คนเป็นเบาหวาน ควรควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในเกณฑ์ที่คงที่ คือ น้ำตาลหลังอาหารไม่เกิน 180 มิลลิกรัม/เดซิลิตร และรับประทานยารักษาเบาหวานตามที่คุณหมอกำหนด นอกจากนี้ การปรับพฤติกรรมการรับประทานอาหาร โดยเลือกอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตต่ำ ไฟเบอร์สูง เช่น ผลไม้ ก็อาจช่วยปรับให้ระดับน้ำตาลในเลือดสมดุลยิ่งขึ้นได้ อย่างไรก็ตาม ผลไม้บางชนิดอาจไม่เหมาะสำหรับคนเป็นเบาหวาน จึงควรศึกษาวิธีการเลือกผลไม้ให้เหมาะสม เช่น ผลไม้ ที่มีน้ำตาลน้อย เพราะอาจช่วยไม่ให้ระดับน้ำตาลในเลือดเพิ่มสูงขึ้น
[embed-health-tool-bmi]
น้ำตาลส่งผลต่อสุขภาพคนเป็นเบาหวานอย่างไร
น้ำตาลที่รับประทานส่วนใหญ่ อาจเป็นน้ำตาลที่ผ่านการขัดสี เช่น น้ำตาลทรายขาว ซึ่งเป็นคาร์โบไฮเดรตเชิงเดี่ยวที่ได้จากการย่อยอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรต เช่น ของทอด น้ำอัดลม ของหวาน อาหารแปรรูป แม้น้ำตาลจะช่วยเพิ่มพลังงานให้แก่ร่างกาย ทำให้มีพลังงานในการดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ ในชีวิตประจำวัน แต่หากร่างกายดูดซึมน้ำตาลเข้าสู่กระแสเลือดมากเกินไป อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพ โดยเฉพาะในผู้ป่วยเบาหวาน เพราะจะทำให้ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดยากขึ้น เสี่ยงเกิดภาวะน้ำตาลในเลือดสูงเกิน 180 มิลลิกรัม/เดซิลิตร ซึ่งหากเป็นบ่อย ๆ หรือเรื้อรัง อาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อน เช่น โรคหัวใจ โรคไต ภาวะหัวใจวาย โรคหลอดเลือดสมอง เส้นประสาทเสียหาย จอประสาทตาเสื่อม
เพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนดังกล่าว ผู้ป่วยเบาหวาน รวมถึงผู้ที่อยู่ในภาวะก่อนเบาหวาน หรือเสี่ยงเป็นโรคเบาหวาน ควรตรวจวัดระดับน้ำตาลในเลือดเป็นประจำ และเลือกรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ โดยเฉพาะผักผลไม้ชนิดแป้งและน้ำตาลน้อย
ผลไม้ ที่มีน้ำตาลน้อย สำหรับผู้ป่วยเบาหวาน
ผลไม้ที่มีน้ำตาลน้อยเหมาะสำหรับคนเป็นเบาหวาน อาจมีดังนี้
- อะโวคาโด
อะโวคาโดเป็นผลไม้ที่มีน้ำตาลน้อย อุดมไปด้วยไขมันดีและใยอาหารหรือไฟเบอร์ ซึ่งอาจช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดของผู้ป่วยเบาหวานได้ จากการศึกษาชิ้นหนึ่งที่ตีพิมพ์ในวารสาร Journal of the American Board of Family Medicine ปี พ.ศ. 2555 ที่ได้ศึกษาความสัมพันธ์ของใยอาหารกับการรักษาโรคเบาหวานชนิดที่ 2 โดยการทบทวนงานวิจัยทั้งหมด 15 ชิ้น ที่มีการทดสอบด้วยการให้ผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 รับประทานไฟเบอร์และยาหลอก แล้วจึงวัดน้ำตาลในเลือดขณะอดอาหาร พบว่า การรับประทานไฟเบอร์อาจมีส่วนช่วยลดน้ำตาลในเลือดได้ดีกว่าเมื่อเทียบกับการรับประทานยาหลอก ดังนั้น การรับประทานไฟเบอร์จึงอาจมีประโยชน์สำหรับผู้ป่วยที่เป็นเบาหวานชนิดที่ 2
- เงาะ
เงาะมีน้ำตาลต่ำ และอุดมไปด้วยวิตามินบี 5 ที่มีส่วนช่วยลดระดับไขมันเลว หรือคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดี (Low Density Lipoprotein: LDL) ทั้งยังอาจช่วยป้องกันการเกิดภาวะแทรกซ้อนเกี่ยวกับหัวใจและหลอดเลือดในผู้ป่วยเบาหวานได้ด้วย
งานศึกษาวิจัยชิ้นหนึ่งที่ตีพิมพ์ในวารสาร Vascular Health and Risk Management เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557 ทำการศึกษาเกี่ยวกับประสิทธิภาพในการลดความเสี่ยงภาวะไขมันในเลือดสูงในผู้ที่มีความเสี่ยงโรคหัวใจและหลอดเลือดในระดับปานกลาง โดยให้กลุ่มตัวอย่างจำนวน 32 คน รับประทานยาหลอกและวิตามินบี 5 ในปริมาณ 600 มิลลิกรัม/วัน เป็นเวลา 8 สัปดาห์ จากนั้นปรับให้รับประทาน 900 มิลลิกรัม/วัน ในสัปดาห์ที่ 9-16 พบว่า ผู้ที่รับประทานวิตามินบี 5 มีคอเลสเตอรอลรวมลดลง ซึ่งอาจช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดได้
- ลูกพีช
ลูกพีชประมาณ 130 กรัม มีน้ำตาลประมาณ 10.9 กรัม และมีค่าดัชนีน้ำตาลต่ำ จึงอาจเหมาะสำหรับผู้ป่วยเบาหวาน นอกจากนี้ ลูกพีชยังอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย เช่น โพแทสเซียม วิตามินเค วิตามินซี ทั้งยังมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งอาจลดการเกิดภาวะเครียดออกซิเดชั่นและภาวะที่เซลล์ถูกอนุมูลอิสระทำลาย จนอาจทำให้เกิดโรคเบาหวาน หรือทำให้อาการโรคเบาหวานแย่ลง
งานศึกษาวิจัยชิ้นหนึ่งที่ตีพิมพ์ในวารสาร Asian Pacific Journal of Tropical Medicine เมื่อเดือนกันยายน พ.ศ. 2559 ทำการวิจัยเรื่องการค้นคว้าและความก้าวหน้าในการป้องกันภาวะแทรกซ้อนจากเบาหวานของสารต้านอนุมูลอิสระ พบว่า สารต้านอนุมูลอิสระในผัก ผลไม้ และธัญพืชอาจช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดภาวะแทรกซ้อนจากเบาหวาน เช่น โรคตับ โรคไต โรคหัวใจ โรคจอประสาทตาเสื่อม โรคเส้นประสาทจากเบาหวาน ได้
อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีผลการศึกษาวิจัยที่ยืนยันได้แน่ชัดว่า การบริโภควิตามินและแร่ธาตุที่มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ เช่น วิตามินอี วิตามินซี เพียงชนิดเดียว จะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดภาวะแทรกซ้อนจากเบาหวานได้
- กีวี
กีวีมีค่าดัชนีน้ำตาลต่ำ จึงช่วยชะลอการปล่อยน้ำตาลเข้าสู่กระแสเลือด ไม่ทำให้น้ำตาลในเลือดพุ่งสูง ทั้งยังอุดมไปด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายอื่น ๆ เช่น แคโรทีนอยด์ วิตามินซี โดยเฉพาะไฟเบอร์ที่มีส่วนช่วยชะลอการดูดซึมน้ำตาลจากอาหารที่รับประทานเข้าไป และช่วยรักษาระดับน้ำตาลในเลือดให้เหมาะสม นอกจากนี้ กีวียังมีส่วนช่วยลดระดับคอเลสเตอลรอลไม่ดี (LDL) ลดความเสี่ยงการเกิดภาวะแทรกซ้อนจากเบาหวาน เช่น โรคหัวใจและหลอดเลือด
จากการศึกษาที่ตีพิมพ์ในวารสาร Journal of Chiropractic Medicine ปี พ.ศ. 2551 นักวิทยาศาสตร์ได้รวบรวมและทบทวนงานศึกษาวิจัย 13 ฉบับที่ตีพิมพ์ในช่วงปีพ.ศ. 2513-2550 ซึ่งให้กลุ่มตัวอย่างที่มีภาวะคอเลสเตอรอลสูงรับประทานวิตามินซีอย่างน้อย 500 มิลลิกรัม/วัน และ 2,000 มิลลิกรัม/วัน เป็นเวลา 4-24 สัปดาห์ เมื่อครบกำหนดจึงวัดค่าระดับคอเลสเตอรอล และไตรกลีเซอไรด์ พบว่า การรับประทานวิตามินซีในปริมาณที่เหมาะสมอย่างต่อเนื่องอาจช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลได้อย่างมีนัยสำคัญ
- สับปะรด
สับปะรดเป็นผลไม้เมืองร้อนที่มีรสชาติหวานอมเปรี้ยวเป็นเอกลักษณ์ และมีน้ำตาลเพียง 16 กรัม มีคะแนนค่าดัชนีน้ำตาล (GL) 66 คะแนน จัดอยู่ในเกณฑ์ปานกลาง ซึ่งเหมาะสำหรับผู้ป่วยเบาหวาน นอกจากนี้ สับปะรดยังอุดมไปด้วยสารอาหารที่ให้ประโยชน์แก่ร่างกาย เช่น ไฟเบอร์ วิตามินซี สารต้านอนุมูลอิสระ
งานวิจัยชิ้นหนึ่งที่ตีพิมพ์ในวารสาร The Indian journal of medical research ปี พ.ศ. 2550 ได้ทำการศึกษาผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 จำนวน 84 คน โดยทำการตรวจระดับน้ำตาลในเลือด ไตรกลีเซอไรด์ คอเลสเตอรอลก่อนให้รับประทานวิตามินซีปริมาณ 500 มิลลิกรัม หรือ 1,000 มิลลิกรัม เป็นเวลา 6 สัปดาห์ ผลการทดสอบพบว่า ผู้ที่ได้รับวิตามินซี 500 มิลลิกรัม อาจไม่ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงใด ๆ แต่สำหรับกลุ่มที่ได้รับวิตามินซี 1,000 มีระดับน้ำตาลและไขมันในเลือดลดลง และอาจช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆ ได้อีกด้วย