronchial cancer) คืออะไร
มะเร็งหลอดลม (Bronchial cancer) เป็นโรคมะเร็งที่พบยาก เกิดขึ้นบริเวณเซลล์เยื่อเมือกของหลอดลมซึ่งเป็นทางเดินไปยังปอด โดยสาเหตุส่วนใหญ่มักเกิดจากการสูบบุหรี่ หรือสัมผัสกับสารพิษชนิดต่าง ๆ ส่งผลให้ผู้ป่วยมีอาการเจ็บหน้าอก หายใจติดขัด มีอาการไอปนเลือด
พบได้บ่อยเพียงใด
โรคมะเร็งหลอดลม สามารถเกิดขึ้นได้กับคนทุกเพศทุกวัย โดยส่วนใหญ่มักพบในเพศชายที่สูบบุหรี่
อาการ
อาการของ โรคมะเร็งหลอดลม
ในระยะแรกอาจไม่มีอาการแสดงออก ทำให้เราไม่สามารถสังเกตอาการได้จนกว่าเชื้อมะเร็งจะเริ่มแพร่กระจาย โดยมีลักษณะอาการที่พบได้บ่อยดังนี้
- มีอาการไอเรื้อรัง
- หายใจไม่ออก
- ไอเป็นเลือดและมีน้ำมูก
- มีอาการเจ็บหน้าอกเมื่อสูดลมหายใจเข้า หัวเราะ หรือไอ
- ชีพจรเต้นเร็ว
- เหนื่อยล้า อ่อนเพลีย
- ต่อมน้ำเหลืองโต
- อาการชาบริเวณแขนและขา
- ปวดบริเวณสะโพกหรือบริเวณหลัง
- น้ำหนักลดลงโดยไม่ทราบสาเหตุ
ควรไปพบหมอเมื่อใด
หากคุณมีสิ่งบ่งชี้หรืออาการใด ๆ ตามที่ระบุข้างต้น หากมีคำถามหรือข้อกังวล โปรดปรึกษาแพทย์เพื่อรับคำแนะนำและข้อมูลเพิ่มเติม
ร่างกายของแต่ละบุคคลมีการตอบสนองแตกต่างกัน ทางที่ดีที่สุดให้ปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับวิธีรักษาที่ดีที่สุดตามสถานการณ์ของคุณ
สาเหตุ
สาเหตุของ โรคมะเร็งหลอดลม
โรคมะเร็งหลอดลม โดยส่วนใหญ่เกิดจาก 2 สาเหตุหลัก ๆ คือ การสูบบุหรี่ และการสัมผัสกับสารพิษ สารกัมตรังสี รวมถึงสาเหตุอื่น ๆ ดังนี้
- การหายใจนำสารเคมีอันตรายเข้าสู่ร่างกาย เช่น นิกเกิล ยูเรเนียม แคดเมียม
- การสัมผัสกับควันเสียหรือมลพิษในอากาศ
- ดื่มน้ำที่มีสารหนูปนเปื้อนในปริมาณสูง
ปัจจัยเสี่ยง
ปัจจัยเสี่ยงการเกิดมะเร็งหลอดลม
ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าอะไรคือปัจจัยเสี่ยงที่ส่งผลให้เกิดมะเร็งหลอดลม ซึ่งอาจจะเกิดจากอายุที่เพิ่มขึ้น พันธุกรรม หรือคนในครอบครัวมีประวัติการเป็นมะเร็งมาก่อน รวมไปถึงการสูบบุหรี่ และอาจจะได้รับพวกสารเคมีจากในอุตสาหกรรม
การวินิจฉัยและการรักษาโรค
ข้อมูลในที่นี้ไม่มีเจตนาให้ใช้ทดแทนคำแนะนำทางการแพทย์ ควรปรึกษาแพทย์ทุกครั้งเพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
การวินิจฉัยโรคมะเร็งหลอดลม
ในเบื้องต้นแพทย์จะสอบถามประวัติและอาการของผู้ป่วย และทำการวินิจฉัยดังต่อไปนี้ เพื่อยืนยันโรค
- เอกซเรย์ (X-ray) ใช้รังสีในปริมาณต่ำ ๆ เพื่อตรวจดูเชื้อมะเร็ง
- การตรวจคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (Magnetic Resonance Imaging หรือ MRI) การทดสอบร่างกายโดยการสร้างภาพเพื่อตรวจดูความผิดปกติในร่างกาย
ใช้รังสีในปริมาณต่ำเพื่อสร้างภาพโครงสร้างภายในร่างกายของคุณ การเอกซเรย์ทรวงอกสามารถค้นหาเนื้องอกในปอดของคุณได้
การรักษาโรคมะเร็งหลอดลม
วิธีการรักษาผู้ป่วยโรคมะเร็งหลอดลม จะขึ้นอยู่กับอาการของแต่ละบุคคล โดยมีวิธีการรักษาที่แตกต่างกัน ดังต่อไปนี้
- การผ่าตัด แพทย์จะทำการผ่าตัดเอาก้อนมะเร็งและเนื้อเยื่อที่อยู่รอบ ๆ ออก เพื่อหยุดการแพร่กระจายของเชื้อโรค
- การฉายรังสี แพทย์จะฉายรังสีเอกซ์พลังงานสูงเพื่อฆ่าเชื้อเซลล์มะเร็ง แต่อาจส่งผลให้ผู้ป่วยเกิดผลข้างเคียง เช่น ไอ หายใจถี่ เจ็บคอและปาก
- เคมีบำบัด หรือที่เรียกว่า “การทำคีโม” โดยสารละลายจะไหลผ่านทางหลอดเลือดดำ ยาคีโมจะกระจายไปทั่วร่างกาย เพื่อฆ่าเซลล์มะเร็ง วิธีการรักษาด้วยเคมีบำบัด อาจส่งผลให้ผู้ป่วยได้รับผลข้างเคียง เช่น เหนื่อยล้า อ่อนเพลีย ผมร่วง ท้องร่วง ความอยากอาหารลดลง
การเปลี่ยนไลฟ์สไตล์และการเยียวยาตัวเอง
การเปลี่ยนไลฟ์สไตล์และการเยียวยาตัวเอง
การเปลี่ยนไลฟ์สไตล์และการเยียวยาตัวเองเพื่อลดความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งหลอดลม มีดังต่อไปนี้
- รับประทานอาหารที่มีประโยชน์
- หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่
- หมั่นออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ